ข่าว

เปิดชื่อ 6 รมต.​ ฝ่ายค้านจองกฐินซักฟอก ไร้ รมว.ปชป.-ภท.

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

เผยรายชื่อ "6 รมต." ​ฝ่ายค้านจองกฐินไม่ไว้วางใจ ไร้ชื่อ รมว.ปชป.-ภท. "สมพงษ์" ปัดมีดีล ไม่ยื่นอภิปรายหวังผลรวมขั้วอนาคต บอกมีคนอภิปราย 20-30 คน รวม "มิ่งขวัญ" ด้วย แม้เศรษฐกิจใหม่ขอถอนตัวฝ่ายค้าน

 

                 ที่ รัฐสภา วันที่ 31 มกราคม 2563 เมื่อเวลา 11.00 น. นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย ฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร พร้อมด้วยแกนนำพรรคร่วมฝ่ายค้าน อีก 5 พรรคฯ ได้แก่ นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ส.ส.บัญชีรายชื่อและหัวหน้าพรรคประชาชาติ, นายสงคราม กิจเลิศไพโรจน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคเพื่อชาติ, พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย, นายปิยบุตร แสงกนกกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ และเลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ และนายนิคม บุญวิเศษ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคพลังปวงชนชาวไทย ยื่นญัตติเพื่อให้สภาฯ เปิดการประชุมเพื่ออภิปรายทั่วไปเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล ต่อนายชวน หลีกภัย ประธานสภาฯ

 

 

 

                 โดยนายสมพงษ์ แถลงว่า สำหรับรัฐมนตรีที่ถูกยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจ จำนวน 6 คนคือ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม, พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ​ รองนายกฯ, พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย, นายวิษณุ เครืองาม รองนายก, นายดอน ปรมัติวินัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ และ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ส.ส.พะเยา พรรคพลังประชารัฐ ฐานะรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยรายละเอียดว่ารัฐมนตรีแต่ละคนจะถูกอภิปรายในเรื่องใดบ้างนั้นขอให้ติดตามในการอภิปรายของพรรคฝ่ายค้าน ซึ่งจะมีส.ส.ที่จะร่วมอภิปรายไม่ไว้วางใจ ประมาณ 20 -30 คน ซึ่งรวมถึงนายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเศรษฐกิจใหม่ที่แสดงเจตจำนงจะอภิปรายด้วย แม้พรรคเศรษฐกิจใหม่ขอถอนตัวจากพรรคร่วมฝ่ายค้าน ซึ่งการถอนตัวดังกล่าวตนได้รับหนังสือจากนายสุภดิช อากาศฤกษ์ รักษาการหัวหน้าพรรคเศรษฐกิจใหม่ แล้ว ซึ่งตนเข้าใจว่าหากส.ส.ในพรรคเศรษฐกิจใหม่ลงมติที่เป็นไปตามมติของคณะกรรมการบริหารพรรคเศรษฐกิจใหม่ที่อาจลงมติไม่เห็นด้วยกับฝ่ายค้าน ในการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลอาจทำให้เกิดความสับสนในกลุ่มฝ่ายค้านได้ ตนจึงไม่ตำหนิอะไร

                 นายสมพงษ์ ยังกล่าวตอบคำถามในกรณีที่ไม่มีชื่อรัฐมนตรีของพรรคร่วมรัฐบาลขนาดใหญ่ เช่นพรรคประชาธิปัตย์ พรรคภูมิใจไทย ว่าเป็นโอกาสที่จะพลิกขั้วร่วมกันได้ว่า ฝ่ายค้านไม่คิดเช่นนั้น กรณีที่ ส.ส.พรรคร่วมรัฐบาลไม่ถูกอภิปราย จะคิดอย่างไร เป็นสิทธิ์ที่คิดได้ แต่รายชื่อรัฐมนตรีที่ยื่นนั้น เป็นการพิจารณาข้อมูล อย่างรอบด้านครบถ้วนมีมีหลักฐานอย่างไร ซึ่งข้อมูลที่พิจารณา คือสิ่งที่รัฐบาลดำเนินการมาหลายปี

 

 

เปิดชื่อ 6 รมต.​ ฝ่ายค้านจองกฐินซักฟอก ไร้ รมว.ปชป.-ภท.

 

 

 

                 "ผมไม่คิดว่าการอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งนี้จะคว่ำรัฐบาลได้ เพราะเสียงในสภาฯ ไม่พอ แต่สิ่งที่ฝ่ายค้านคำนึงถึงคือข้อมูลที่จะสื่อสารไปยังประชาชนและให้ประชาชนตัดสินใจคว่ำรัฐบาล อย่างไรก็ตามตนยืนยันว่า การเลือกรัฐมนตรีที่อภิปรายจากข่าวที่ปรากฎและที่ยืนยันอย่างเป็นทางการ ที่ไม่ชื่อนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมนนั้น ไม่ใช่เพราะมีดีลกันทางการเมือง ที่ผ่านมาผมคุยกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมเพียงถามอาการถึงคุณพ่อของเขาเท่านั้น แต่ยังไม่ทันแสดงอะไร ท่านก็กลับบุรีรัมย์แล้ว" นายสมพงษ์ กล่าว

                 ขณะที่นายวันนอร์มูหะมัด แถลงยืนยันว่าการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคลประชาชนจะไม่ผิดหวัง โดยประเด็นที่ฝ่ายค้านต้องชี้ให้สังคมเห็น คือ ความไม่ซื่อสัตย์ การบริหารงานที่ล้มเหลว และการเอื้อพวกพ้อง อย่างไรก็ตามการยื่นญัตติดังกล่าว ถือเป็นเรื่องของฝ่ายค้าน กับรัฐมนตรีที่ถูกยื่นอภิปราย ดังนั้นพรรคร่วมรัฐบาลจะไม่จำเป็นต้องยื่นประท้วงให้เสียเวลา อย่างไรก็ตามพรรคฝ่ายค้านจะยึดระเบียบการประชุม ไม่มีพาดพิงบุคคลใดให้เกิดการประท้วง

                 "การอภิปรายครั้งนี้รุนแรงแน่นอน เพื่อให้ประชาชนได้รับทราบข้อมูล ดังนั้นกาารประท้วงอะไร หากฝ่ายค้านไม่ทำผิดข้อบังคับคงไม่มีปัญหา ดังนั้นรัฐบาลไม่ต้องส่งคนมาประท้วง แต่รัฐบาลควรคอยตอบคำถามให้ได้ก็แล้วกัน เพื่อให้ประชาชนได้ตัดสิน ขณะที่ข้อมูลที่จะอภิปรายยอมรับว่าหากมีเรื่องในอดีต ที่เกินกว่าการบริหารราชการ 6 เดือนที่ผ่านมาและเป็นเรื่องที่เกี่ยวโยงจะอภิปรายร่วมด้วย" นายวันนอร์มูหะมัด กล่าว

                 ขณะที่นายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย ฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิป ฝ่ายค้าน) กล่าวว่า สำหรับระยะเวลาที่จะอภิปรายเบื้องต้นที่หารือ ทราบว่าจะเร่ิมต้นอภิปรายวันที่ 19 กุมภาพันธ์ จนถึงวันที่ 21 กุมภาพันธ์ จากนั้นจะปล่อยเวลา และลงมติวันที่ 22 กุมภาพันธ์ ความเห็นของตนมองว่าวันเริ่มคือ 19 กุมภาพันธ์ นั้นตนเห็นด้วย แต่วันที่ปิดอภิปรายนั้นไม่อยากให้กำหนด เนื่องจากการอภิปรายดังกล่าวไม่ควรจำกัดเรื่องเวลา

 

 

 

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ