ที่สุดแข้งซามูไรในพรีเมียร์ลีก

 

 

ฮิเดโตชิ นากาตะ

สโมสร : โบลตัน วันเดอเรอร์ส

 

 

 

 

ฤดูกาล 2005-06 นากาตะ ย้ายจากฟิออเรนตินา ซึ่งเป็นทีมสุดท้ายในอิตาลีมาอยู่กับโบลตัน ที่มี แซม อัลลาไดซ์ เป็นผู้จัดการทีม 

 

โดยช่วงเวลานั้นทีมเดอะ ทรอตเตอร์ส นิยมเสริมทัพด้วยดาวเตะจอมเก๋าชื่อดังหลายรายและ นากาตะ ก็เป็นหนึ่งในนั้น โดยตอนมาค้าแข้งที่เกาะอังกฤษก็กำลังอยู่ในช่วงที่เป็นจุดพีคของนักฟุตบอล คือ 28 ปี

 

อย่างไรก็ตามช่วงเวลาค้าแข้งแดนผู้ดีไม่หวือหวานัก โดยฝากผลงาน 1 ประตูในลีก พร้อมช่วยทีมจบอันดับ 8 ก่อนจะประกาศเลิกเล่นไปแบบไม่มีใครคาดคิด

 

 

จุนนิจิ อินาโมโตะ

สโมสร : อาร์เซนอล, เวสต์บรอมวิช และ คาร์ดิฟฟ์ ซิตี (แชมเปี้ยนชิพ)

 

 

 

 

นักเตะญี่ปุ่นคนแรกที่ถูกทีมจากพรีเมียร์ลีกเซ็นสัญญามาร่วมทีม โดย อินาโมโตะ ย้ายจากกัมบะ โอซากา มาอยู่กับอาร์เซนอล ที่มีอาร์แซน เวนเกอร์ เป็นผู้จัดการทีม ด้วยสัญญายืมตัว

 

แต่ชีวิตในถิ่นไฮบิวรีรังเหย้าเดิมไม่รุ่งโรจน์เพราะไม่เคยได้โอกาสลงบู๊ในลีกแม้แต่นาทีเดียว

 

อย่างไรก็ตามหลังโชว์ฟอร์มกระฉูดในฟุตบอลโลก 2002 อินาโมโตะ ก็ถูกฟูแลมคว้าตัวร่วมทีมและเป็นที่นี่เองที่ระเบิดฟอร์มจนเป็นที่จดจำของแฟนบอล

 

อินาโมโตะ ลงสนามช่วยทีมไปถึง 2 ฤดูกาลเต็ม ไฮไลท์สำคัญคือการยิงใส่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในชัยชนะ 3-1 ของทีมเมื่อปี 2003 รวมถึงแฮตทริกในเกมนัดชิง จนทีมคว้าแชมป์อินเตอร์ โตโต คัพ

 

จากนั้น อินาโมโตะ ย้ายไปอยู่กับเวสต์บรอมวิช อัลเบียน ต่อด้วย คาร์ดิฟฟ์ ซิตี ซึ่งเป็นทีมสุดท้ายบนเกาะอังกฤษ

 

ปัจจุบัน อินาโมโตะ วัย 40 ปี ยังคงค้าแข้งอยู่กับเอสซี ซะกะมิฮะระ สโมสรในระดับเจ 3 ของญี่ปุ่น

 

 

ชินจิ คางาวะ

สโมสร : แมนฯ ยูไนเต็ด

 

 

 

 

ก่อนย้ายมาโลดแล่นในอังกฤษ คางาวะ ได้รับการจับตามองในฐานะมิดฟิลด์ที่มีลีลาการเล่นน่าตื่นตาตื่นใจที่สุดรายหนึ่งของยุโรป

 

ปี 2012 โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ต้นสังกัดในเยอรมนี ยอมปล่อยตัวกองกลางญี่ปุ่นมาร่วมทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ด้วยค่าตัว 17 ล้านปอนด์ และทำให้ คางาวะ กลายเป็นนักเตะญี่ปุ่นคนแรกของปีศาจแดง

 

ภายใต้สีเสื้อ “เรด เดวิลส์” คางาวะ อาจจะไม่โดดเด่นเท่าไหร่ แต่เขาก็ได้อยู่รับใช้ทีมนาน 2 ฤดูกาลเต็ม ลงสนามในลีกทั้งหมด 38 นัด ยิง 6 ประตู กับ 8 แอสซิสต์ และเป็นนักเตะญี่ปุ่นคนแรกที่คว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกได้สำเร็จ

 

 

 

มายะ โยชิดะ

สโมสร : เซาแธมป์ตัน

 

 

 

 

นับตั้งแต่ย้ายจาก วีวี เวนโล ในเนเธอร์แลนด์ มาอยู่กับเซาแธมป์ตัน เมื่อปี 2012 ปัจจุบันกองหลังวัย 31 ปี อยู่ค้าแข้งในถิ่นเซนต์ แมรีส์ มาแล้วนานถึง 8 ปี

 

ทีมนักบุญคว้าตัว โยชิดะ มาร่วมทีมด้วยค่าตัว 3 ล้านปอนด์ ลงเล่นเกมแรกในนัดที่ทีมพ่าย อาร์เซนอล 1-6 เมื่อปี 2012 และนับตั้งแต่เกมเปิดตัวมาถึงตอนนี้ อดีตแนวรับนาโกยา แกรมปัส เอต ถูกบันทึกเป็นนักเตะญี่ปุ่นคนแรกที่ลงบู๊ในพรีเมียร์ลีกแตะหลัก 100 นัด เป็นที่เรียบร้อย (154 นัด 6 ประตู)

 

 

ชินจิ โอกาซากิ

สโมสร : เลสเตอร์ ซิตี

 

 

 

 

ดาวเตะเจ้านักฟุตบอลเอเชียแห่งปี 2016 อยู่ค้าแข้งกับเลสเตอร์ ซิตี นานถึง 4 ฤดูกาล และเขาเป็นนักเตะคนที่สองที่คว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ได้สำเร็จ

 

แม้อดีตดาวยิงทีมชาติญี่ปุ่นรายนี้จะไม่ได้โดดเด่นในเรื่องการผลิตสกอร์ เนื่องจากตลอด 4 ซีซั่น โอกาซากิ ลงเล่นในพรีเมียร์ลีกไป 114 เกม ยิงไป 14 ประตู แต่สิ่งที่ทำให้อดีตแข้ง ชิมิสุ เอสพัลส์ เป็นที่จดจำของแฟนบอลคือความทุ่มเทและความมุ่งมั่นยามได้รับโอกาสลงสนาม และเทพนิยายของเลสเตอร์ เมื่อฤดูกาล 2015-16 โอกาซากิ ถือเป็นหนึ่งในขุนพลสำคัญที่ช่วยกันพาทีมจากย่านมิดแลนด์หักปากกาเซียนเป็นแชมป์พรีเมียร์ลีก

 

ปัจจุบัน โอกาซากิ ยังโลดแล่นอยู่ในยุโรปด้วยการค้าแข้งกับฮูเอสกา ทีมในลีกรองของสเปน

 

นักเตะญี่ปุ่นที่มาค้าแข้งพรีเมียร์ลีกจนถึงเวลานี้ มินามิโนะ นับเป็นรายที่ 9 ต่อจาก คาซูยูกิ โทดะ (สเปอร์ส), เรียว มิยาอิชิ (อาร์เซนอล, วีแกน, โบลตัน), โยชิโนริ มูโตะ (นิวคาสเซิล) รวมถึง 5 แข้งข้างบน

 

 

ภาพ AFP

เรียบเรียง : พชร นาคจู