ศรีนวล ไม่เครียด ถูกขับพ้นพรรค อนค.

         กรณีที่ประชุมพรรคใหญ่วิสามัญพรรคอนาคตใหม่ มีมติ 250 ต่อ 5 เสียง ให้ 4 ส.ส. ออกจากการเป็นสมาชิกพรรคอนาคตใหม่  ซึ่งหนึ่งในนั้น มี น.ส. ศรีนวล บุญลือ รวมอยู่ด้วยนั้น      เมื่อวันที่ 17 ธันวาคม  น.ส.ศรีนวล บุญลือ  กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า ตอนนี้รู้สึกสบายดี ไม่เครียด เพราะรู้ดีว่าวันนี้ต้องมาถึงหลังจากงดออกเสียงและโหวตสวนมติพรรค ก็พอจะทราบว่าเป็นอย่างไร

     โดยเมื่อวันที่ 16 ธันวาคมที่พรรคมีการประชุมและมีมติขับตนเองพร้อมสมาชิกอีก 3 คนออกจากพรรคนั้น ตนไม่ทราบล่วงหน้าเพราะลงพื้นที่พบปะประชาชนบนดอย แต่พอช่วงเย็นลงมาถึงบ้านพักมีชาวบ้านแวะมาสอบถามถึงได้รู้ จึงบอกชาวบ้านไปว่า ไม่เป็นไรตอนนี้รู้สึกสบายใจเพราะคนเราถ้าเป็นคนดีอยู่ที่ไหนก็ได้ ขณะนี้ยังไม่ได้ย้ายไปสมัครพรรคไหน เพราะทางพรรคยังไม่มีเอกสารแจ้งมาอย่างเป็นทางการ แต่แนวทางที่วางไว้ในอนาคตตั้งใจจะเข้าร่วมกับพรรคการเมืองที่มีนโยบายที่เกิดประโยชน์กับประชาชนมากที่สุด
      น.ส.ศรีนวล กล่าวอีกว่า พรรคที่จะเข้าร่วมหากเป็นพรรคเพื่อไทยที่ จ.เชียงใหม่ก็มีตัวแทนครบหมดแล้ว ส่วนพรรคพลังประชารัฐตัวแทนที่อยู่ในพื้นที่ก็รู้จักกันดี แม้จะเป็นคู่แข่งกันทางการเมืองแต่ก็รู้จักมักคุ้นกันดี รักกันเหมือนพี่น้อง ซึ่งการทำงานต้องมีคุณธรรมจริยธรรมไม่ไปเบียดพื้นที่ใคร ส่วนพรรคภูมิใจไทย เมื่อพิจารณาการทำงานจะเห็นว่าพรรคจะชี้ช่องให้กับ ส.ส.
       น.ส.ศรีนวล กล่าวถึงกรณีที่ตนนำหนังสือที่ได้รับจากโรงพยาบาลแม่วางไปยื่นให้กับนายอนุทิน ชาญวีรกุล รมว.สาธารณสุข   ยืนยันว่าไม่เคยคิดจะทรยศพรรรคและทรยศประชาชน แต่ต้องการทำงานเพื่อประชาชน และหนังสือที่นำไปยื่นก็ได้รับอนุมัติแล้วจนโรงพยาบาลแม่วางได้รับอนุมัติงบประมาณเรียบร้อยแล้ว ทั้งนี้หากไปอยู่พรรคภูมิใจไทยเชื่อว่าจะทำประโยชน์ให้ประชาชนได้มาก เพราะพรรคภูมิใจไทยมีรัฐมนตรีครอบคลุมหลายกระทรวง ซึ่งจะทำให้การทำงานของ ส.ส.ในพื้นที่ราบรื่นตามไปด้วย

      เมื่อถามว่าการเลือกตั้งที่ผ่านมาถูกมองว่าการที่ได้รับการเลือกตั้งมาเพราะพรรคอนาคตใหม่ น.ส.ศรีนวล กล่าวว่า การเลือกตั้งซ่อมที่ จ.นครปฐมเป็นข้อพิสูจน์ได้ดีว่า เหตุใดพรรคอนาคตใหม่ถึงไม่ได้รับการเลือกตั้ง ขณะที่ตนเองทำงานคลุกคลีกับประชาชนมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่เป็น อสม. เป็นสมาชิก อบต. , สมาชิก อบจ. เชียงใหม่ ประชาชนเห็นผลงานดี จึงมั่นใจว่าประชาชนไม่ได้ยึดติดที่พรรคแต่เน้นที่ตัวบุคคลมากกว่า อย่างไร มีหลายพรรคการเมืองที่ทาบทามเช่นกัน แต่ก็ต้องดูแนวทางการทำงานว่าสอดคล้องกันหรือไม่