พายุวิภาเยือนพื้นที่อุบลฯ 2 วัน ชาวนาโล่ง แม้ได้ข้าวกล้าเพียงครึ่ง เพราะเหี่ยวเฉาตายเกือบหมด ยังดีกว่าไม่มีปักดำ
อุบลราชธานี - ดีเปรสชั่นจากพายุวิภา เยือนพื้นที่อุบลฯ 2 วัน ทำชาวนาโล่งอก ถึงแม้จะได้ข้าวกล้าเพียงครึ่ง เพราะเหี่ยวเฉาตายเกือบหมด ก็ยังดีกว่าที่ไม่มีปักดำ ราคาต้นกล้าพุ่งมัดละ 5 บาท จ้างถอนอีกมัดละ 5 บาท ชาวนาต้องซื้อต้นกล้า กับเพื่อนบ้านที่ได้หว่านเอาไว้มาก มาปักดำนาถึงมัดละ 10 บาท และหายากอีกต่างหาก
วันที่ 1 สิงหาคม 2562 ผู้สื่อข่าวรายงาน หลังประเทศไทยได้รับอิทธิพลจากพายุไต้ฝุ่นวิภา ที่ ได้มีฝนตกติดต่อกันถึง 2 วันผ่านมาแล้ว ทำให้น้ำได้เจิ่งนองตามทุ่งนา เกษตรกรผู้ทำนาต้องรีบออกเตรียมดินกันเพื่อจะทำนาปี ให้ทันกับฤดูกาล แต่มาปีนี้ การปักดำต้นข้าวนาปี จะช้ากว่าปกติที่เคยทำมา เนื่องจากต้องประสบกับสภาวะของความแห้งแล้งที่ยาวนาน ตามปกติการทำนา หากฝนดีก็จะก็จะมีการปักดำกันตั้งแต่เดือนเดือนมิถุนายนไปแล้วเสร็จอย่างช้าก็ประมาณต้นเดือนกรกฎาคม ส่วนปีนี้ เข้าเดือนสิงหาคมแล้ว ชาวนาพึ่งจะได้ลงมือปักดำนากัน
หลายคนบอกว่า ขอขอบคุณพายุไต้ฝุ่นวิภา เป็นอย่างมาก ที่ทำให้มีน้ำได้ทำนากัน เชื่อว่า พายุไต้ฝุ่นวิภา ลูกนี้ คงจะทำให้ประเทศไทยได้ทำนาปีกันอย่างทั่วหน้า ดังเช่นอดีตที่ผ่านมา ส่วนระดับน้ำในแม่น้ำโขงนั้น วันนี้ ที่บริเวณท่าน้ำหน้าวัดพระโต บ้านปากแซง ตำบลพะลาน อำเภอนาตาล จังหวัดอุบลราชธานี น้ำโขงจะขยับอย่างต่อเนื่อง แต่ก็แบบช้าๆ ทำให้น้ำอยู่ที่ประมาณครึ่งฝั่ง
เป็นระดับที่พอดี กว่าจะท่วมก็จะต้องมีพายุเข้ามาอีกหลายลูก จึงจะทำให้น้ำล้นตลิ่งได้ หลายคนต่างคาดเดากันว่า ปีนี้ น่าจะไม่มีน้ำท่วมนาข้าวอย่างแน่นอน และผลผลิตข้าวก็จะน้อยกว่าทุกๆ ปี ลักษณะเช่นนี้ ราคาข้าวจะพุ่งสูง ดังโบราณท่านว่า “ใครมีข้าวอยู่ในยุ้ง เท่ากับว่าผู้นั้นมีทองคำอยู่ในครัวเรือน”
ข่าวที่เกี่ยวข้อง