ข่าว

โปรดเกล้าฯบิ๊กตู่2

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

ที่มา หน้า 1 หนังสือพิมพ์ คมชัดลึก ฉบับวันพฤหัสบดีที่ 11 กรกฎาคม 2562

 



          โปรดเกล้าฯ แต่งตั้งคณะรัฐมนตรี "ประยุทธ์2/1" นายกฯขอประชาชนให้โอกาสรัฐบาลใหม่ทำงาน "สนธิรัตน์" นัดพรรคร่วมถกนโยบาย 11 ก.ค. ขณะที่หุ้นไทยปิดเขียวยกแพง "วิษณุ" อุ้ม "ธรรมนัส" ชี้มีมลทินไม่ขัดคุณสมบัติ เป็น รมต.ได้ "นาที" ส่อหยุดยาวตลอดชีวิต สภาวุ่น พปชร.-อนค.ฉะเดือดปมแต่งกายเข้าสภา "อ๋อย-จ่านิว-มือระเบิดราชประสงค์-ธนาธร" เฮไม่ต้องขึ้นศาลทหาร

 

 

          โปรดเกล้าฯ แต่งตั้งคณะรัฐมนตรี ‘ประยุทธ์ 2/1’ รัฐบาลเตรียมทำหนังสือขอเข้าเฝ้าฯ ถวายสัตย์ 11 ก.ค.นี้ ด้านหุ้นไทยปิดเขียวยกแผงรับข่าวดี ด้าน “วิษณุ” อุ้ม "ธรรมนัส" ชี้ต้องมลทินคดียา-ถูกไล่ออก ไม่มีผลคุณสมบัติเป็น รมต. เผย “นาที" ส่อปิดเทอมยาวตลอดชีวิต "ธนาธร" มีเสียว ศาลรธน.รับคำชี้แจงปมถือหุ้นสื่อแล้ว ลุ้นนัดไต่สวน-ลงมติ สภาวุ่นส.ส.พปชร.-อนค.เดือดปมแต่งกายไม่สุภาพ ขุดรากเหง้าซัดกันเละ "อ๋อย-จ่านิว-มือระเบิดแยกราชประสงค์-ธนาธร" เฮ ไม่ต้องขึ้นศาลทหาร


          หลังจากประเทศไทยมีการเลือกตั้งในวันที่ 24 มีนาคม 2562 โดยแกนนำจัดตั้งรัฐบาลได้แก่พรรคพลังประชารัฐ ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ล่าสุดคณะรัฐมนตรีประยุทธ์ 2 ลงตัวเรียบร้อย เมื่อได้รับการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งคณะรัฐมนตรีทั้งหมด 36 ตำแหน่ง


          โปรดเกล้าฯแต่งตั้ง ครม.ประยุทธ์2/1
          เมื่อวันที่ 10 กรกฎาคม 2562 ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศแต่งตั้งรัฐมนตรี ความว่า พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่า ตามที่ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรี ตามประกาศลงวันที่ 9 มิถุนายน พุทธศักราช 2562 แล้วนั้น บัดนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้เลือกสรรผู้ที่สมควรดำรงตำแหน่ง รัฐมนตรีเพื่อบริหารราชการแผ่นดินสืบต่อไปแล้ว อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 158 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งรัฐมนตรี ดังต่อไปนี้

 



          บิ๊กป้อมยังอยู่-สมคิดรองนายกฯ
          พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ นายวิษณุ เครืองาม เป็นรองนายกรัฐมนตรี นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ เป็นรองนายกรัฐมนตรีและ รมว.พาณิชย์ นายอนุทิน ชาญวีรกูล เป็นรองนายกรัฐมนตรี และ รมว.สาธารณสุข นายเทวัญ ลิปตพัลลภ เป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็น รมว.กลาโหม อีกตำแหน่งหนึ่ง พล.อ.ชัยชาญ ช้างมงคล เป็น รมช.กลาโหม


          นายอุตตม สาวนายน เป็น รมว.คลัง นายสันติ พร้อมพัฒน์ เป็น รมช.คลัง นายดอน ปรมัตถ์วินัย เป็น รมว.ต่างประเทศ นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ เป็น รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา นายจุติ ไกรฤกษ์ เป็น รมว.การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ นายสุวิทย์ เมษินทรีย์ เป็น รมว.การอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม


          “ธรรมนัส”พลิกไปนั่งรมช.เกษตรฯ
          นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน เป็น รมว.เกษตรและสหกรณ์ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า เป็น รมช.เกษตรและสหกรณ์ น.ส.มนัญญา ไทยเศรษฐ์ เป็น รมช.เกษตรและสหกรณ์ นายประภัตร โพธสุธน เป็น รมช.เกษตรและสหกรณ์ นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ เป็น รมว.คมนาคม นายอธิรัฐ รัตนเศรษฐ เป็น รมช.คมนาคม นายถาวร เสนเนียม เป็น รมช.คมนาคม นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ เป็น รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม นายวราวุธ ศิลปอาชา เป็น รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม


          “หม่อมเต่า”ไปโผล่แรงงาน
          นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เป็น รมว.พลังงาน นายวีรศักดิ์ หวังศุภกิจโกศล เป็น รมช.พาณิชย์ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา เป็น รมว.มหาดไทย นายนิพนธ์ บุญญามณี เป็น รมช.มหาดไทย นายทรงศักดิ์ ทองศรี เป็น รมช.มหาดไทย นายสมศักดิ์ เทพสุทิน เป็น รมว.ยุติธรรม ม.ร.ว.จัตุมงคล โสณกุล เป็น รมว.แรงงาน นายอิทธิพล คุณปลื้ม เป็น รมว.วัฒนธรรม


          สุริยะ-ณัฏฐพล-มาตามโผ
          นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ เป็น รมว.ศึกษาธิการ คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช เป็น รมช.ศึกษาธิการ น.ส.กนกวรรณ วิลาวัลย์ เป็น รมช.ศึกษาธิการ นายสาธิต ปิตุเตชะ เป็น รมช.สาธารณสุข นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ เป็น รมว.อุตสาหกรรม


          ขอปชช.ให้โอกาสรัฐบาลใหม่ทำงาน
          ด้าน พล.ท.วีรชน สุคนธปฏิภาค รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์แสดงความยินดีและย้ำว่านับเป็นพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้ ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีในวันนี้ ทั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์เน้นย้ำว่าจากนี้ไปขอให้ทุกคนที่ได้รับการโปรดเกล้าฯ ร่วมมือร่วมแรงและร่วมใจกันทำงานเพื่อความผาสุกของประชาชนและประโยชน์ของประเทศชาติอย่างสุดความสามารถ โดยจะต้องเร่งขับเคลื่อนเดินหน้าประเทศไทยในทุกมิติอย่างรวดเร็วแม้จะมีอุปสรรคอยู่มากก็ตาม นอกจากนั้นนายกฯ ขอให้ประชาชนมั่นใจและให้โอกาสรัฐบาลใหม่ในการทำงาน และเน้นย้ำว่ารัฐบาลนี้เป็นรัฐบาลของคนไทยทุกคนและมีหน้าที่ทำงานเพื่อประโยชน์และความสุขของคนไทยทุกคน


          หุ้นไทยปิดเขียวยกแผงรับข่าวดี
          วันเดียวกัน นายฐกฤต ชาติเชิดศักดิ์ ผู้ช่วยผู้จัดการ ฝ่ายวิจัย บล.เอเชียพลัส เปิดเผยถึงภาวะตลาดหุ้นปิดที่ 1,739.43 จุด บวก 17.95 จุด หรือ 1.04% ระหว่างวันเคลื่อนไหวสูงสุด 1,741.76 จุด และต่ำสุดที่ 1,724.58 จุด มูลค่าการซื้อขาย 73,610.25 ล้านบาท ว่า ตลาดหุ้นไทยปิดบวกสดใสสวนทางตลาดหุ้นภูมิภาคที่มีทั้งบวกและลบ โดยตลาดที่ปิดลบ เช่น จีน มาเลเซีย ญี่ปุ่น และอินเดีย ส่วนตลาดที่ปิดบวก เช่น เกาหลีใต้ เป็นต้น เนื่องจากมีแรงซื้อหุ้นในกลุ่มพลังงาน เป็นผลมาจากราคาน้ำมันปรับตัวเพิ่มขึ้น 1.2% นำโดย PTT, PTTEP, GULF รวมถึงมีแรงซื้อหุ้นสื่อสาร เช่น ADVANC, TRUE และค้าปลีก เช่น CPALL เป็นต้น รวมถึงราชกิจจานุเบกษาเผยแพร่ประกาศพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ ทำให้ต่างชาติเข้าซื้อสุทธิหุ้นไทย 3,250 ล้านบาท


          ลือ“สุเทพ”วิ่งหม่อมเต่าได้รมว.
          ผู้สื่อข่าวรายงานว่า รายชื่อ ครม.ส่วนใหญ่เป็นไปตามโผ มีเพียง 2 ตำแหน่งเท่านั้นคือ ร.อ.ธรรมนัส ได้เป็น รมช.เกษตรและสหกรณ์ จากก่อนหน้านี้มีชื่อจะนั่งเป็น รมว.แรงงาน ทั้งนี้ เนื่องจากแกนนำรัฐบาลเห็นว่า ร.อ.ธรรมนัส สามารถพูดคุยประสานทำความเข้าใจกับแกนนำกลุ่มเกษตรต่างๆ หากมีการชุมนุมเรียกร้อง และ ม.ร.ว.จัตุมงคล โสณกุล รมว.แรงงาน ที่ก่อนหน้านี้ในโผจะนั่ง รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แต่เนื่องจากช่วงสุดท้ายของการจัดโผ ครม. นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ผู้ร่วมก่อตั้งพรรครวมพลังประชาชาติไทย(รปช.) ได้พยายามต่อรองแกนนำรัฐบาล ขอให้คนของพรรคไปนั่งเก้าอี้ รมว.แรงงาน ตามที่ต้องการแต่แรก โดยให้เหตุผลตำแหน่ง รมต.ประจำสำนักนายกฯ ไม่ค่อยมีงานสำคัญที่จะไปสร้างคะแนนนิยมให้แก่พรรคได้


          ขณะที่บรรยากาศที่ทำเนียบรัฐบาล ได้เริ่มจัดเตรียมห้องในตึกภักดีบดินทร์ ไว้ให้ ครม.ชุดใหม่ได้ถ่ายภาพทำบัตรประจำตัวรัฐมนตรีแล้ว


          พปชร.นัดพรรคถกนโยบายวันนี้
          ด้าน นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล โฆษกพรรคพลังประชารัฐ แจ้งว่า นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ จะประชุมกับพรรคร่วมรัฐบาลเรื่องนโยบายรัฐบาล ในเวลา 19.00 น. วันที่ 11 กรกฎาคม ที่อาคารทีโอที ถนนแจ้งวัฒนะ (อาคารประชุมสภาชั่วคราว) ภายหลังการประชุมสภาผู้แทนราษฎรแล้วเสร็จ ทั้งนี้ พรรควางแผนจะส่งนโยบายทั้งหมดให้ พล.อ.ประยุทธ์พิจารณาภายในสัปดาห์หน้า โดยคาดว่าจะแถลงนโยบายต่อรัฐสภามาประมาณวันที่ 24-25 กรกฎาคมนี้


          “อนุทิน”เสียงสั่นจะทำงานซื่อสัตย์
          ที่หอประชุมใหญ่ทีโอที นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ให้สัมภาษณ์ภายหลังได้รับการโปรดเกล้าฯ ให้ดำรงตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรี และ รมว.สาธารณสุข ว่าเป็นพระมหากรุณาธิคุณอย่างสูงสุดที่ตนเคยได้รับมา และรู้สึกสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้น จากนี้ไปจะทำหน้าที่ให้บ้านเมืองและประชาชนมากที่สุด และดีที่สุดด้วยความซื่อสัตย์สุจริต


          “คนอย่างผมไม่มีโอกาสบ่อยๆ ที่จะได้ทำสิ่งเหล่านี้ให้แก่บ้านเมือง จึงเป็นโอกาสที่ดีที่จะทำทุกอย่างให้เกิดสิ่งที่ดี และเป็นประโยชน์ หากเป็นไปได้จะนำความสงบสุขและความสามัคคีกลับสู่บ้านเมือง” นายอนุทิน กล่าวด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ


          เตรียมขอเข้าเฝ้าฯ ถวายสัตย์
          ที่ทำเนียบรัฐบาล นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ภายหลังมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ครม. ชุดใหม่ว่า ในวันที่ 11 กรกฎาคม รัฐบาลต้องทำหนังสือขึ้นไปขอพระราชทานวันเข้าเฝ้าฯ ถวายสัตย์ปฏิญาณ ส่วน ครม.ชุดเก่าจะยังอยู่จนถึงวัน ครม.ชุดใหม่เข้าเฝ้าฯ ถวายสัตย์ปฏิญาณ เพราะประเทศจะว่างอยู่โดยไม่มีรัฐบาลไม่ได้ เนื่องจากขณะนี้ ครม.ชุดใหม่ยังไม่สามารถทำงานได้จนกว่าจะถวายสัตย์ปฏิญาณ ครม.ชุดเก่าจึงต้องทำหน้าที่เพื่อให้ต่อเนื่อง นาทีต่อนาที แต่การประชุม ครม.ชุดเก่าจะไม่มีแล้ว และการสั่งนโยบายอะไรก็ไม่สมควร ทำได้เพียงการบริหารปกติ อย่างไรก็ตาม สำหรับผู้ที่มีรายชื่อได้รับโปรดเกล้าฯ ให้เป็นรัฐมนตรี ไม่ควรไปต่างประเทศในช่วงนี้ เพื่อให้พร้อมสำหรับเข้าเฝ้าฯ ถวายสัตย์ปฏิญาณ


          “วิษณุ"อุ้มธรรมนัสติดคดีไร้ปัญหา
          นายวิษณุ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณี ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ส.ส.พะเยา พรรคพลังประชารัฐ(พปชร.) เคยถูกศาลออสเตรเลียพิพากษาให้จำคุก และรัฐบาลไทยทำเรื่องขอโอนตัวในสถานะนักโทษยาเสพติด จะมีผลกระทบเรื่องคุณสมบัติหรือไม่ว่า ไม่มีผลในส่วนของคุณสมบัติว่าเคยต้องคดี แต่ในเรื่องของความประพฤติ การทุจริต มาตรฐานทางจริยธรรมเหล่านี้ ถือเป็นอีกเรื่องหนึ่ง ซึ่งไม่มีเกณฑ์ชี้วัดอย่างชัดเจน ในอดีตเคยมี ส.ส.ต้องคำพิพากษาในต่างประเทศกรณีขนยาเสพติดเข้าฮ่องกง ตรงนั้นไม่มีผลกระทบอะไรในส่วนของไทย แต่จะกระทบเรื่องชื่อเสียงเกียรติยศ และอะไรหลายอย่าง อาจจะเป็นข้อห้ามอีกแบบหนึ่ง แต่จะเอาข้อหานั้นตรงๆ มาใช้ไม่ได้ แม้ข้อหาอาจจะตรงกัน แต่ศาลไทยไม่ได้เป็นผู้ตัดสิน


          ถูกไล่ออก ไม่มีผลคุณสมบัติเป็นรมต.
          ผู้สื่อข่าวถามว่ากรณีเคยถูกไล่ออกจากราชการแล้วได้รับกลับคืนในเวลาต่อมา จะมีผลต่อคุณสมบัติรัฐมนตรีด้วยหรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า แล้วแต่ว่าถูกไล่ออกจากราชการเพราะอะไร หากถูกไล่ออกเพราะทุจริตนั้นไม่ได้ แต่ถ้าไม่ใช่กรณีทุจริตไม่เป็นไร โดยเฉพาะเมื่อกลับเข้ารับราชการแล้ว ยิ่งต่อมาได้ความดีความชอบทำให้มีอะไรขึ้นไปอีก ส่วน ร.อ.ธรรมนัสมาปรึกษาเรื่องต่างๆ หรือไม่นั้น ไม่มีใครมาปรึกษา ยังไม่รู้เลยคนไหน หน้าตาเป็นอย่างไร


          แจง“นาที”รอดไม่รอดคุณสมบัติ
          นายวิษณุ กล่าวถึงกรณีศาลฎีกาผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง พิพากษาตัดสิทธิ์ทางการเมือง นางนาที รัชกิจประการ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย (ภท.) แสดงบัญชีรายการทรัพย์สินและหนี้เป็นเท็จ ว่า เห็นจากข่าว และหากตีความตามนั้น เมื่อศาลฎีกาพิพากษาออกมาเช่นนั้นก็ต้องพ้นจากสมาชิกภาพ และได้ยินว่าทางพรรคภูมิใจไทยได้เตรียมเลื่อน ส.ส.บัญชีรายชื่อลำดับถัดไปขึ้นมาแทนอยู่แล้ว


          ผู้สื่อข่าวถามว่า คำพิพากษาตัดสิทธิ์ทางการเมือง 5 ปี ตั้งแต่ปี 2556 และสิ้นสุดแล้วในปี 2561 จะกระทบต่อการดำรงตำแหน่งในปัจจุบันหรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า เรื่องการตัดสิทธิ์ทางการเมือง 5 ปี เป็นเรื่องหนึ่ง แต่การได้ชื่อว่าต้องคำพิพากษาอย่างนี้มันจะไปกระทบกับคุณสมบัติอยู่ดี สมมุติแม้จะเคยถูกจำคุกเมื่อ 10 ปีที่แล้วในคดีอื่นที่กฎหมายกำหนดไว้ในมาตรา 98 ก็ไม่ได้ ต่อให้พ้นจากช่วงเวลา 5 ปีไปก็กระทบกับเรื่องคุณสมบัติ เข้าใจว่าจะมีผลกระทบ อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้จะไม่กระทบกับสามีและบุตร แม้จะเป็นของทรัพย์สินของสามี แต่สามีไม่ได้เซ็นอะไรเลยในแบบฟอร์มที่นางนาทีได้ยื่นทรัพย์สินไว้ อีกทั้งไม่ต้องรับผิดชอบอะไร เพราะไม่ได้เป็นเจ้าหน้าที่รัฐ


          ชี้ส่อปิดเทอมตลอดชีวิตตามม.98
          ส่วนที่ถามว่า ในมาตรา 98 ไม่ได้ระบุว่าห้ามดำรงตำแหน่งทางการเมืองเป็นเวลากี่ปี หมายความว่าห้ามตลอดชีวิตใช่หรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า “เคยมีการพูดกันว่าน่าจะตลอดชีวิต เพราะตราบใดที่มาตรานี้ยังอยู่ มันจะถือว่าเคยต้องคำพิพากษาอยู่ตลอด แต่อย่างไรก็ตาม ได้พบว่า มีกรณีหนึ่งที่ศาลรัฐธรรมนูญตัดสินยุบพรรคไทยรักษาชาติ พร้อมตัดสิทธิ์กรรมการบริหารพรรคเป็นเวลา 10 ปี ซึ่งหากดูในบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญไม่มีตรงไหนที่จะบอกไว้ว่า 10 ปี จึงเป็นอำนาจของศาลรัฐธรรมนูญที่จะกำหนดระยะเวลา ดังนั้น ถ้าคำพิพากษาศาลไม่ได้กำหนดระยะเวลาก็แปลว่าไม่กำหนดว่าต้องกี่ปี แต่ไม่ต้องไปยื่นให้ตีความใดๆ ต่อ หากศาลจะเอาอย่างไรก็จะว่ามาในคำพิพากษาฉบับเต็ม”


          “เศรษฐพงค์”เสียดายต้องขาดนาที
          ด้าน พ.อ.ดร.เศรษฐพงค์ มะลิสุวรรณ โฆษกพรรคภูมิใจไทย ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีได้เลื่อนขึ้นมาเป็น ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย หลังจากที่นางนาทีถูกศาลพิพากษาจำคุกและตัดสิทธิ์การเมืองกรณีการไม่แจ้งบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินว่า ได้รับทราบเรื่องดังกล่าวจากข่าวและคำให้สัมภาษณ์ของนายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร ถึงการพ้นสภาพส.ส.ของนางนาทีแล้ว แต่ขณะนี้ยังไม่ได้รับแจ้งจากสภาให้เข้าปฏิญาณตน คงต้องรอให้ทางสภาแจ้งมาอย่างเป็นทางการก่อน อย่างไรก็ตามส่วนตัวมีความพร้อมทำงานในหน้าที่ ส.ส. พร้อมจะผลักดันกฎหมาย นโยบายของพรรคภูมิใจไทย เพื่อประโยชน์ต่อพี่น้องประชาชน และอะไรที่เป็นสิทธิของประชาชนก็พร้อมที่ช่วยผลักดันให้เต็มที่


          โฆษกพรรคภูมิใจไทย กล่าวว่า ได้เป็น ส.ส.ก็รู้สึกภูมิใจ แต่ขณะเดียวกันก็รู้สึกเสียใจและเสียดายที่พรรคภูมิใจไทยต้องขาดมือดี คนทำงานที่เรียกได้ว่าเป็นแม่ทัพภาคใต้ของพรรค คือ นางนาที ซึ่งท่านเปรียบเสมือนอาจารย์ทางการเมือง เป็นพี่สาวคนหนึ่ง ที่ผ่านมาได้รับคำแนะนำดีๆ ในการทำงานการเมืองจากท่านมาโดยตลอด อย่างไรก็ตามแม้พรรคจะขาดส.ส.คนสำคัญไป แต่เชื่อว่านางนาทียังคงจะช่วยงานพรรคต่อไป ช่วยให้คำปรึกษา คำแนะนำด้านยุทธศาสตร์การเมืองทางภาคใต้ เรียกว่าเป็นมือหนึ่งของพรรคจริงๆ เพราะการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านสามารถทำ ส.ส.ภาคใต้ให้แก่พรรคได้เป็นกอบเป็นกำ


          10 พรรคเล็กขอเอี่ยวยื่นนโยบาย
          เวลา 15.00 น. ที่หอประชุมใหญ่บริษัททีโอที 10 พรรคเล็กร่วมรัฐบาลร่วมกันแถลงข่าวเสนอนโยบายต่อรัฐบาล ผ่านนายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ โดยนายสมเกียรติ ศรลัมพ์ หัวหน้าพรรคประชาภิวัฒน์ กล่าวว่า ตามที่ 10 พรรคการเมืองได้สนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ และสนับสนุนพรรคพลังประชารัฐเป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล เมื่อรัฐบาลต้องร่างนโยบายทางกลุ่ม 10 พรรคการเมือง จึงขอเสนอนโยบายของแต่ละพรรค เพื่อให้นำไปอยู่ในร่างนโยบายของรัฐบาลด้วย โดยทั้ง 10 พรรคจะเข้าร่วมหารือถึงการจัดทำร่างนโยบายกับพรรคแกนนำที่นัดประชุม ในวันที่ 11 กรกฎาคม เวลา 19.00 น. ที่บริษัททีโอที


          ด้านนายณัฏฐพล กล่าวว่า ถือเป็นเรื่องที่น่ายินดี ที่ทั้ง 10 พรรคนำเสนอนโยบายเพื่อให้สอดคล้องกับนโยบายของพรรคแกนนำ เพื่อแสดงให้เห็นถึงการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน และหวังว่า การนำเสนอนโยบายจะเป็นจุดเริ่มต้นในการทำงานร่วมกัน


          ศาลรธน.พิจารณา“ธนาธร”หุ้นสื่อแล้ว
          เวลา 13.30 น. มีรายงานว่า คณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญนได้มีการประชุมใช้เวลาประมาณ 3 ชม. โดยที่ประชุมได้มีการพิจารณาคำร้องขอให้ตรวจสอบคุณสมบัติของนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ กรณีถือครองหุ้นบริษัท วี–ลัค มีเดีย จำกัด ประกอบธุรกิจสื่อ อันเป็นลักษณะต้องห้ามมิให้สมัครเป็น ส.ส. และอาจเป็นเหตุให้ต้องสิ้นสุดสมาชิกภาพ ส.ส.ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 101 (6) ประกอบมาตรา 98(3) หรือไม่ ภายหลังนายธนาธรได้มอบอำนาจให้ฝ่ายกฎหมายของพรรคอนาคตใหม่ ยื่นคำชี้แจงพร้อมหลักฐานแก้ข้อกล่าวหา เมื่อวันที่ 8 กรกฎาคม ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นวันครบกำหนดกรอบขยายเวลา 30 วัน


          ทั้งนี้ ในที่ประชุมได้หยิบยกกรณีดังกล่าวเข้าสู่การหารือเป็นวาระเพิ่มเติม แต่ยังไม่มีข้อสรุปว่าจะออกนั่งบัลลังก์ไต่สวนเพิ่มเติมหรือจะนัดวันประชุมลงมติตามพยานหลักฐานที่ฝ่ายผู้ร้องและผู้ถูกร้องยื่นชี้แจงในวันใด ดังนั้นจึงเลื่อนการพิจารณาออกไปก่อน


          ไม่หยิบหยกปม“บิ๊กตู่”ขาดคุณสมบัติ
          ส่วนกรณีที่นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร ส่งคำร้องมายังศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อขอให้พิจารณาวินิจฉัยความเป็นรัฐมนตรีของ พล.อ.ประยุทธ์ สิ้นสุดลงเฉพาะตัว เพราะเป็นเจ้าหน้าที่อื่นของรัฐหรือไม่ ที่ประชุมยังไม่ได้หยิบยกมาพิจารณา


          ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ในการประชุมคณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ได้มีการพิจารณารับคำชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาของ นายธนาธร ที่ได้มีการยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญ เมื่อวันที่ 8 กรกฎาคม ที่ผ่านมา รวมจำนวน 70 หน้า และเอกสารประกอบการชี้แจง 50 รายการ รวม 200 หน้า กรณีถูกคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กล่าวหาว่าถือครองหุ้นสื่อ บริษัท วี-ลัค มีเดีย จำกัด ทำให้อาจขาดคุณสมบัติในการดำรงตำแหน่ง ส.ส.นั้น โดยศาลได้ให้มีการส่งสำเนาคำชี้แจงทั้งหมดให้แก่ กกต.ในฐานะผู้ร้อง เพื่อให้พิจารณาและชี้แจงกลับมาว่ามีข้อคัดค้านใดในคำชี้แจงของนายธนาธรหรือไม่ โดยให้ กกต.ชี้แจงกลับมาภายใน 15 วัน รวมทั้งมอบหมายให้ฝ่ายวิชาการของสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญไปสรุปประเด็นคำชี้แจง พร้อมทั้งความเห็นนำเสนอต่อศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งหลังจากศาลได้รับข้อมูลทั้ง 3 ฝ่าย คือ ฝ่ายของนายธนาธร, ฝ่ายของ กกต.และฝ่ายวิชาการของสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ แล้วก็จะได้มีการกำหนดแนวทางในการพิจารณาคดีต่อไป


          สภาจ่อบรรจุตั้งกมธ.ศึกษาที่มา‘ส.ว.’
          ที่หอประชุมใหญ่ทีโอที แจ้งวัฒนะ นายศุภชัย โพธิ์สุ รองประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงกรณีนายสมคิด เชื้อคง สส.อุบลราชธานี พรรคเพื่อไทย และคณะ ยื่นญัตติต่อสภาผู้แทนราษฎรให้ตั้งคณะกรรมาธิการศึกษากระบวนการได้มาซึ่ง ส.ว.ว่า ได้พิจารณาญัตติดังกล่าวแล้ว ได้ข้อสรุปให้บรรจุญัตติเข้าสู่ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร เนื่องจากเห็นว่าอยู่ในอำนาจหน้าที่ที่สภาตรวจสอบได้ เพราะเป็นการเสนอให้ตั้ง กมธ.มาศึกษาเกี่ยวกับกระบวนการได้มาซึ่ง ส.ว. เพื่อให้บันทึกไว้เป็นประวัติศาสตร์การเมืองให้คนรุ่นหลังได้เรียนรู้ถึงกระบวนการสรรหา ส.ว.ในยุค คสช. ไม่ได้ตั้งขึ้นมาเพื่อนำไปสู่การเอาผิดกัน แต่ให้ฝ่ายการเมืองและคนรุ่นหลังได้เรียนรู้


          “แตกต่างจากญัตติที่ยื่นมาก่อนหน้าที่สภาไม่บรรจุญัตติให้ เพราะขอให้สภาตรวจสอบความถูกต้องกระบวนการสรรหา ส.ว. ของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) โดยที่สภาไม่มีอำนาจหน้าที่ทำได้ อย่างไรก็ตามญัตติที่นายสมคิดเสนอมาล่าสุดไม่ใช่เรื่องเร่งด่วนที่ต้องเร่งศึกษาให้รู้ผลโดยเร็ว ดังนั้นจึงต้องไปต่อคิวญัตติอื่นที่ถูกเสนอมามากมายก่อนหน้านี้ ยังไม่ทราบว่าจะนำเข้าสู่วาระการประชุมสภาได้เมื่อใด” นายศุภชัย กล่าว


          “ปิยบุตร”ชี้นุ่งกางเกงบอลเป็นสิทธิ
          ที่หอประชุมทีโอที นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ กล่าวว่า วันนี้ที่ประชุมสภาจะมีการพิจารณาเรื่องข้อบังคับการประชุมสภา และหากมีการอภิปรายพาดพิงถึงการแต่งกายของ ส.ส.หญิงพรรคอนาคตใหม่ ตนจะชี้แจงว่าที่ผ่านมาการแต่งตัวถือเป็นสิทธิเสรีภาพส่วนบุคคล ดังนั้นควรจะให้สิทธิ ส.ส.ในการตีความเอง โดยไม่ควรไปยึดติดกับรูปแบบ เพราะการแต่งกายตามแบบนิยมเหมาะสมก็มีพัฒนาการปรับเปลี่ยนตามยุคสมัย


          “หากจะมี ส.ส.คนใดใส่เสื้อยืด กางเกงบอล มาประชุมสภา ก็เป็นสิทธิที่จะทำได้ หากเขาโดนด่าก็เป็นเรื่องของเขาที่จะต้องรับผิดชอบ และรับผลที่จะตามมา ซึ่งจะส่งผลต่อคะแนนเสียงและความนิยม เช่นเดียวกัน หากที่ประชุมสภาจะมีการหยิบยกเรื่องการใช้ภาษถิ่นมาโจมตี ผมจะชี้แจงว่าในต่างประเทศก็อนุญาตให้ใช้ภาษาถิ่นในการอภิปรายในสภาได้ จึงเห็นว่าเรื่องเหล่านี้เป็นเรื่องเล็กน้อยไม่ควรจะนำมาเป็นสาระสำคัญ” นายปิยบุตร กล่าว


          “ชวน”กรีดส.ส.ปมวุ่นชุดแต่งกาย
          ขณะที่นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวว่า สำหรับวาระสำคัญเพื่อพิจารณาร่างข้อบังคับการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่คณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาเสร็จแล้วนั้น วันนี้เป็นการพิจารณาในชั้นรับหลักการ หากให้ความเห็นชอบก็จะไปสู่พิจารณารายมาตราในชั้นคณะกรรมาธิการวิสามัญ พร้อมให้ความเห็นเกี่ยวกับการพิจารณาเนื้อหารายมาตราว่า ไม่ควรตั้งคณะกรรมาธิการเต็มสภา เพราะจะใช้เวลาการประชุมยาวนาน และจะไม่มีเวลาพิจารณาญัตติอื่นที่จำเป็น


          เมื่อถามว่าสำหรับข้อบังคับการแต่งกายชุดไทยของส.ส. นายชวน กล่าวว่า วันนี้เป็นเรื่องของข้อบังคับยกร่างเหมือนร่างกฎหมาย ฉะนั้นกระบวนการของสภาวันนี้คือการเสนอยกร่างของกรรมาธิการเพื่อให้สภารับหลักการ เสร็จแล้วสภาก็จะตั้งกรรมาธิการเพื่อไปพิจารณาในรายละเอียดแต่ละมาตรา ถึงตอนนั้นสมาชิกสภาจึงสามารถแปรญัตติได้


          “เรื่องข้อบังคับเรื่องแต่งกายเป็นส่วนหนึ่งปลีกย่อย ไม่ใช่เป็นประเด็นมาโดยตลอด ในอดีตก็เหมือนกันก็มีข้อบังคับของเขาง่ายๆ ไม่ได้ยุ่งยากอะไร เพราะถือว่าในสภาเป็นผู้ใหญ่กันแล้ว จะไปบังคับเหมือนนักเรียนผมยาวอะไรเท่าไร ไม่ได้ไปบังคับขนาดนั้น เป็นเรื่องทั่วๆ ไป แต่งตัวสากล หรือไทยพระราชทาน แต่ถ้ามีปัญหาว่าสมาชิกประสงค์จะปรับปรุงอย่างไร ก็สามารถจะแปรญัตติได้ในตอนนั้น” นายชวน กล่าว


          พปชร.-อนค.ปมแต่งกายไม่สุภาพ
          ด้านนายอรรถกร ศิริลัทธยากร ส.ส.ฉะเชิงเทรา พรรคพลังประชารัฐ กล่าวอภิปรายแสดงความเห็นกรณีเรื่องข้อบังคับเครื่องแต่งกายในสภา โดยติดใจเรื่องระเบียบและขอตั้งข้อสังเกตเพื่อนสมาชิกว่า ไม่สบายใจตั้งแต่อาทิตย์แรกตั้งแต่เปิดประชุม เพราะส่วนตัวไม่พอใจการแต่งกายของ ส.ส.ชายของพรรคอนาคตใหม่ ที่พบว่าทุกอาทิตย์มีบางคนไม่ผูกเนกไท ไม่ให้เกียรติสถานที่ บางคนใส่เสื้อโปโลสวมทับด้วยเสื้อสูท เห็นแล้วไม่สบายใจ เพราะสำหรับตนการแต่งกายเท่ากับการให้ความเคารพ การแต่งกายเรียบร้อย ถือเป็นการเคารพคนอื่นๆ และเป็นการให้เกียรติประชาชน ทั้งนี้เคยพูดกับ ส.ส.อนาคตใหม่ ซึ่งแต่งตัวดี แต่ถามไปว่าทำไมคนอื่นไม่ผูกเนกไท ได้รับคำตอบว่า มันอึดอัด เพราะตัวใหญ่ โดยได้ยกตัวอย่างนายไผ่ ลิกค์ ส.ส.พลังประชารัฐ ซึ่ง นายไผ่ ลิกค์ ถึงกับบอกว่า เขาตัวใหญ่กว่า ยังไม่อึดอัดเลย ยืนยันส่วนตัวไม่ใช่คนหัวโบราณ แต่ขอให้ประธานกำหนดมาเลยว่าการแต่งตัวแบบไหนไม่เหมาะสม


          ปารีณาซัดเกิดจากรากเหง้าครอบครัว
          ต่อมาที น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส.ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ ลุกขึ้นอภิปรายกรณีข้อบังคับเรื่องเครื่องแต่งกาย โดยระบุว่า จากกรณีการแต่งกายในรัฐสภา ไม่เคยมีการวิจารณ์มากถึงขนาดนี้ ทำให้เกิดความเสียหาย สิ่งที่เกิดขึ้นเกิดจากสามัญสำนึก รากเหง้าครอบครัว ที่มีการอบรมจากครอบครัว ที่สั่งสอนมาจากที่บ้าน ตนไม่ขัดการแต่งกายจากผ้าไทย ไม่ขัดแต่งกายจากละครกลิ่นกาสะลอง แต่การแต่งกายเหล่านี้ ควรแต่งกายให้ถูกกาลเทศะ สภาไม่ใช่สถานที่มาหมุนตัวเล่นๆ เพราะสมาชิกสภาคนใหม่ๆ ก็ชอบมาแต่งตัวเล่นๆ จึงขอให้ประธานอบรม ส.ส.ใหม่ๆ พวกนี้ด้วย


          ด้านนายคารม พลพรกลาง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคอนาคตใหม่ ลุกขึ้นประท้วง น.ส.ปารีณา เพราะไม่อยากให้เสียดสีไปถึงรากเหง้า จึงอยากให้ประธานสภากำชับในเรื่องของคำพูด ซึ่งนายชวน ในฐานะประธานการประชุมได้ตัดบททันที โดยระบุว่า “ทำไมข้อบังคับเรื่องการแต่งกายจึงสำคัญที่สุดหรือครับ ทั้งที่เรื่องเครื่องแต่งกายนั้น รัฐสภาผ่านมา 87 ปี ไม่ค่อยมีปัญหา ใช้มาตรฐานทั่วไป แต่มีข้อบังคับข้อหนึ่งบอกว่า นอกจากชุดสากล ยังอนุญาตให้ประธานสภากำหนดชุดอื่นได้ แต่ก็ไม่ต้องเคร่งครัดว่าต้องสากลทุกคน ถ้าส่งเสริมวัฒนธรรมได้ก็เป็นเรื่องที่ดี ก็จะพิจารณากันอีกทีเป็นการภายใน ดูว่าอะไรคือความเหมาะสม อะไรที่ล้าหลัง ก็ต้องช่วยกันดูตอนตั้งกรรมาธิการพิจารณา"


          เรืองไกรแฉ 6 ส.ว.ถือหุ้นสื่อ
          นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ อดีตสมาชิกพรรคไทยรักษาชาติ เปิดเผยว่า จากคำพิพากษาของศาลฎีกา ที่ตัดสิทธิ์การลงสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.แบบแบ่งเขตของผู้สมัครจากพรรคประชาชาติ เนื่องจากขาดคุณสมบัติกรณีถือครองหุ้นสื่อนั้น คำพิพากษาดังกล่าวได้เป็นแนวทางที่สามารถตรวจสอบ ส.ว.ที่มีลักษณะเข้าข่ายถือครองหุ้นสื่อแบบเดียวกันด้วย ซึ่งพบว่า มี ส.ว.อีก 6 ราย ที่เข้าข่ายขาดคุณสมบัติ ประกอบด้วย 1.นายวิวรรธน์ แสงสุริยะฉัตร 2.นายศรีศักดิ์ วัฒนพรมงคล 3.นางศิรินา ปวโรฬารวิทยา 4.นายสม จาตุศรีพิทักษ์ 5.นายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย และ 6.นายอนุมัติ อาหมัด


          ธนาธรเฮไม่ต้องขึ้นศาลทหาร
          รายงานข่าวเปิดเผยว่า ภายหลัง พล.อ.ประยุทธ์ ออกคำสั่งหัวหน้า คสช.ที่ 9/2562 ให้โอนคดีที่อยู่ในศาลทหาร อาทิ ความผิดที่อยู่ในอำนาจพิจารณาพิพากษาคดีของศาลทหาร คำสั่งหัวหน้า คสช.ที่เกี่ยวกับการกำหนดให้คดีอยู่ในอำนาจของศาลทหาร เรื่องการดำเนินการเกี่ยวกับคดีบางประเภท ที่อยู่ในอำนาจของศาลทหารจำนวนทั้งสิ้น 5 ฉบับ ให้โอนไปยังศาลยุติธรรม จึงส่งผลให้คดีความมั่นคงที่อยู่ในศาลทหารทุกคดีโอนไปยังศาลพลเรือนโดยเร็วที่สุด เช่น คดีที่นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ถูกแจ้งข้อกล่าวหากระทำความผิดมาตรา 116 ฐานยุยงปลุกปั่นให้เกิดความไม่เรียบร้อย มาตรา 189 ช่วยเหลือหรือให้ที่พำนักผู้ต้องหา และมาตรา 215 มั่วสุมกันตั้งแต่ 10 คนขึ้นไปใช้กำลังประทุษร้าย หรือกระทำการอย่างหนึ่งอย่างใดให้เกิดความวุ่นวายขึ้นในบ้านเมือง จากกรณีมีส่วนร่วมกับกลุ่มนักศึกษากระบวนการประชาธิปไตย ชุมนุมปิดล้อมหน้า สน.ปทุมวัน ปี 2558 และนำนายรังสิมันต์ โรม ซึ่งเป็นหนึ่งในแกนนำขึ้นรถตู้ส่วนตัวไป


          จาตุรนต์-จ่านิว-พลเมืองโตกลับด้วย
          นอกจากนี้ยังมีคดีพลเมืองโต้กลับ ประกอบด้วย นายอานนท์ นำภา, นายสิรวิชญ์ เสรีธิวัฒน์ หรือ จ่านิว, นายพันธ์ศักดิ์ ศรีเทพ และนายวรรณเกียรติ ชูสุวรรณ ขัดคำสั่ง คสช. ทำกิจกรรมเชิงสัญลักษณ์เรียกร้องให้มีการเลือกตั้งภายในปี 2559 บริเวณหน้าหอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร และคดีนายจาตุรนต์ ฉายแสง อดีตที่ปรึกษาพรรคไทยรักษาชาติ ที่ถูกดำเนินคดีขัดคำสั่ง คสช. กรณีไม่มารายงานตัว ในความผิดประมวลกฎหมายอาญามาตรา 116 กระทำการยุยงปลุกปั่น และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ จากการร่วมปาฐกถาที่สมา&

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ