ชลน่าน จ่อใช้ 3 แนวทางตรวจสอบ อุตตม ชี้ขัดคุณสมบัติเป็น "รมต." ตามม.160 (4)(5) เหตุมีคดีตรวจสอบค้างที่ ป.ป.ช.ปมปล่อยกู้กรุงไทยย้ำมีลายเซ็นต์ชัดเป็นผู้ร่วมลงนาม
รัฐสภา ทีโอที - 3 ก.ค.62-นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน พรรคเพื่อไทย แถลงเตรียมใช้ช่องทางของสภาผู้แทนราษฎร ตรวจสอบบุคคลที่ได้รับการเสนอชื่อให้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรี ทั้งที่มีคุณสมบัติขัดกับรัฐธรรมนูญ หลังจากที่มีกระแสข่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ห้วหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) และ นายกฯ เตรียมแต่งตั้ง นายอุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ไปดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เนื่องจากนายอุตตม เป็นบุคคลที่ไม่เหมาะสม เพราะมีคุณสมบัติขัดกับรัฐธรรมนูญ มาตรา 160 ว่าด้วยคุณสมบัติของรัฐมนตรี (4) มีความซื่อสัตย์เป็นที่ประจักษ์ และ (5) ว่าด้วยไม่มีพฤติกรรมที่ฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตฐานจริยธรรมอย่างร้ายแรง เนื่องจากนายอุตตม มีคดีที่ทนายความอิสระยื่นให้ตรวจสอบว่าด้วยการทุจริตที่อยู่ในชั้นการพิจารณาของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) กรณีนายอุตตม ครั้งเมื่อดำรงตำแหน่งกรรมการธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ลงนามปล่อยเงินกู้ให้กับ บริษัทเครือกฤษดามหานคร ซึ่งมีหลักฐานอย่างชัดเจน
"นายอุตตมมีคุณสมบัติที่ไม่เหมาะเป็นรัฐมนตรี ซึ่งผมเตรียมใช้ช่องทางของสภาฯ ตรวจสอบ หลังจากที่ยื่นกระทู้ถามสดต่อนายกฯ แล้ว ต้องเลื่อนออกไปเป็นสัปดาห์หน้า ทั้งนี้ในช่องทางของสภาฯที่ตรวจสอบได้ คือ การตั้งกรรมาธิการตรวจสอบ การอภิปรายไม่ไว้วางใจ และอาจใช่ช่องทางยื่นถอดถอนในขั้นตอนสุดท้าย ส่วนกรณีคดีดังกล่าวที่ค้างในชั้น ป.ป.ช. เป็นเวลานานนั้น ผมต้องหารืออีกครั้งว่าจะเร่งรัดการตรวจสอบของ ป.ป.ช. ได้อย่างไรได้บ้าง ขณะที่ประเด็นของ พล.อ.ประยุทธ์ เป็นผู้แต่งตั้งรัฐมนตรีที่ม่ีคุณสมบัติขัดกับรัฐธรรมนูญนั้น อาจถูกตรวจสอบด้วยเช่นกันฐานะผู้แต่งตั้งและต้องรับผิดชอบกับการเสนอชื่อบุคคลที่มีความไม่เหมาะสมไปเป็นรัฐมนตรี และนำรายชื่อทูลเกล้าฯ แต่งตั้งด้วย" นพ.ชลน่าน กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่ากรณีที่นพ.ชลน่าน ต้องการตรวนสอบนายอุตตม ผ่านขั้นตอนของสภาฯนั้น เร่ิมจากการยื่นกระทู้ถามสด นายกรัฐมนตรี เพื่อให้พิจารณาการแต่งตั้งบุคคลที่ไม่เหมาะสมก่อนจะนำรายชื่อทูลเกล้าฯ ต่อที่ประชุมสภาฯ แต่นายกฯ ไม่สามารถเข้าร่วมประชุมได้ และนายศุภชัย โพธิ์สุ รองประธานสภาฯ คนที่สอง ระบุให้ตั้งเป็นกระทู้สัปดาห์หน้า ทั้งนี้การตรวจสอบดังกล่าวอาจไม่ทันการณ์ จึงเตรียมใช้ช่องทางตามกลไกของสภาฯ ตรวจสอบภายหลังรัฐมนตรีใหม่เข้ารับตำแหน่งแล้ว.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง