"ไทยศรีวิไลย์" จี้ อนค. แสดงจุดยืนปกป้องสถาบัน

           วันที่ 3 มี.ค. 62 - นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ หัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ แถลงข่าวถึงกรณีที่แกนนำพรรคอนาคตใหม่ ได้แสดงความคิดเห็นต่อสถาบันฯ ในลักษณะที่สร้างความไม่สบายใจแก่คนไทยทั้งประเทศว่า ตนและพรรคไทยศรีวิไลย์ ขอแถลงการณ์เรียกร้องให้แกนนำและสมาชิกพรรคอนาคตใหม่ โดยเฉพาะ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรค และนายปิยะบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรค ได้ปฏิบัติตามสิ่งที่เราเรียกร้องทั้งหมด 4 ข้อ คือ 

          1.แสดงจุดยืนต่อพี่น้องประชาชนไทย 65 ล้านคน ว่าจะจงรักภักดีต่อ ชาติ ศาสนา และที่สำคัญที่สุด จะต้องจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ อีกทั้งจะเป็นพรรคการเมืองภายใต้การปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นพระประมุขด้วยความบริสุทธิ์ใจอย่างแท้จริง 2.ขอให้พรรคอนาคตใหม่ แสดงจุดยืนว่าจะไม่แก้ไขประมวลกฏหมายอาญา มาตรา 112 โดยเด็ดขาด เพราะเป็นเรื่องละเอียดอ่อน เพราะเป็นกฎหมายเพียงข้อเดียวที่เอาไว้ปกป้องพระบรมเดชานุภาพ ไม่ให้ใครมาก้าวล่วง 

          3.ขอให้นายปิยบุตร สัญญาว่าจะไม่แสดงข้อคิดเห็นในที่สาธารณะ หรือ ที่ใดๆ เกี่ยวกับสถาบันพระมหากษัตริย์ ที่จะทำให้กระทบกระเทือนจิตใจของคนไทยทั้งชาติ หรือทำให้เยาวชนคนรุ่นใหม่เข้าใจเกี่ยวกับสถาบันพระมหากษัตริย์ไม่รอบด้าน และ 4.ขอให้นายธนาธรหยุดการกระทำ หยุดความคิด หยุดร่วมมือกับนักโทษหนีคดี หยุดความคิดที่จะใช้อำนาจทางนิติบัญญัติแก้ไขคดีความที่ศาลฏีกาได้ตัดสินไปแล้ว และ แสดงจะไม่แสดงข้อคิดเห็นในที่สาธารณะ ที่จะปฏิบัติตามภารกิจของคณะราษฏร ที่กระทำการปฏิวัติ เมื่อ พ.ศ.2475 ให้สำเร็จ เพราะจะทำให้ประชาชนชาวไทยสับสนและเป็นกังวลอย่างยิ่ง

          "สถาบันพระมหากษัตริย์ ดำรงอยู่คู่กับประเทศไทยมาเป็นระยะเวลายาวนาน ดังจะเห็นได้จากประวัติศาสตร์ ที่พระมหากษัตริย์ทุกพระองค์ ทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจต่างๆ เป็นเอนกอนันต์มากมาย และทรงสามารถปรับพระองค์ให้เข้ากับยุคสมัยต่างๆได้ อีกทั้ง หากมีการศึกษาและทำความเข้าใจอย่างถ่องแท้ ก็จะเห็นว่า โบราณราชประเพณีหลายประการก็สอดแทรกไปด้วยหลักการประชาธิปไตย ดังนั้น ผมจึงอยากแนะนำให้บุคคลทั้งสอง ทำความเข้าใจอย่างจริงจังก่อนที่วิพากษ์วิจารณ์ เพราะหากเอากรอบของตัวเองมาตัดสินโดยไม่คำนึงถึงบริบทของสังคมแล้ว ประชาชนทั่วไปก็จะมีความรู้สึกอ่อนไหวและวิตกกังวลดังที่เห็นในเวลานี้" นายมงคลกิตติ์ กล่าว.