ตำรวจรู้ตัวคนก่อเหตุ ซิ่งเก๋งไล่ชน รถจยย.แล้ว

         

              จากกรณีอุบัติเหตุรถชนแล้วหลบหนี ในพื้นที่ สน.สายไหม โดยคนขับรถยนต์ที่ขับไล่ชนรถจยย. ได้ลงมาทำร้ายผู้บาดเจ็บ จนทำให้เสียชีวิต 2 ราย คือ นายไชยวัฒน์ สังข์เผือก อายุ 23 ปี เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ และ นายศิวัช สิบตะภูกาศ อายุ  22 ปี ได้รับบาดเจ็บ ซึ่งต่อมาได้เสียชีวิตที่โรงพยาบาล เหตุเกิดเมื่อเวลา 02.30 น. ของวันที่ 10 มกราคม ที่ผ่านมา ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น

         

          เกี่ยวกับเรื่องนี้ พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษก ตร. เปิดเผยว่า จากการสอบสวนในเบื้องต้น ทราบว่า ก่อนเกิดเหตุ นายไชยวัฒน์ (ผู้ตาย) ได้ผู้ขี่รถจักรยานยนต์ โดยมี นายศิวัช ซ้อนท้ายมาด้วย และผู้ขับขี่รถยนต์ (ไม่ทราบชื่อคู่กรณี) ได้ขับตามกันมาทางถนนพหลโยธินขาออก จากทางตลาดยิ่งเจริญมุ่งหน้าไปทางรังสิต โดยเส้นทางดังกล่าวสามารถเปิดให้รถสามารถขับสวนช่องทางการจราจรกันได้ เมื่อทั้งสองฝ่ายขับรถมาถึงบริเวณที่เกิดเหตุ ได้เกิดการเฉี่ยวชนกันเกิดขึ้น ทำให้ร่างของนายไชยวัฒน์ ผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ กระเด็นออกจากตัวรถ และไปชนเข้ากับบริเวณด้านหน้ารถกระบะมิตซูบิชิสีขาว ที่ขับรถสวนมาตามถนนพหลโยธินที่ ส่วนนายศิวัช คนซ้อนท้ายได้รับบาดเจ็บสาหัส และเสียชีวิตที่โรงพยาบาลในเวลาต่อมา

 

          อย่างไรก็ตาม ภายหลังเกิดเหตุ มีพยานออกมาระบุว่า ผู้ขับขี่รถยนต์ ยี่ห้อมาสด้า พร้อมกลุ่มชายที่อยู่ในรถยนต์ ได้ลงมาทำร้ายชกต่อยผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ และผู้ซ้อนท้าย ภายหลังได้ขับรถหลบหนีไป จากนั้นพนักงานสอบสวนได้ตรวจสถานที่เกิดเหตุ ถ่ายภาพที่เกิดเหตุ เก็บพยานหลักฐานต่างๆ และนำรถที่เกี่ยวข้องทั้งหมดไปตรวจสภาพ เพื่อหาร่องรอยการเฉี่ยวชน เพื่อเป็นพยานหลักฐานในการดำเนินคดี และร่วมกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน  ทำการตรวจสอบกล้องวงจรปิดตามเส้นทางที่คาดว่ารถคู่กรณีจะหลบหนี
 

 

 

 

          “กระทั่งเวลาประมาณ 09.00 น.ในวันเดียวกัน เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถติดตาม ชาย ที่ถูกระบุว่าเป็นผู้ขับรถยนต์ ยี่ห้อมาสด้าสีดำ หมายเลขทะเบียน 7 กฌ 4457 กรุงเทพมหานคร คู่กรณีมาได้ โดยเบื้องต้นทราบว่า ขณะเกิดเหตุได้ขับรถยนต์มาเพียงลำพัง จนมาถึงที่เกิดเหตุ ได้เกิดการเฉี่ยวชนกับรถจักรยายนต์คู่กรณี จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ดำเนินการนำรถยนต์คันดังกล่าว ไปตรวจพิสูจน์หาร่องรอยการเฉี่ยวชน รวมถึงดำเนินการตรวจสอบเปรียบเทียบเพื่อยืนยันตัวผู้ขับขี่จากลายนิ้วมือแฝง และสอบสวนขยายผลเพื่อแจ้งข้อกล่าวหา และดำเนินการตามกฎหมายต่อไป"
 

          ทั้งนี้ สำหรับกรณีที่มีการกล่าวอ้างถึงการทำร้ายร่างกายผู้ขับขี่ และผู้ซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ ภายหลังเฉี่ยวชนเป็นเหตุให้ทั้งสองเสียชีวิตนั้น ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้สืบสวนสอบสวน และรวบรวมพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้อง รวมไปถึงการตรวจสอบกล้องวงจรปิด รวมทั้งผลการชันสูตรพลิกศพบาดแผลผู้ตายทั้งสองมาประกอบสำนวนในคดีต่อไป

 

          รองโฆษก ตร. กล่าวด้วยว่า เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทราบถึงกลุ่มผู้ก่อเหตุทั้งหมดแล้ว โดยพนักงานสอบสวนจะดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างถึงที่สุด โดยต้องรอผลการตรวจพิสูจน์ร่องรอยการเฉี่ยวชน ผลการชันสูตรพลิกศพผู้ตาย และผลการตรวจสอบกล้องวงจรปิด และการตรวจพิสูจน์ลายนิ้วมือแฝงภายในรถยนต์ที่คาดว่าใช้ในการก่อเหตุ รวมถึงผลการชันสูตรพลิกศพบาดแผลของผู้เสียชีวิต เพื่อนำมาประกอบในสำนวนดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย.