รู้จัก 'ดอกลิ้นมังกร' 1 ปี มีครั้งเดียว กับความลับที่ซ่อนอยู่

ในช่วงต้นเดือน ส.ค.ของทุกปี และเป็นช่วงฤดูฝน นักท่องเที่ยว ที่นิยมการเดินป่า เที่ยวชมน้ำตกหมันแดง 9 ชั้น ในเขตอุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า นอกจากจะได้ชมความงามของน้ำตกทั้ง  9 ชั้น โดยเฉพาะบริเวณหน้าน้ำตก ชั้นที่  5 ของน้ำตกหมันแดง ในช่วงนี้ ก็จะได้ยลโฉม “ดอกลิ้นมังกร” สีชมพู เพชรเม็ดงาม ที่ออกเพียงปีละ 1 ครั้งเท่านั้น โดยมีม่านน้ำตก เป็นแบล็กกราวน์ สวยงาม 

โดย “ดอกลิ้นมังกร” จะออกดอกบานพร้อมกันเป็นสีชมพูสด เกาะอยู่บนโขดหินหน้าน้ำตกหมันแดง ซึ่งนักท่องเที่ยวที่นิยมการท่องเที่ยวเชิงผจญภัย ชมความงามของธรรมชาติที่บริสุทธิ์งดงาม ต้องรีบไป เพราะว่าเป็นช่วงระยะเวลาอันสั้นที่ดอกลิ้นมังกร จะออกดอก และที่สำคัญดอกลิ้นมังกร ที่บริเวณน้ำตกหมันแดง - อุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า จะมีสีชมพูสดที่เดียว ซึ่งถือว่าแตกต่างจากที่อื่นจะออกสีส้ม

นายลำยอง ศรีเสวก หัวหน้าอุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า เปิดเผยว่า ดอกลิ้นมังกรสีชมพูที่น้ำตกหมันแดง จะออกดอกบานหน้าน้ำตกเพียงปีละหนึ่งครั้งเท่านั้น  และจะบานเต็มที่ในช่วงเดือน ส.ค.ของทุกปี นักท่องเที่ยวที่สนใจต้องเตรียมตัวมาให้พร้อม สำหรับการเดินทางด้วย เช่น ร่ม เสื้อกันฝน ถุงพลาสติกสำหรับกันกล้องถ่ายรูปเปียกน้ำ รองเท้าผ้าใบ เป็นต้น รวมทั้งถุงกันทาก ที่จะมีมากในช่วงหน้าฝนในป่าดิบชื้น และต้องช่วยกันรักษาธรรมชาติ ไม่ขึ้นไปบนโขดหินที่มีดอกลิ้นมังกรขึ้นอยู่

สำหรับทางเข้าไปเที่ยวชมดอกลิ้นมังกร จะต้องมีเจ้าหน้าที่อุทยานฯพาไปทุกครั้ง โดยจะอนุญาตให้นักท่องเที่ยวเดินไปชมน้ำตกหมันแดงทางเดียว คือ เข้าบริเวณหน่วยหมันแดง ระหว่างทางนักท่องเที่ยวจะได้ชมความงาม และสมบูรณ์ของป่าไม้ ตลอดระยะทาง 4 กม. 

ความลับของดอกลิ้นมังกร

“ดอกลิ้นมังกร” มีความลับที่หลายคนอาจไม่เคยรู้ เพราะเราได้เห็นแต่ความสวยงามของมัน โดยอุทยานหลวงราชพฤกษ์ ให้ข้อมูลว่า ความลับของดอกลิ้นมังกร จะเปิดเผยก็ต่อเมื่อดอกได้เหี่ยวแห้ง โรยราไปแล้ว จึงกลายร่างมีลักษณะคล้ายคลึงกับ “โครงกระดูกศีรษะมนุษย์” เบ้าตาเป็นโพรง ปากอ้า เปิดเผยให้เห็นความลับอันน่าสะพรึงกลัวที่ซ่อนอยู่ภายในนั่นเอง

“ดอกลิ้นมังกร” เป็นพืชล้มลุกชนิดยืนต้น มีถิ่นกำเนิดอยู่ในแถบเมดิเตอร์เรเนียนและอเมริกาเหนือ ในประเทศไทยนิยมปลูกกันทางภาคเหนือ เจริญเติบโตได้ดีเมื่ออากาศหนาวเย็น มีแสงแดด ลำต้นตั้งตรง สูง 15-80 ซม. ช่อดอกมีหลายสี อาทิ เหลือง แดง ชมพู ขาว ดอกมีลักษณะเหมือนกับใบหน้าของมังกร ในจินตนาการ เมื่อบีบข้างดอก กลีบบน และล่างจะแยกออกจากกัน คล้ายเวลาเราบีบด้านข้างปากมังกรจะอ้าและหุบ จึงเป็นที่มาของชื่อสามัญว่า “Snapdragon” นั่นเอง