4 องค์กร ผนึกกำลังจัดงานเฉลิมฉลอง 'ตรุษจีน 2567' สานสัมพันธ์วัฒนธรรมจีน-ไทย

ใกล้เข้ามาแล้วสำหรับ ตรุษจีน 2567 เทศกาลขึ้นปีใหม่ของชาวจีนและชาวไทยเชื้อสายจีนที่จะถูกจัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ สำหรับปีนี้ สถานเอกอัครราชทูตจีนฯ ประสานความร่วมมือ กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กระทรวงวัฒนธรรม และบีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) จัดงาน Happy Chinese New Year @ BTS SkyTrain เพื่อเฉลิมฉลอง เทศกาลตรุษจีน สานความสัมพันธ์วัฒนธรรมจีน-ไทย โดยมี หาน จื้อเฉียง เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทย, สุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา, เสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม และคีรี  กาญจนพาสน์ ประธานกรรมการ บริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ บีทีเอส กรุ๊ปฯ ร่วมเปิดพิธี ที่สถานีรถไฟฟ้าบีทีเอส สถานีพร้อมพงษ์

 

 

หาน จื้อเฉียง เปิดเผยว่า การเฉลิมฉลอง เทศกาลตรุษจีน เป็นวัฒนธรรมระดับโลก ที่ริเริ่มโดยประเทศจีน และตั้งแต่ปี 2547 จนถึงปัจจุบัน ทางสถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทย ได้เข้ามามีส่วนร่วมต่อการจัดกิจกรรมเทศกาล ตรุษจีน ในประเทศไทยมากขึ้น ด้วยการร่วมมือทำงานกับทางรัฐบาลของไทย และสถาบันวัฒนธรรมต่างๆ อย่างใกล้ชิด และเนื่องในเทศกาล ตรุษจีน 2567 ตรงกับนักษัตรมะโรง หรือ ปีมังกร ซึ่งคนจีนและคนไทยเชื้อสายจีนเชื่อว่าเป็นสัญลักษณ์ทางวัฒนธรรมที่สำคัญ สื่อถึงข้อความแห่งสันติภาพ ความสุข โชคดี

 

 

 

ด้าน สุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล กล่าวว่า เทศกาล ตรุษจีน 2567 ทางกระทรวงฯ คาดการณ์ว่า จะมีจำนวนนักท่องเที่ยวชาวจีน ฮ่องกง และไต้หวัน เดินทางเข้าประเทศไทย ในระหว่างวันที่ 8-16 ก.พ. 2567 จำนวน 195,825 คน เพิ่มขึ้น 137% และสร้างรายได้รวม 11,404 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 157% จากเทศกาลตรุษจีนปี 2566 ส่วนรายได้รวมจากการท่องเที่ยวในช่วงเทศกาลตรุษจีนของปี 2567 คาดว่าจะอยู่ที่ 34,390 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 29% จากปีก่อน แบ่งเป็นรายได้จากนักท่องเที่ยวต่างประเทศ 28,390 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 36% จากปีก่อน และรายได้จากนักท่องเที่ยวในประเทศ 6,000 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 6% จากปีก่อน

 

“การที่รัฐบาลสาธารณรัฐประชาชนจีนและไทย ลงนามในพิธีความตกลง และเอกสารสำคัญไทย-จีน ว่าด้วยการยกเว้นการตรวจลงตราซึ่งกันและกัน สำหรับผู้ถือหนังสือเดินทางธรรมดา และหนังสือเดินทางกึ่งราชการ ที่มีผลบังคับใช้วันที่ 1 มี.ค. 2567 จะทำให้ผู้ที่ถือหนังสือเดินทางจากทั้งสองประเทศ สามารถเดินทางเข้า และพำนักอยู่ในอีกประเทศได้นานถึง 30 วัน โดยไม่ต้องขอวีซ่านั้น จะทำให้เกิดการเดินทางท่องเที่ยวระหว่าง 2 ประเทศมากยิ่งขึ้น และจะทำให้ไทยสามารถสร้างรายได้จากการท่องเที่ยวในปี 2567 ได้ตามเป้า 3.5 ล้านล้านบาท ทั้งนี้ได้กำชับให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับภาคการท่องเที่ยว ให้ความสำคัญกับความปลอดภัย และการต้อนรับ เพื่อให้นักท่องเที่ยวเชื่อมั่นว่าเมืองไทยปลอดภัย มาแล้วจะได้รับการดูแลเป็นอย่างดี ต้องเข้มงวดการบังคับใช้กฎหมาย และปราบปรามการเอาเปรียบหลอกลวงนักท่องเที่ยว เพื่อสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับประเทศไทย”

 

 

ขณะที่ เสริมศักดิ์ พงษ์พานิช กล่าวว่า การจัดงานครั้งนี้เป็นการตอกย้ำความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างไทยกับจีน ที่จะครบ 50 ปีในปีหน้านี้ ซึ่งเชื่อว่ามาตรการฟรีวีซ่าระหว่างไทย-จีน จะทำให้เกิดการเดินทางไปมาหาสู่ และแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมระหว่าง 2 ประเทศผ่านการท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์, ศาสนา และประเพณี ขณะเดียวกันอยากเชิญชวนให้ชาวจีนได้ชม และสัมผัสกับหนังไทยหลายๆ เรื่อง ที่พยายามสะท้อนวิถีชีวิต อัตลักษณ์ ความเชื่อ ความสวยงาม และความปลอดภัยของสถานที่ท่องเที่ยวไทย และอยากเชิญชวนให้มาตามรอย หรือมาสัมผัสประสบการณ์ดีๆ ในเมืองไทย เหมือนกับความรู้สึกของคนไทยที่อยากไปตามรอยภาพยนตร์ หรือซีรีส์ต่างๆ ที่ได้ดูในหนังจีน และอยากให้ไทยเป็นหมุดหมายในการถ่ายทำภาพยนตร์ของผู้กำกับชาวจีน รวมถึงประเทศอื่นๆ มากยิ่งขึ้น

 

 

ปิดท้ายที่ คีรี กาญจนพาสน์ ระบุว่า ขอชื่นชมรัฐบาลจีนและรัฐบาลไทย ที่ได้บรรลุข้อตกลงฟรีวีซ่าให้แก่กันและกัน ซึ่งจะทำให้คนจีนและคนไทยมีความใกล้ชิดกันมากขึ้น โดยเฉพาะในช่วงเทศกาลตรุษจีน ที่คาดว่าจะมีคนจีนเดินทางท่องเที่ยว และเดินทางกลับบ้านเป็นจำนวนมาก จึงเชื่อว่า ตรุษจีน 2567 นี้จะมีคนจีนเข้ามาท่องเที่ยวประเทศไทยมากขึ้น

 

“บริษัทฯ มีความยินดีที่ได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยประชาสัมพันธ์ เทศกาลตรุษจีน ให้กับนักท่องเที่ยวต่างชาติ รวมถึงคนไทยได้รับทราบ และด้วยมาตรการด้านความปลอดภัยของรถไฟฟ้าบีทีเอส ขอให้มั่นใจได้ว่านักท่องเที่ยวจีนที่เดินทางมายังประเทศไทย และโดยสารรถไฟฟ้าบีทีเอสจะได้รับความสะดวก และปลอดภัยตลอดการเดินทาง อีกทั้งในช่วงก่อนหน้านี้ รถไฟฟ้าบีทีเอส ได้ร่วมกับ แรบบิท เปิดบริการรับชำระค่าโดยสารรถไฟฟ้าบีทีเอสผ่านแอปพลิเคชัน WeChat Pay เพื่ออำนวยความสะดวกให้นักท่องเที่ยวจีนที่ใช้บริการรถไฟฟ้าบีทีเอสได้เป็นอย่างมาก และยังเป็นการสนับสนุนนโยบายของภาครัฐบาล ในการกระตุ้นให้นักท่องเที่ยวจีนเดินทางเข้ามายังประเทศไทยมากขึ้น

 

“สำหรับผม ตรุษจีน คือ วันที่เด็กได้อั่งเปา และผู้ใหญ่ได้พักผ่อน เฉลิมฉลองกับครอบครัวด้วยความสุข อย่างเต็มที่ และขออวยพรให้ทุกท่านมีแต่ความร่ำรวย และมีสุขภาพแข็งแรงตลอดไป” คีรี กล่าว

 

 

 

สำหรับความพิเศษของ ตรุษจีน 2567 นี้ จะมีการทำประชาสัมพันธ์เพื่อเฉลิมฉลอง เทศกาลวันตรุษจีน ผ่านสื่อโฆษณาทุกประเภท บนสถานีรถไฟฟ้ากว่า 20 แห่ง และในวันเปิดงานนี้คณะผู้บริหารทั้ง 4 องค์กรยังได้ร่วมกัน แจกตุ๊กตามังกรนำโชค และชุดส้มมงคลให้กับผู้โดยสาร ซึ่งตามความเชื่อของชาวจีนส้มเป็นผลไม้มงคล ที่เปรียบเสมือนการอวยพรให้มีกิน มีใช้ ตลอดทั้งปี มีความก้าวหน้า และโชคดี