Lifestyle

'โรคตาแห้ง' ปัญหากวนใจที่ไม่ควรมองข้าม ละเลยอาจถึงขั้นตาบอด

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

'โรคตาแห้ง' ไม่ได้เป็นเพียงปัญหาความรำคาญ แต่หากละเลย อาจนำไปสู่ปัญหาสุขภาพตาที่รุนแรงขึ้น และอาจถึงขั้นสูญเสียการมองเห็น

เคยไหม? รู้สึกเหมือนมีฝุ่นผงอยู่ในตา คันตา แสบตา ตาแดง น้ำตาไหล หรือตามัว โดยเฉพาะเวลาจ้องหน้าจอนานๆ อาการเหล่านี้อาจเป็นสัญญาณเตือนของ โรคตาแห้ง ภาวะที่ดวงตาผลิตน้ำตาไม่เพียงพอ หรือน้ำตาที่ผลิตออกมามีคุณภาพไม่ดี ส่งผลให้ดวงตาสูญเสียความชุ่มชื้น

 

โรคตาแห้งไม่ได้เป็นเพียงปัญหาความรำคาญ แต่หากละเลย อาจนำไปสู่ปัญหาสุขภาพตาที่รุนแรงขึ้น เช่น กระจกตาอักเสบ เยื่อบุตาอักเสบ กระทั่งสูญเสียการมองเห็น เรามาทำความรู้จักโรคตาแห้ง สาเหตุ อาการ วิธีการรักษา และแนวทางป้องกัน เพื่อให้คุณห่างไกลจากปัญหา ตาแห้ง และรักษาสุขภาพ ดวงตา ให้สดใสอยู่เสมอ

พญ.กนกวรรณ ยุตติธรรม

 

พญ.กนกวรรณ ยุตติธรรม จักษุแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ประจำโรงพยาบาลรามคำแหง อธิบายว่า โรคตาแห้ง (Dry Eyes) หรืออาการ ตาแห้ง เป็นอาการที่เกิดขึ้นเมื่อร่างกายผลิตน้ำตาออกมาได้ไม่เพียงพอหรือคุณภาพของน้ำตาไม่เพียงต่อการหล่อลื่นและปกป้อง ดวงตา ส่งผลให้มีอาการระคายเคืองในดวงตา ตาแดง และไวต่อแสง ซึ่งอาการที่เกิดขึ้นอาจส่งผลต่อการมองเห็นและการใช้ชีวิต

 

สาเหตุของ โรคตาแห้ง

 

โดยปกติแล้วในน้ำตาจะมีส่วนผสมของน้ำ ไขมัน และเมือก เพื่อช่วยให้พื้นผิวของดวงตาเรียบเนียน และป้องกันการติดเชื้อในบริเวณ ดวงตา แต่หากปริมาณน้ำตาไม่เพียงพอหรือคุณภาพของน้ำตาไม่ดีพอต่อการหล่อลื่นจะส่งผลให้เกิดอาการ ตาแห้ง ตามมา โดยอาจเกิดได้จากหลายสาเหตุ เช่น

 

  • ความเสื่อมของต่อมน้ำตาไมโบเมียน ซึ่งเป็นต่อมที่อยู่ที่เปลือกตา ทำหน้าที่สร้างน้ำตามาหล่อลื่นดวงตา
  • ความไม่สมดุลของฮอร์โมนในร่างกาย โดยเฉพาะในเพศหญิง ทำให้คุณภาพของน้ำตาลดลง
  • การใส่คอนแทคเลนส์
  • อาการภูมิแพ้ที่ตา ซึ่งอาจเกิดจากสิ่งแวดล้อมที่มีฝุ่น ควัน และมลภาวะ
  • พฤติกรรมการใช้ชีวิตประจำวัน เช่น การจ้องหน้าจอคอมพิวเตอร์ หรือสมาร์ทโฟนเป็นเวลานานเกินไป การใช้ยาบางประเภท เช่น ยาคุมกำเนิด ยาแก้แพ้ ยาต้านซึมเศร้า ยาลดความดันโลหิตบางชนิด เป็นต้น

 

 

อาการของ โรคตาแห้ง

ผู้ป่วยมักมีอาการที่เกิดกับตาทั้งสองข้าง ดังนี้

 

  • รู้สึกระคายเคือง แสบร้อน หรือคันบริเวณดวงตา
  • มีเมือกอยู่ในดวงตาหรือรอบๆ ดวงตา
  • ตาไวต่อแสง
  • ตาแดง โดยเฉพาะเมื่อถูกลม หรืออยู่ใกล้ควัน
  • รู้สึกเหมือนมีบางอย่างอยู่ในตา เช่น ขนตา หรือฝุ่น
  • ใส่คอนแทคเลนส์ได้ยาก หรือรู้สึกเจ็บเมื่อใส่คอนแทคเลนส์
  • ตามัวหรือตาล้า โดยเฉพาะเวลาอ่านหนังสือหรือใช้สายตา

 

การป้องกัน โรคตาแห้ง

อาการของโรคตาแห้งสามารถป้องกันได้ด้วยวิธีต่อไปนี้

 

  • ระวังไม่ให้ดวงตาสัมผัสโดนลมโดยตรง เช่น การใช้ไดร์เป่าผม การเปิดพัดลมจ่อหน้า
  • หากอยู่ในห้องแอร์นานๆ หรือสถานที่ที่มีสภาพอากาศแห้งมาก ควรเพิ่มความชุ่มชื้นในอากาศ โดยอาจใช้เครื่องเพิ่มความชื้นภายในห้อง
  • สวมใส่แว่น หรืออุปกรณ์ที่ช่วยป้องกันดวงตาจากการสัมผัสลม
  • พักสายตาระหว่างการอ่านหนังสือ หรือการทำงานที่ต้องใช้สายตาติดต่อกันเป็นเวลานาน โดยการหลับตา 2-3 นาที หรือกระพริบตาบ่อยๆ เพื่อให้น้ำตากระจายตัวในดวงตาอย่างทั่วถึง
  • จัดตำแหน่งของจอคอมพิวเตอร์ให้อยู่ต่ำกว่าระดับสายตา เพื่อลดการเปิดดวงตาเป็นบริเวณกว้าง ซึ่งจะช่วยลดการระเหยของน้ำตา

 

การรักษา โรคตาแห้ง

  • การใช้น้ำตาเทียมเพิ่มความชุ่มชื้นให้ดวงตา
  • การใช้ยาหยอดตากลุ่มสเตียรอยด์ เพื่อลดการอักเสบของผิวนัยน์ตาหรือผิวเยื่อบุตา และช่วยบรรเทาอาการคันระคายเคืองตา แต่การใช้ยากลุ่มนี้จะต้องอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์ และใช้เป็นช่วงเวลาสั้นๆ เท่านั้น
  • การทำความสะอาดเปลือกตาด้วยน้ำยาพิเศษ เพื่อกำจัดเชื้อโรคหรือสิ่งสกปรกที่อยู่บริเวณรอบเปลือกตา
  • การประคบน้ำอุ่น อุณหภูมิประมาณ 41- 43 องศาเซลเซียส เป็นประจำเช้า-เย็น
  • การปรับพฤติกรรมการใช้ชีวิต ลดการเพ่งหน้าจอคอมพิวเตอร์ หรือสมาร์ทโฟน และพักสายตาเป็นระยะๆ

 

...หาก ตาแห้ง และมีอาการรุนแรง ควรไปพบจักษุแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัยและรับการรักษาอย่างถูกต้อง...

 

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ