Lifestyle

'ต่อมทอนซิลอักเสบ' โรคเกี่ยวกับคอที่ต้องคอยดูแลและใส่ใจ

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

'ต่อมทอนซิลอักเสบ' แม้ว่าจะไม่มีอันตรายร้ายแรงถึงชีวิต แต่ถ้าละเลยไม่รักษาอย่างถูกต้อง จะส่งผลกระทบต่อคุณภาพในการใช้ชีวิตประจำวัน หรืออาจส่งผลให้เกิดโรคแทรกซ้อนร้ายแรงได้

'ต่อมทอนซิลอักเสบ' เป็นอาการป่วยที่พบบ่อยในกลุ่มคนทุกเพศทุกวัย อาการหลักคือต่อมทอนซิลบวมแดง เจ็บคอ กลืนลำบาก มีไข้ เสียงเปลี่ยนและมีกลิ่นปาก แม้ว่าจะไม่มีอันตรายร้ายแรงถึงชีวิต แต่ถ้าละเลยไม่รักษาอย่างถูกต้องก็อาจส่งผลกระทบต่อการดำเนินชีวิตของเราได้ วันนี้เราจะมาทำความรู้จักกับสาเหตุของอาการต่อมทอนซิลอักเสบ รวมถึงวิธีการดูแลรักษา เพื่อให้รู้ว่าจะต้องทำอย่างไรหากป่วย

 

พญ.ธัญรดา เลี่ยมเส้ง

 

พญ.ธัญรดา เลี่ยมเส้ง แพทย์ผู้ชำนาญการด้านโรคหู คอ จมูก โรงพยาบาลรามคำแหง อธิบายว่า ต่อมทอนซิล เป็นด่านแรกของการป้องกันการเจ็บป่วย มีหน้าที่ผลิตเซลล์เม็ดเลือดขาว เพื่อช่วยในการต่อสู้กับเชื้อโรค ไม่ว่าจะไวรัสหรือแบคทีเรียที่เข้าสู่ร่างกาย หากเชื้อเหล่านั้นผ่านเข้าทางปากและจมูก ต่อมทอนซิลจะทำหน้าที่สู้กับเชื้อเหล่านั้นจนเกิดเป็นหนอง ป้องกันเชื้อโรคไม่ให้ผ่านไปยังทางเดินหายใจส่วนล่าง 

 

 

ผู้ที่ป่วยเป็น ต่อมทอนซิลอักเสบ จะมีอาการไอ เจ็บคอเรื้อรังเป็นเวลานาน เมื่อทานอาหารจะกลืนลำบากเพราะเจ็บคอ เมื่อส่องไปในคอจะพบว่าคอแดงอักเสบ บางครั้งก็มีจุดบวมแดง ปากมีกลิ่น เสียงแหบ ต่อมน้ำเหลืองที่คอโต กดแล้วเจ็บ นอกจากนี้ยังมีอาการแทรกซ้อนอื่นๆ ร่วมด้วย เช่น มีไข้ ปวดหัว ปวดหู ฯลฯ

 

อาการสังเกตต่อมทอนซิลอักเสบ

 

  • ต่อมทอนซิลบวมแดง กดแล้วเจ็บ
  • กลืนอาหารลำบาก เจ็บคอเวลากลืน
  • ปวดศีรษะ
  • มีไข้ หนาวสั่น
  • เสียงแหบหรือเสียงเปลี่ยน เนื่องมาจากภาวะต่อมทอนซิลโต
  • มีกลิ่นปาก คลำได้ต่อมน้ำเหลืองที่คอบวม โต กดเจ็บ
  • ปวดร้าวที่หู
  • อาจมีอาการอาเจียนหลังรับประทานอาหาร

 

 

การรักษาต่อมทอนซิลอักเสบ

 

โดยการรักษาภาวะ ต่อมทอนซิลอักเสบ นั้น แพทย์จะตรวจวินิจฉัยและทำการรักษาตามอาการ หากมีอาการอักเสบไม่มาก เจ็บคอเล็กน้อย ไม่มีไข้ อาจไม่จำเป็นต้องใช้ยา ในผู้ป่วยที่มีอาการมากแพทย์จะวินิจฉัยให้รักษาโดย

 

  • การรักษาโดยใช้ยาปฏิชีวนะ เช่น การให้ยาบรรเทาอาการเจ็บคอ ยาลดน้ำมูก หรือลดไข้ ให้ยาแก้อักเสบเพื่อกำจัดเชื้อที่เป็นสาเหตุ ถ้าการอักเสบนั้นเกิดจากเชื้อแบคทีเรีย ซึ่งโดยส่วนใหญ่ผู้ป่วยโรคต่อมทอนซิลอักเสบ จะมีอาการดีขึ้นในช่วง 3-7 วันหลังเข้ารับการรักษา
  • การรักษาด้วยวิธีการผ่าตัด กรณีที่การรักษาด้วยยาปฏิชีวนะไม่ได้ผล เกิดภาวะแทรกซ้อนมีภาวะต่อมทอนซิลอักเสบเรื้อรัง อาจจะต้องทำการรักษาโดยการผ่าตัด ตัดต่อมทอนซิล ซึ่งการรักษาโดยวิธีการผ่าตัดจะช่วยให้อาการต่อมทอนซิลอักเสบเรื้อรังหายเป็นปกติได้

 

หากพบว่าภายใน 1 ปีมีอาการทอนซิลอักเสบมากกว่า 7 ครั้ง ควรปรึกษาพบแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุ และรักษาอย่างถูกต้อง เพราะต่อมทอนซิลที่เกิดการอักเสบ จะส่งผลกระทบต่อคุณภาพในการใช้ชีวิตประจำวัน หรืออาจส่งผลให้เกิดโรคแทรกซ้อนร้ายแรงได้

 

 

การดูแลตัวเองเมื่อเป็น ต่อมทอนซิลอักเสบ

 

  • พักผ่อนให้เพียงพอ
  • ดื่มน้ำมากๆ เพื่อให้คอชุ่มชื้น
  • รับประทานอาหารอ่อนๆ เช่น โจ๊ก ข้าวต้ม และดื่มเครื่องดื่มที่ช่วยให้สบายคอ เช่น น้ำอุ่น ชาที่ปราศจากคาเฟอีน น้ำอุ่นผสมน้ำผึ้ง หรือไอศกรีมแท่ง
  • กลั้วปากด้วยน้ำเกลือ สามารถทำได้เองที่บ้าน ใช้เกลือ 1 ช้อนชาผสมน้ำเปล่าประมาณ 250 มิลลิลิตร กลั้วลำคอแล้วบ้วนทิ้ง จะช่วยให้บรรเทาอาการเจ็บคอลงได้
  • รักษาความชุ่มชื้นของบ้าน หลีกเลี่ยงอากาศแห้งเนื่องจากจะส่งผลให้ระคายเคืองที่คอและเจ็บคอยิ่งขึ้น
  • เด็กที่อายุมากกว่า 4 ปีขึ้นไปอาจอมยาอมเพื่อบรรเทาอาการระคายคอ
  • หลีกเลี่ยงสารที่ก่อความระคายเคืองที่คอ เช่น ควันบุหรี่ และผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดทั้งหลาย
logoline