Lifestyle

ยื่น Portfolio ใช้เอกสารอะไรบ้าง ยื่นที่ไหน ต้องเตรียมตัวอย่างไรก่อนยื่น

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

ยื่น Portfolio สมัครเรียนต่อมหาวิทยาลัย ยื่นตอนไหน ต้องใช้เอกสารอะไรบ้าง เตรียมตัวยังไงให้ผลงานเข้าตากรรมการ

ช่วงเปลี่ยนผ่านจากวัย มัธยม เข้าสู่เส้นทางชีวิตของนิสิต นักศึกษา มหาวิทยาลัย น้องนักเรียนหลายคนคงกำลังหาคำตอบกันอยู่ว่า Portfolio คืออะไร สำคัญหรือไม่ในการใช้สมัครเรียนต่อ และจำเป็นต้องใช้สำหรับการสมัครเรียนในรอบไหนบ้าง คมชัดลึกออนไลน์ ได้รวบรวมข้อมูลมาไว้ให้แล้ว

 

Portfolio คืออะไร

 

Portfolio คือ แฟ้มสะสมผลงาน ไม่ว่าจะเป็นผลงานทางวิชาการหรือทางกิจกรรมที่ได้ทำมาตลอดช่วงการศึกษามัธยม รางวัลที่เคยได้รับ ประวัติการฝึกอบรม โครงการที่เคยเข้าร่วม ซึ่งจะเป็นตัวช่วยให้คณะกรรมการได้เห็นถึงศักยภาพเจ้าของแฟ้ม เพื่อเป็นจุดพิจารณาว่ามีความสามารถสอดคล้องกับคณะที่จะสมัครเข้าเรียนหรือไม่

ประเภทของ Portfolio

แบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ

1. Portfolio หรือ แฟ้มสะสมผลงาน ที่ใช้รวบรวมผลงานทางวิชาการ กิจกรรม ที่ได้ทำมาตลอดช่วง 3-4 ปี หรือในช่วงมัธยมปลายนั่นเอง

2. Portfolio หรือ แฟ้มสะสมผลงาน ที่จัดทำขึ้นเฉพาะตามโจทย์ของ คณะสาขาที่เข้าเรียน คัดมาแบบเน้นๆ เฉพาะกิจกรรมที่มีความเกี่ยวข้องโดยเฉพาะ ซึ่งจะมีระบุเอาไว้ในประกาศของบางมหาวิทยาลัย บางคณะ สาขา จุดนี้ต้องสังเกตรายละเอียดให้ดี

Portfolio ยื่นตอนไหน ยื่นที่ไหน

 

สำหรับเด็ก TCAS หรือ Thai University Central Admission System ซึ่งเป็นระบบการคัดเลือกสอบเข้ามหาวิทยาลัย การยื่น Portfolio จะอยู่ในรอบที่ 1 ของการรับสมัครคัดเลือก และวันที่จะต้องยื่นจำเป็นต้องติดตามปฏิทินของแต่ละปีว่าจะเปิดรับสมัครด้วยการยื่น Portfolio แฟ้มสะสมผลงาน วันไหน และปิดรับสมัครเมื่อไหร่ ใครที่คาดหวังเอาไว้ว่าอยากเข้ามหาวิทยาลัยในดวงใจตั้งแต่ในรอบนี้ ก็ต้องติดตามและวางแผนเก็บผลงานไว้ให้ดีเพื่อจะได้ไม่พลาดโอกาสไป เพราะในรอบนี้เองการแข่งขันค่อนข้างสูงเลยทีเดียว

 

นอกจากนี้ ยื่น Portfolio ยังมีนอกรอบจากการสมัครผ่านระบบ TCAS ซึ่งจะเป็นในรอบของมหาวิทยาลัยเปิดรับสมัครเอง หรือรอบโควตาพิเศษ สำหรับเด็กกิจกรรมต่างๆ ซึ่งก็จะต้องติดตามให้ดีเช่นกันเพื่อไม่ให้น้อง Portfolio ที่เตรียมไว้ต้องแห้วไม่ได้ยื่นไปให้คณะกรรมการยลโฉม

อยากยื่นสมัครรอบ Portfolio ต้องเตรียมตัวยังไง

 

ที่นั่งในมหาวิทยาลัยมีอยู่อย่างจำกัดฉันใด ความพยายามต้องมีให้มากกว่าฉันนั้น นอกจากผลการเรียน และคะแนนสอบ ที่เป็นส่วนสำคัญในการเข้าศึกษาต่อมหาวิทยาลัยแล้ว ผลงานกิจกรรม ก็สำคัญไม่น้อยไปกว่ากัน  ยิ่งถ้าได้รางวัลการันตีมาแนบไว้ใน Portfolio ด้วยแล้วล่ะก็ สิ่งนี้จะช่วยให้แฟ้มสะสมผลงานของเราเข้าตา ต้องใจกรรมการได้มากเลยที่เดียว

 

ฉะนั้นแล้ว การที่จะมีผลงานเข้ามาเก็บไว้ใน Portfolio ให้ได้เยอะ น้องๆ ก็ต้องเตรียมตัวเองมาตั้งแต่เนิ่นๆ หากรู้ตัวแล้วว่าจะเข้าเรียนต่อคณะ สาขาอะไร ที่มหาวิทยาลัยไหน ต่อจากนั้นต้องเริ่มผันตัวเองเป็นนักล่ารางวัลกิจกรรม

 

ไม่ว่าจะเป็นภายในโรงเรียนที่มีจัดกิจกรรมทั้งทางวิชาการ หรือกิจกรรมสันทนาการต่างๆ การเข้าร่วมแล้วเก็บรวบรวมเกีบรติบัตรมานั้นก็เป็นตัวช่วยดึงคะแนนได้เช่นกัน

 

ส่งผลงานเข้าประกวด การที่จะสมัครเข้าเรียนในคณะสาขาตั้งใจไว้ หากน้องๆ มีผลงานที่เกี่ยวข้องมากเท่าไหร่ จะยิ่งทำให้การสัมภาษณ์ในรอบ Portfolio ราบรื่นมากขึ้น ทำให้บรรยากาศของการพูดคุยกับกรรมการเป็นไปได้อย่างไม่ติดขัดเพราะเราเองก็มีเรื่องคุย ตอบได้อย่างไม่เขินอายว่า เราเคยทำกิจกรรมอย่างนี้มาก่อน เลยเป็นเหตุผลที่ทำให้เรารู้สึกว่าการเข้าเรียนในคณะสาขานี้ เป็นความฝันของเราอย่างที่ไม่มีอะไรจะเหมาะไปกว่านี้อีกแล้ว

 

สรุปโดยรวมก็คือ หากต้องการจะเป็นผู้ได้เข้าเส้นชัยในรอบการยื่น Portfolio ต้องเตรียมตัวด้วยการเป็น นักล่ารางวัล เพื่อคว้าผลงานมาแนบไว้ในแฟ้มสะสมผลงานเตะตาและเรียกคะแนนจากคณะกรรรมการได้มากที่สุดนั่นเอง

 

Portfolio ที่ดีต้องมีอะไร ใช้เอกสารอะไรบ้าง
 

  1. หน้าปก เป็นส่วนแรกและเป็นส่วนที่สำคัญ ต้องออกแบบให้มีความโดดเด่น ดึงดูดสายตาคณะกรรมการให้สนใจ และสิ่งที่ควรอยู่บนหน้าปกต้องมี รูปถ่าย ชื่อ-นามสกุล และชื่อโรงเรียน
  2. ประวัติส่วนตัว ในส่วนนี้จะเป็นส่วนที่ทำให้คณะกรรมการรู้จักตัวเรามากขึ้น โดยข้อมูลที่แนะนำว่าควรจะมี ได้แก่ ชื่อ-นามสกุล ชื่อเล่น วันเดือนปีเกิด อายุ สัญชาติ เชื้อชาติ ศาสนา จำนวนพี่น้อง จบการศึกษาหรือกำลังศึกษาอยู่ที่โรงเรียนใด รวมถึงระบุระดับชั้น สายการเรียน ชื่อบิดา มารดา เป็นต้น
  3. ประวัติกาารศึกษา ใส่ข้อมูลได้ตั้งแต่ระดับอนุบาลหรืแประถมศึกษา ไปจนถึงระดับการศึกษาปัจจุบันได้เลย แต่ข้อมูลที่ใส่ต้อองอยู่ในรูปแบบของการสรุปมาแล้ว ต้องทำให้ออ่านและเข้าใจง่าย
  4. ผลงาน ส่วนสำคัญที่สุดที่จะทำให้คณะกรรมการได้เห็นศักยภาพและทักษะของน้องๆ ที่ได้สั่งสมมาทั้งหมด วึ่งในส่วนนี้แนะนำว่าให้เลือกผลงานที่มีความโดดเด่นเข้ามานำเสนอ ไม่ว่าจะเป็นระดับโรงเรียน ระดับจังหวัด หรือระดับประเทศก็ได้ และหากเป็นไปได้ แนะนำให้เลือกผลงานที่มีความเกี่ยวข้องกับสาขาที่เราสมัครเรียน
  5. กิจกรรมที่เคยเข้าร่วม จะมีลักษณะคล้ายๆ กับผลงาน แต่จะเน้นไปในด้านที่ไม่ใช่วิชาการ เช่น ความสามารถพิเศษต่าง ๆ กิจกรรมกีฬาสี การเป็นประธานรุ่น เป็นประธานเชียร์ งานแสดงตามวันสำคัญต่าง ๆ เป็นต้น
  6. รูปถ่าย เป็นส่วนที่จะทำให้กรรมการได้เห็นภาพการทำกิจกรรมของเรา อาจจะไม่ต้องใส่ไปทั้งหมด เลือกให้เป็นกิจกรรมที่โดดเด่นและตรงกับคณะสาขาที่อยากเข้าเรียนก็พอแล้ว
  7. ใบประกาศนียบัตร หลักฐานสำคัญอีกชิ้นที่จะทำให้คณะกรรมกาารไดด้รู้ว่า เราเคยผ่านการอบรม หรือร่วมกิจกรรม ได้รางวัลอะไรมาบ้าง (ส่วนนี้แนะนำให้ใส่เป็นสำเนา เพราะในการสมัครรอบ Portfolio บางที่จะไม่คืนกลับมาให้ )
  8. ใบแสดงผลการเรียน ใช้เป็นหลักฐานในการยืนยันผลการเรียน รวมไปถึงความประพฤติต่างๆ จากโรงเรียนเดิม ซึ่งควรมีทั้งของระดับชั้น ม.ต้น และระดับชั้น ม.ปลาย

ข้อมูลอ้างอิงจากเว็บไซต์ : chulatutor

 

สุดท้ายแล้วทีมข่าว คมชัดดลึกออนไลน์ อยากฝากถึงน้องๆ ที่กำลังเตรียมตัวเพื่อนสมัครเข้าเรียนต่อมหาวิทยาลัยว่า "ความพยายามไม่เคยทำร้ายใคร" และขอให้น้องๆ ได้เข้าเรียนในมาวิทยาลัย คณะ สาขา ที่ตั้งใจไว้นะ

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ