รู้จัก ประเพณีตักบาตรดอกไม้ ตักบาตร ดอกเข้าพรรษา ประเพณีสำคัญ วันเข้าพรรษา

ประเพณี ตักบาตรดอกไม้ ที่วัดพระพุทธบาทราชวรมหาวิหาร อ.พระพุทธบาท จ.สระบุรี ใน วันเข้าพรรษา เป็นประเพณีที่สำคัญของจังหวัดสระบุรี และมีเพียงแห่งเดียวในประเทศไทย ที่นำดอกไม้พื้นบ้านที่ชาวเมืองนำมาตักบาตรในวันดังกล่าว เป็นดอกไม้ป่า ชาวสระบุรีเรียกว่า ดอกเข้าพรรษา เพราะดอกจะบานก็เฉพาะช่วงเทศกาลเข้าพรรษาเท่านั้น ในงานประกอบด้วยการตักบาตรพระในจังหวัดสระบุรี จำนวน 3,000 รูป การถวายเทียนพรรษา พระราชทาน และเทียนจังหวัดสระบุรี ขบวนแห่ทางศิลปวัฒนธรรมประเพณีพื้นบ้านชาวสระบุรี ขบวนจำลองพยุหยาตราของสมเด็จพระเจ้าทรงธรรมเสด็จมานมัสการรอยพระพุทธบาท การประกวดไม้ดอกไม้ประดิษฐ์จากใบตอง และขบวนตักบาตรดอกไม้

ดอกเข้าพรรษา เป็นดอกไม้ชนิดหนึ่ง ต้นคล้ายๆ กระชาย หรือว่านขมิ้น สูงประมาณไม่เกินหนึ่งศอก ส่วนสีสันของดอกไม้เข้าพรรษานี้ บางต้นก็ผลิดอกสีเหลือง บางต้นก็สีขาวและบางต้นก็เป็นสีเงินม่วง ชอบขึ้นตามไหล่ภูเขาโพธิลังกาหรือเขาสุพรรณบรรพต เทือกเขาวง และภูเขาต่างๆ ในเขตอำเภอพระพุทธบาท จังหวัดสระบุรี ที่น่าแปลกอยู่อย่างหนึ่งสำหรับพันธุ์ไม้ชนิดนี้ คือการผลิดอก ถ้ามิใช่เป็นฤดูกาล เข้าพรรษา แล้วจะไม่ผลิดอกออกมาให้เห็นเลย จนชาวบ้านขนานนามว่า ต้นเข้าพรรษา หรือเมื่อผลิดอกออกมาก็เรียกว่า ดอกเข้าพรรษา ในทางพฤกษศาสตร์ กล่าวว่า เป็นดอกไม้ตระกูลขิง ข่า เป็นพันธุ์ไม้ที่อยู่ในตระกูล GLOOBBA เป็นไม้ล้มลุกที่มีเหง้าอยู่ใต้ดิน เมื่อได้รับน้ำฝนก็จะแตกใบออกดอกในช่วงที่ฝนตกลงมาหรือช่วงหน้าฝน ซึ่งตรงกับช่วงฤดูกาล เข้าพรรษา ของทุกๆ ปี ชาว อ.พระพุทธบาท นิยมเอาดอกเข้าพรรษา ตักบาตรดอกไม้ ถวายแด่พระภิกษุสงฆ์ใน วันเข้าพรรษา ตามประเพณีที่จัดมาแต่โบราณกาล ณ ลานวัดพระพุทธบาท ถือกันว่าถ้าเอาดอกเข้าพรรษาตักบาตรจะได้กุศลมาก

เมื่อพระภิกษุสงฆ์รับบิณฑบาต ดอกเข้าพรรษา แล้วจะนำไปเป็นเครื่องสักการะวันทา รอยพระพุทธบาท ในพระมณฑปแล้วนำออกไปวันทาพระเจดีย์จุฬามณี เจดีย์ที่บรรจุพระเขี้ยวแก้วองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทั้งไปสักการะพระองค์ใหญ่ที่บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ แล้วนำเข้าโบสถ์ประกอบพิธีสวดอธิษฐานเข้าพรรษา

จะเห็นว่า ดอกเข้าพรรษา มีบทบาทต่อประเพณี วันเข้าพรรษา ของพระภิกษุสงฆ์และชาวพุทธเป็นอย่างยิ่ง ชาว อ.พระพุทธบาท และชาว จ.สระบุรี จึงยึดถือปฏิบัติกันมาแต่โบราณกาลจนทุกวันนี้ โดยใช้ดอกเข้าพรรษาเป็นสื่อ แห่งเดียวในโลกก็ว่าได้

ที่มา : m-culture แหล่งที่มาของข้อมูล https://www.m-culture.go.th/young/ewt_news.php?nid=416&filename=index

ภาพ : เกียรติยง อัศวราศี  ผู้สื่อข่าว จ.สระบุรี