แดดแรงองศาเดือด อยากผิวปัง ไม่อยากผิวพัง อย่าลืมพก 'ครีมกันแดด' ติดกระเป๋า

หน้าร้อนนี้ประเทศไทยอุณหภูมิอาจพุ่งสูงที่สุดถึง 43.0 – 44.5 องศาเซลเซียส ซึ่งอุณหภูมิสูงขึ้นเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา ซึ่งไอเทมสำคัญสำหรับ หน้าร้อน แดดแรง แบบนี้ คงหนีไม่พ้น ครีมกันแดด ที่เป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่งสำหรับทุกคน เพราะเป็นเสมือนเกราะป้องกันผิวชั้นแรก และวันนี้จะมาแนะนำวิธีการเลือกใช้ครีมกันแดดอย่างไรให้เหมาะสมกับสภาพผิว

นอกจากสภาพอากาศที่แปรปรวนและอากาศร้อนขึ้นในทุกๆ ปีแล้ว พฤติกรรมคนไทยใช้เวลาอยู่กับสมาร์ทโฟน, แท็ปเลต, ทำงานนั่งหน้าคอมฯ เช้าจรดเย็น จึงไม่สามารถหลีกเลี่ยงแสงสีฟ้าในแต่ละวันได้ ซึ่งนี่ก็เป็นหนึ่งในตัวการที่ทำให้ผิวหน้าหมองคล้ำได้เช่นกัน และแม้จะไม่ได้ออกไปไหน แต่แสงแดดและรังสียูวีในสภาพแวดล้อมต่างๆ ก็สามารถทำร้ายผิวได้ตลอดเวลา

สำหรับการเลือกใช้ ครีมกันแดด ต้องรู้กันก่อนว่า เอสพีเอฟ (SPF) ย่อมาจาก Sun Protection Factor เป็นค่าที่บอกความสามารถของครีมกันแดดในการป้องกันรังสียูวีบี ป้องกันรังสียูวีต่างๆ โดยปกติยิ่งค่าสูงจะยิ่งทําให้เราอยู่กลางแดดได้นานมากขึ้น หรือถ้าเราเลือก ค่าเอสพีเอฟ สูงเท่าไรเราก็จะปกป้องผิวจากแสงแดดได้มากเท่านั้น

ส่วนใหญ่ ค่าเอสพีเอฟ เริ่มที่ เอสพีเอฟ 15 เหมาะกับคนที่ไม่ออกไปแอคทีฟข้างนอกตลอดทั้งวัน คนที่ทำงานในออฟฟิศ หรือ Work From Home อีกทั้งปัองกันรังสี UV ได้มากถึง 93%

เอสพีเอฟ 30 เป็นผลิตภัณฑ์ที่พบมากที่สุดบนเคาน์เตอร์ ป้องกันรังสียูวีได้มากถึง 97%  เหมาะกับคนที่ทำกิจกรรมกลางแจ้ง เช่น ไปจ็อคกิ้งในตอนเช้า เช็คความฮอตท่ามกลางแดดที่ไม่ร้อนจัดมากเกินไป หรือคนที่มีอาการแพ้หรือไวต่อแสงแดด

เอสพีเอฟ 50 สามารถป้องกันรังสียูวีได้สูงที่สุดถึง 98% เหมาะกับสายกิจกรรมแอคทีฟไม่มีลิมิต หรือผู้ที่อยู่กลางแจ้งตลอดวัน เช่น ช่วงซัมเมอร์หลายคนไปนอนอาบแดดริมชายหาดและดำน้ำ 

...รู้แบบนี้แล้ว ช่วง หน้าร้อน นี้ อย่าลืมพก ครีมกันแดด ติดกระเป๋ากันไว้ได้เลย...