Lifestyle

'ร้อน' ดูแลผิวหน้าอย่างไร พร้อมเทคนิคการแต่งหน้า ที่เหมาะกับสภาพ อากาศร้อน

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังและความงาม แนะวิธีดูแลสุขภาพผิวหน้าให้พร้อม เมื่อต้องเผชิญกับสภาพอากาศ 'ร้อน' จัด พร้อม เทคนิคการแต่งหน้า ที่เหมาะกับสภาพ 'อากาศร้อน' โดยช่างแต่งหน้ามืออาชีพ ปรีชา ดวงเพชร (จิม เมคอัพ)

สภาพอากาศร้อนที่ร้อนอบอ้าวนอกจากจะส่งผลกระทบต่อสุขภาพผิวหน้าของเรา ทำให้หน้ามันเยิ้ม เป็นสิว ฝ้า และกระได้ง่ายแล้ว ยังเป็นอุปสรรคในการแต่งหน้าที่ย่อมส่งผลต่อความมั่นใจของเราด้วย แบรนด์ผลิตภัณฑ์เพื่อการดูแลสุขภาพผิวและเส้นผม ‘ธัญ’ (THANN) จึงร่วมกับ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังและความงาม พญ.กนกวรรณ เศรษฐพงศ์วนิช แนะ “วิธีดูแลสุขภาพผิวหน้าให้พร้อมเมื่อต้องเผชิญกับสภาพอากาศร้อนจัด” พร้อมเผย เทคนิคการแต่งหน้าที่เหมาะกับสภาพอากาศร้อนอบอ้าว” โดยช่างแต่งหน้ามืออาชีพ ปรีชา ดวงเพชร (จิม เมคอัพ)

 

พญ.กนกวรรณ เศรษฐพงศ์วนิช

 

 

พญ.กนกวรรณ กล่าวว่า แสงแดดประกอบด้วยคลื่นความถี่ของรังสีที่แตกต่างกันตามความยาวคลื่น รังสียูวีมีความยาวคลื่นสั้นในช่วง 280-400 นาโนเมตร และรังสีอินฟราเรดหรือที่เรียกกันว่ารังสีความร้อนมีความยาวคลื่นยาวอยู่ในช่วง 700 นาโนเมตร - 1 มิลลิเมตร ซึ่งเป็นรังสีที่ก่อให้เกิดอันตรายและสร้างความเสียหายต่อผิวของเรา ยิ่งความยาวแสงมากจะยิ่งส่งผลให้เกิดคลื่นความร้อนมากขึ้น ซึ่งส่งผลให้เกิดปัญหาผิวดังนี้

 

  • ผิวขาดความชุ่มชื้น หรือผิวขาดน้ำ เนื่องจากความร้อนกระตุ้นให้รูขุมขนขยายตัว และต่อมเหงื่อทำงานมากขึ้น เพื่อขับเหงื่อมาระบายความร้อนออกจากร่างกาย ส่งผลให้ผิวสูญเสียน้ำและแห้งกร้านได้ง่าย
  • ผิวอักเสบจากความร้อน เนื่องจากความร้อนจะกระตุ้นให้ร่างกายหลั่งสารไซโตไคน์ มากเกินไป ทำให้ผิวเกิดการระคายเคือง อักเสบ แดง โดยเฉพาะในกลุ่มผู้ที่มีปัญหาโรคผื่นผิวหนังอยู่แล้วยิ่งทำให้ผิวเกิดการอักเสบง่าย
  • ผิวหมองคล้ำ เนื่องจากแสงแดดและความร้อนจะไปกระตุ้นเมลาโนไซต์ ให้ผลิตเมลานิน เพิ่มมากขึ้น ทำให้สีผิวเข้มขึ้น
  • ผิวแก่ก่อนวัย ปกติแล้วผิวหนังของคนเราจะมีอุณหภูมิอยู่ที่ประมาณ 33 องศาเซลเซียส แต่เมื่อสัมผัสไอความร้อนจะทำให้อุณหภูมิในร่างกายสูงขึ้นเรื่อยๆ ส่งผลให้คอลลาเจนใต้ผิวหนังถูกทำลาย ผิวจึงขาดความยืดหยุ่น เกิดริ้วรอยและความเหี่ยวย่น

 

 

 

ดังนั้นเราควรหลีกเลี่ยงกิจกรรมหรือสถานที่ที่ต้องเผชิญกับแสงแดดหรือไอความร้อนโดยตรง แต่หากหลีกเลี่ยงไม่ได้ก็ต้องมีวิธีป้องกันตัวเอง โดยเริ่มจากการเลือกสวมใส่เสื้อผ้าที่มิดชิด เลือกเนื้อผ้าที่ระบายอากาศได้ดี ใช้อุปกรณ์ป้องกันแสงแดดอย่างร่ม แว่นตา และหมวก หรือหากจำเป็นต้องทำกิจกรรมที่ต้องเจอไอความร้อนอย่างการทำอาหารหน้าเตาไฟก็ควรสวมหน้ากาก และสวมปลอกแขนทุกครั้ง

 

หากร่างกายมีอุณหภูมิร่างกายที่สูงควรหาวิธีลดอุณหภูมิผิวให้เย็นลง โดยหาผ้าชุบน้ำเย็นเช็ดตามข้อผับ และส่วนต่างๆ ของร่างกาย เปิดพัดลมเพื่อช่วยให้เกิดความเย็น แต่ไม่แนะนำให้เข้าห้องแอร์ทันที เนื่องจากร่างกายอาจปรับอุณหภูมิไม่ทันและความเย็นของแอร์จะมาพร้อมกับความแห้งยิ่งทำให้ผิวสูญเสียความชุ่มชื้นได้ง่าย ควรดื่มน้ำสะอาดเพื่อชดเชยน้ำที่ร่างกายสูญเสียไป การอาบน้ำก็สามารถช่วยลดอุณหภูมิผิวให้กลับมาเป็นปกติได้

 

นอกจากนี้การดูแลและบำรุงผิวหน้าเป็นประจำก็สามารถช่วยให้ผิวมีความแข็งแรง ไม่เป็นผื่นแพ้ หรือโดนทำลายได้ง่าย สามารถเริ่มได้จากการล้างทำความสะอาดผิวหน้า การสครับเพื่อกระตุ้นการผลัดเปลี่ยนเซลล์ผิวที่เสื่อมสภาพ การมาส์กหน้าเพื่อฟื้นบำรุงผิว รวมถึงการทาครีมบำรุงเพื่อเติมเต็มความชุ่มชื้นให้ผิว และไม่ลืมทาครีมกันแดดทุกครั้งก่อนออกจากที่พัก เพราะแสงแดดหรือไอความร้อนไม่ว่ามากหรือน้อยก็สามารถทำร้ายผิวของเราได้

 

ปรีชา ดวงเพชร (จิม เมคอัพ)

 

ด้าน ปรีชา ช่างแต่งหน้ามืออาชีพได้ร่วมเผยเทคนิคการแต่งหน้าแบบมินิมอลที่เหมาะกับสภาพอากาศร้อนอบอ้าวว่า ความสำคัญของการแต่งหน้าก็เพื่อความสวยงาม และช่วยปกปิดจุดด้อยต่างๆ บนใบหน้าเรา ดังนั้นการมีผิวสวยสุขภาพดีถือว่าเป็นพื้นฐานของการแต่งหน้าเลยก็ว่าได้ สามารถเริ่มได้จากการล้างทำความสะอาดผิวหน้า หากแต่งหน้าควรเช็ดทำความสะอาดด้วยคลีนซิ่งก่อนเพื่อขจัดคราบเครื่องสำอาง แล้วล้างหน้าด้วยเพียวริฟายอิ้ง เฟซ วอช ตามด้วยการปรับสภาพผิวและกระชับรูขุมขนด้วยโทนเนอร์ เพื่อเตรียมผิวให้พร้อมสำหรับการบำรุงก่อนบำรุงผิวด้วยมอยเจอร์ไรเซอร์ที่สามารถมอบความชุ่มชื้นให้กับผิวได้ยาวนาน และที่สำคัญควรเป็นมอยเจอร์ไรเซอร์ที่เป็นเนื้ออิมัลชั่น ก็จะเหมาะกับสภาพอากาศร้อนอบอ้าวอย่างบ้านเรา และไม่ควรลืมทาครีมกันแดดเพื่อปกป้องผิวจากแสงแดดก่อนการแต่งหน้า

 

เทรนด์การแต่งหน้าในแต่ละปีอาจจะไม่ได้แตกต่างกันมาก แต่จะเน้นการเลือกใช้สีสันแต่งแต้มตามแต่ละฤดูกาล อย่างช่วงสปริง ซัมเมอร์ จะเน้นสีโทนธรรมชาติอย่างสีน้ำตาล เบจ นู้ด หากเป็นช่วง ออทัม วินเทอร์ ก็จะมีสีสัน มีการเพิ่มกลิตเตอร์ ชิมเมอร์ ให้ดูแวววาวมีลูกเล่น ดูสนุกสนานมากขึ้น สำหรับเทรนด์การแต่งหน้าที่เหมาะสำหรับสภาพอากาศร้อนอบอ้าวแบบช่วงนี้ก็จะเน้นการใช้เครื่องสำอางน้อยๆ แบบเบาสบาย เพื่อเป็นการโชว์ผิวได้และไม่ทำให้หน้าเราเกิดความมันเยิ้มได้ง่าย สามารถแบ่งออกเป็น 2 แบบ คือ

 

  • การแต่งหน้าแบบ Skinimalism มาจากการรวมคำว่า "Skin" (ผิวหนัง) และ "Minimalism" (การเน้นสิ่งน้อยลง) เข้าด้วยกัน การแต่งหน้าแนวนี้จะเน้นความเรียบง่ายและเปิดเผยความเป็นธรรมชาติของผิว โดยให้ความสำคัญกับขั้นตอนการบำรุงผิวให้ชุ่มชื้นดูมีสุขภาพดีมากกว่าเน้นการประโคมด้วยเครื่องสำอางเพื่อปกปิดจุดบกพร่องอย่างริ้วรอย จุดด่างดำหรือรูขุมขน อาจมีการใช้รองพื้นแบบที่มีความเบา เกลี่ยง่าย เพื่อทำให้สีผิวดูสม่ำเสมอกัน เพราะช่วยให้ผิวสามารถหายใจได้และลดการอุดตันของรูขุมขน นอกจากนี้ยังสามารถแต่งเติมสีสันและความโกลว์ได้ด้วยการแต่งตา แต่งคิ้ว และทาลิปสติกเฉดสีที่ชอบได้
  • การแต่งหน้าแบบ Makeup No Makeup จะเน้นความเป็นธรรมชาติ ไม่ฉูดฉาด เหมือนไม่ใช้เครื่องสำอาง การแต่งหน้าแนวนี้จะใช้เบสหรือไพรเมอร์เพื่อปรับสภาพสีผิวแทนการใช้รองพื้น ใช้คอนซีลเลอร์ปกปิดริ้วรอยเฉพาะจุด ใช้แป้งฝุ่นเพื่อควบคุมความมันส่วนเกินบนใบหน้า ใช้ครีมบลัชแทนการใช้บลัชออนแบบฝุ่น ส่วนตาไม่ต้องใช้อายแชโดว์หรือใช้เพียงสีเดียวอ่อนๆ ดัดขนตาและปัดมาสคาร่าก็เพียงพอ ส่วนคิ้วก็เขียนตามโครงคิ้วเดิมและใช้แปรงปัดจัดระเบียบให้เรียบร้อย ถ้าเป็นลิปก็ใช้ลิปกลอสเพื่อความเป็นธรรมชาติ

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ