มหัศจรรย์! นวัตกรรมสเต็มเซลล์จากน้ำคร่ำ "Amniotic Stem Cell" ฝีมือแพทย์ไทย ก้าวไกลเกินคาด
คนไทยคุ้นเคยและเปิดกว้างยอมรับการนำ “สเต็มเซลล์” (Stem Cell) มาใช้ในการดูแลตนเองในด้านต่างๆ มากขึ้น โดยเฉพาะในด้านความงาม การชะลอวัย รวมไปถึงข้อเข่าเสื่อม ไม่ใช่เพียงการรักษาโรคมะเร็งเม็ดเลือดขาว ,มะเร็งต่อมน้ำเหลือง ฯลฯ อีกต่อไป
ด้วยเพราะเชื่อมั่นและมีองค์ความรู้ในเรื่องของ “สเต็มเซลล์” ซึ่งเป็นเซลล์ต้นกำเนิด และวันนี้สเต็มเซลล์จากอวัยวะต่างๆ สามารถนำมาใช้ได้ไม่เพียงเฉพาะสเต็มเซลล์จากสายสะดือ เลือด ไขกระดูก เหมือนเช่นในอดีต และล่าสุดกับนวัตกรรมฝีมือแพทย์ไทยที่สามารถสกัดสเต็มเซลล์จากน้ำคร่ำ หรือ Amniotic Fluid Stem Cell (AFSC) ซึ่งการคัดแยกสเต็มเซลล์จากน้ำคร่ำและนำมาเพิ่มจำนวนนอกร่างกาย คือความมหัศจรรย์ของนวัตกรรมสเต็มเซลล์ ทั้งด้านความบริสุทธิ์ ความอ่อนเยาว์ การแบ่งตัวของเซลล์ รวมถึงผลลัพธ์ที่ได้เมื่อนำไปใช้ ในการดูแลด้านความงาม การชะลอวัย และฟื้นฟูความเสื่อมของร่างกาย
นายแพทย์ธนพล ทองประเสริฐ แพทย์ผู้มีประสบการณ์ในการใช้ และบุกเบิกสเต็มเซลล์เพื่อสุขภาพและความงามในเมืองไทย ที่พัฒนาและนำสเต็มเซลล์จากน้ำคร่ำ Amniotic Stem Cell มาใช้ในการเติมแต่งความงามบนใบหน้าให้อ่อนเยาว์ รวมไปถึงการฟื้นฟูความเสื่อมของร่างกายให้กลับมาแข็งแรง เล่าให้ฟังว่า ในอดีตการนำสเต็มเซลล์มาใช้ในการดูแลผิว ใบหน้า ชะลอความชราถูกจำกัดอยู่ในกลุ่มคนไม่มากนัก ด้วยเพราะปัจจัยหลายด้านทั้งเรื่องของราคา ความรู้ ความเข้าใจ แต่วันนี้คนไทยทุกคนสามารถเอื้อมถึง และมีสิทธิ์ในการนำสเต็มเซลล์มาใช้ในการรักษา และดูแลร่างกายได้มากขึ้น ด้วยสนนราคาที่ไม่สูงมากนัก แต่ประสิทธิภาพเต็มที่ไม่แพ้ต่างชาติ
“วันนี้ไทยได้รับการยอมรับว่าเป็นประเทศที่เชี่ยวชาญด้านการพัฒนาและการนำสเต็มเซลล์ ไปใช้ ด้วยเทคโนโลยีที่ล้ำสมัยผนวกความสามารถของนักวิทยาศาสตร์และแพทย์ไทย ทำให้โลกของสเต็มเซลล์ถูกพัฒนาอย่างรวดเร็ว”
อย่างไรก็ดี ตลอด 6 ปีที่ผ่านมา คุณหมอประสบความสำเร็จในการคิดค้น และศึกษาวิจัยการนำสเต็มเซลล์จากแหล่งเนื้อเยื่อต่างๆ มาใช้ ทั้งจาก สายสะดือ รก ไขมัน และล่าสุดเมื่อต้นปี 2562 ห้องปฏิบัติการ ไออาร์บีเอส ซึ่งเป็นห้องแล็บที่คุณหมอทุ่มเททั้งเงินทุน เวลา รวมทั้งอุปกรณ์ที่ก้าวล้ำต่างๆ ในการศึกษา วิจัยและพัฒนาเทคนิคการเลี้ยงสเต็มเซลล์แบบใช้ได้จริง ก็ประสบความสำเร็จ สามารถสกัดสเต็มเซลล์จากน้ำคร่ำมาเพาะเลี้ยงและเพิ่มจำนวน นอกร่างกายได้ ทำให้ได้สเต็มเซลล์ที่มีความบริสุทธิ์ สมบูรณ์ ปลอดภัยและได้ผลลัพธ์สูงสุด โดยที่ผ่านมาให้บริการเพาะเลี้ยงสเต็มเซลล์จากเนื้อเยื่อต่างๆมาแล้วกว่า 500 เคส และประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี ซึ่งไม่ใช่เพียงคนไทยเท่านั้น ในประเทศเพื่อนบ้านก็ให้ความนิยมมาใช้บริการไม่ว่าจะเป็นเวียดนาม พม่า ลาว รวมไปถึงประเทศจีน ซึ่งเป็นลูกค้ากลุ่มสำคัญที่เดินทางเข้ามาใช้บริการเพาะเลี้ยงสเต็มเซลล์เพื่อชะลอวัยและเพื่อความงามเป็นจำนวนมาก
“ในอนาคตอันใกล้นวัตกรรมความงามจากสเต็มเซลล์ฝีมือคนไทย จะก้าวหน้าและพัฒนาแซงหลายๆ ประเทศ ซึ่งจะเป็นธุรกิจที่สร้างเม็ดเงินเข้าประเทศได้เป็นอย่างมากอีกด้วย”
ข่าวที่เกี่ยวข้อง