เด่นโซเชียล

เปิดสูตร "แกงไตปลา" อาหาร ยอดแย่ อันดับ 1 โลก แต่คนไทยพร้อมใจ ติด #saveแกงไตปลา

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

เปิดที่มา และ สูตรเด็ด "แกงไตปลา" เมนู อาหาร ยอดแย่ อันดับ 1 โลก จน #saveแกงไตปลา โผล่เทรนด์ ไม่รู้จักของดีเสียแล้ว

เป็นกระแสฮือฮา ถกเถียงสนั่นโซเชียลอีกครั้ง เมื่อเว็บไซต์ TasteAtlas ซึ่งเป็นเว็บไซต์ที่ให้ข้อมูลอาหารจากทั่วโลก ครอบคลุมประเภทอาหาร ส่วนผสม และร้านอาหาร รวมถึงเครื่องดื่มกว่าหลายรายการ ได้เผยผลการจัดอันดับ “อาหาร” ยอดแย่ที่สุดในโลก ซึ่งปรากฎว่า “แกงไตปลา” ของประเทศไทย ติดอันดับ 1 เมนูอาหารยอดแย่ของโลก จาก 100 เมนู ทำเอา #saveแกงไตปลา ขึ้นเทรนด์ X เลยทันที

โดย TasteAtlas ได้บรรยายรสชาติของแกงไตปลาไว้ว่า เป็นแกงปลาเนื้อหนา กลิ่นหอม ซึ่งต้นกำเนิดมาจากภาคใต้ของประเทศไทย ประกอบด้วย เครื่องในปลาหมักแบบไตปลา และเครื่องแกงรสเผ็ดที่ประกอบด้วยพริก ข่า กะปิ ขมิ้น หอมแดง และตะไคร้

 

 

อาหารเครื่องเคียง ประกอบด้วย ปลาแห้ง มะเขือยาวหั่นเต๋า หน่อไม้ ถั่วฝักยาว หรือผักอื่นๆ เนื่องจากความเข้มข้นและกลิ่นหอมฉุน แกงไตปลาจึงรับประทานคู่กับข้าวสวยเป็นเครื่องเคียงได้ดีที่สุด แต่เดิมแกงไทยนี้ปรุงด้วยปลาเท่านั้น และแกงส่วนใหญ่ไม่ใช้กะทิ

 

 

และหลังจากมีการเผยแพร่ผลการจัดอันดับ แกงไตปลาอาหารยอดแย่ ทำให้ #เซฟแกงไตปลา ขึ้นเทรนด์ X ทันที หลายคนบอกว่า ฝรั่งไม่รู้จักอาหารรสเด็ดซะแล้ว ขณะที่ บรรดาแม่ค้า ก็ไม่หวั่น เพราะบอกว่า เมนู “แกงไตปลา” คือเมนูที่ขายดีที่สุด

แกงไตปลา

  • รู้จัก “แกงไตปลาอาหารยอดแย่” แต่หรอยแรงของคนปักษ์ใต้

 

 

แกงไตปลา หรือแกงพุงปลา เป็นอาหารท้องถิ่นทางภาคใต้ของไทย เป็นแกงที่มีไตปลาเป็นส่วนประกอบ รสชาติจัดจ้าน แกงไตปลาสูตรที่นิยมกันแถบพัทลุง สงขลา เป็นแกงไม่ใส่กะทิ น้ำน้อย รสเข้มข้น

 

 

ส่วนที่มาของชื่อ “แกงไตปลา” มาจากการที่มีไตปลาเป็นส่วนประกอบ ซึ่งเป็นวิธีการถนอมอาหารของภาคใต้ โดยนำกระเพาะของปลา เช่น ปลาทู ปลาลัง ปลาดุก ปลาช่อน หรือปลาอื่นๆ มาหมักกับเกลือจนได้ที่ กลายเป็นของเหลวและมีมัน นำไปทำเป็นอาหารได้หลายชนิด

แกงไตปลา

 

  • คุณค่าอาหารจากแกงไตปลา

 

แกงไตปลาเป็นอาหารที่ให้โปรตีนและแคลเซียมจากปลาทู ไตปลา รวมทั้งวิตามิน เกลือแร่ และใยอาหารจากผักต่างๆ ที่ใส่ลงไป จึงนับเป็นอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูง แต่ไตปลา ก็มีรสเค็มจัด มีโซเดียมสูง ผู้ที่มีปัญหาในการรับโซเดียม เช่น ผู้ป่วยโรคไต เบาหวาน และผู้สูงอายุควรหลีกเลี่ยง

 

 

  • สูตร “แกงไตปลา”

 

ส่วนผสมพริกแกง

 

  • พริกแห้ง 15 กรัม
  • พริกแดงจินดา 30 กรัม
  • ตะไคร้ซอย 3 ต้น
  • ผิวมะกรูด 1 ลูก
  • กระเทียม 30 กรัม
  • พริกไทยดำ 1 ช้อนตวง
  • ขมิ้น 25 กรัม
  • หอมแดง 30 กรัม

 

ส่วนผสมต้มน้ำไตปลา

 

  • น้ำเปล่า 500 กรัม
  • ไตปลาทู 1 ขวด
  • กะปิปลา (เคยปลา) 70 กรัม
  • ตะไคร้บุบ 2 ต้น
  • ข่าแก่หั่นแว่น 5 แว่น
  • ใบมะกรูดฉีก 5-6 ใบ

 

อัตราส่วนแกงไตปลา

 

  • น้ำไตปลาที่ต้มได้ทั้งหมด
  • น้ำเปล่า 1500 ml.
  • พริกแกงที่ตำได้ทั้งหมด
  • ฟักทอง 300 กรัม
  • มะเขือเปราะ 400 กรัม
  • หน่อไม้ต้มสุก 300 กรัม
  • ถั่วฝักยาว 100 กรัม
  • น้ำตาลปี๊บ 1+1/2 ช้อนตวง
  • น้ำมะขามเปียกเข้มข้น 2 ช้อนตวง
  • เนื้อปลาทูย่าง 2 ตัว (ไซส์ใหญ่ยักษ์)
  • ใบมะกรูดฉีก (ปริมาณตามชอบ)

 

 

  • วิธีทำ แกงไตปลา

 

  1. นำพริกแห้งและพริกสดมาตำให้ละเอียด ตามด้วยกระเทียม พริกไทยดำ ผิวมะกรูด ตะไคร้ ลงไปตำให้ละเอียดอีกครั้ง
  2. ปิดท้ายด้วยขมิ้นและหอมแดง ตำให้ละเอียด พักไว้
  3. นำปลาทูมาย่างด้วยเตาถ่านให้ออกกลิ่นหอม เลาะเนื้อปลาออกมา อย่าให้มีก้าง แบ่งให้เป็นชิ้นใหญ่ๆ
  4. จากนั้นไปต้มไตปลา เปิดแก๊สใช้ไฟกลาง ใส่น้ำเปล่าลงไป ตามด้วยใยมะกรูดฉีก ตะไคร้ ข่า รอจนน้ำเดือด
  5. ใส่กระปิปลาลงไป ตามด้วยไตปลา 1 ขวด ทิ้งไว้ห้ามคน 5-10 นาที ปิดแก๊ส ยกลงไปกรองใส่กระทะใบอื่น
  6. นำมาตั้งกระทะต่อ เติมน้ำเปล่าลงไป เปิดไฟกลางค่อนแรง รอจนน้ำเดือด
  7. ใส่พริกแกงลงไป คนให้เข้ากันเล็กน้อย พอน้ำแกงเดือดอีกรอบ ใส่ผักลงไป เริ่มจากฟักทองก่อน ตามด้วยมะเขือเปราะ รอจนสุก
  8. จากนั้นใส่หน่อไม้ และถั่วฟักยาวลงไป ปรุงรสด้วยน้ำมะขามเปียก น้ำตาลปี๊ป ชิมรสให้ได้ตามชอบ
  9. จากนั้นใส่ปลาทูลงไป ตามด้วยใบมะกรูดฉีก อย่าคนแรง รอจนเดือดอีกครั้ง ปิดแก๊ส เป็นอันเสร็จ

 

 

 

 

logoline