เปิดที่มา 'วันลูกหมาแห่งชาติ' พร้อมเปิดเคล็ดลับการเลี้ยง 'ลูกสุนัข'

"วันลูกหมาแห่งชาติ" หรือ วันลูกสุนัขแห่งชาติ (National Puppy Day) ตรงกับวันที่  23 มีนาคม ของทุกปี ก่อตั้งครั้งแรกในปี ค.ศ. 2006 ที่ประเทศสหรัฐอเมริกา โดย คอลลีน เพจ (Colleen Paige) นักเขียนและผู้เชี่ยวชาญด้านสัตว์เลี้ยงและพฤติกรรม สุนัข นอกจากนี้เธอยังเป็นผู้ก่อตั้งวันสำคัญเกี่ยวกับสัตว์มากมาย เช่น วันสุนัขแห่งชาติ, วันแมวแห่งชาติ และ วันสุนัขดำแห่งชาติ

 

"วันลูกหมาแห่งชาติ" หรือ วันลูกสุนัขแห่งชาติ (National Puppy Day)  มีจุดประสงค์เพื่อให้ทุกคนเห็นถึงความสำคัญของชีวิตสัตว์ และมีความเมตตาต่อน้องหมา นอกจากนี้ยังเป้นการชี้ให้เห็นถึงความน่ากลัวของฟาร์ม ลูกสุนัข เถื่อน ที่พยายามขยายพันธ์ลูกสุนัข โดยไม่คิดถึงความปลอดภัย และมีการทารุณสัตว์อีกด้วย รวมถึงรณรงค์เรียกร้องให้มีการอุปการะ ลูกสุนัข จากสถานสงคราะห์สัตว์ต่างๆ

 

 

 

โดยข้อคำนึงก่อนที่จะนำ ลูกสุนัข มาเลี้ยงนั้น จะต้องแน่ใจก่อนว่าพันธุ์ที่จะเลี้ยงนั้นเหมาะกับเราหรือไม่ ลักษณะขน ขนาดตัว ที่พักของ ลูกสุนัขเหมาะสมหรือไม่ ละที่สำคัญที่สุด ต้องคำนึงถึงความสุขของคุณและคนในครอบครัวอีกด้วย

ในการเลี้ยง ลูกสุนัข แรกเกิด โภชนาการเป็นสิ่งสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม เพราะ ลูกสุนัข แรกเกิดจนถึงช่วงวัย 1-2 ปี ต้องการสารอาหารที่หลายชนิดที่จำเป็นต่อการเจริญเติบโต และมีคุณค่าต่อพัฒนาการด้านต่างๆ ดังนั้นการเลือกอาหารคุณภาพดี มีสารอาหารที่ครบถ้วนและสมดุลจะช่วยให้พวกเขามีสุขภาพร่างกายแข็งแรง และเติบโตได้อย่างสมวัย

• อายุ 6-12 สัปดาห์ : 3 - 4 มื้อต่อวัน
• 12-20 สัปดาห์ : 3 มื้อต่อวัน
• 20 สัปดาห์ขึ้นไป : 2 มื้อต่อวัน

 

ดูแลสภาพแวดล้อม ลูกสุนัข ของคุณให้ปลอดภัยเสมอ ซึ่งหากปล่อยให้บริเวณที่เลี้ยง ลูกสุนัข ของคุณสกปรกหรือเป็นอันตราย นอกจากจะเป็นภัยต่อมันแล้ว ยังอาจทำให้คุณต้องควักเงินรักษามันมากมาย ไม่คุ้มกันเลย

 

 

ทำความสะอาดที่นอน ลูกสุนัข ของคุณทันที หากพบว่ามีการเปื้อนอึหรือฉี่ของมัน ในกรณีที่ยังฝึกมันให้ไปขับถ่ายเป็นที่ไม่ได้

 

 

กำจัดพืชที่อาจเป็นอันตรายต่อมัน หาก ลูกสุนัข ของคุณกลืนหรือกินพืชบางอย่างเข้าไปอาจเป็นอันตรายได้ ซึ่งพืชที่อันตรายต่อ ลูกสุนัข ของคุณ และมักพบได้ตามพื้นที่ต่างๆ ในประเทศไทย เช่น พวกต้นไม้ที่มียางทั้งหลาย

 

 

รวมถึงลั่นทม ชวนชม พญาไร้ใบ รำเพย ยี่โถ ต้นปลด ต้นบอน เทียนหยด เทียนซ้อน ฯลฯ มีมากมายนับไม่ถ้วน คุณควรหาข้อมูลพืชในบริเวณบ้านดูว่าเป็นพิษต่อ ลูกสุนัข ของคุณหรือไม่ ถ้าใช่ ก็พยายามเอาออกไปให้ห่างมัน