เด่นโซเชียล

สบส.เตรียมสอบ คลินิก "พิมรี่พาย" ปม หมอเก๊-ฟิลเลอร์ปลอม

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส.) เตรียมตรวจสอบคลินิก “พิมรี่พาย” ปมใช้ หมอเก๊-ฟิลเลอร์ปลอม ย้ำ หากใช้หมอเถื่อนมีความผิดแน่นอน

อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส.) เตรียมตรวจสอบคลินิก “พิมรี่พาย” ปมใช้  หมอเก๊-ฟิลเลอร์ปลอม ย้ำ หากใช้หมอเถื่อนมีความผิดแน่นอน

 

เรียกได้ว่ามีประเด็นให้พูดถึงกันตลอดเวลาสำหรับแม่ค้าออนไลน์ชื่อดัง "พิมรี่พาย" ล่าสุดคลินิกเสริมความงามของ "พิมรี่พาย" ก็เผชิญดราม่าใหญ่อีกระลอก เมื่อโลกออนไลน์ออกมาแฉว่า มีการแอบอ้างชื่อแพทย์ประจำคลินิก โดยแพทย์ชื่อดังกล่าวตัวจริงอยู่ที่ต่างประเทศ และไม่เคยทำงานให้คลินิกของพิมรี่พายแต่อย่างใด

โดยคุณหมอตัวจริงที่ถูกแอบอ้างชื่อ ได้โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กส่วนตัวระบุว่า

 

"ขอชี้แจงนะคะ ดิฉัน นางสาวปิยนุช รัตนโกเศศ ชื่อเล่น หยก เลขประกอบวิชาชีพ... ไม่เคยทำงานที่ Est Cute clinic ของพิมรี่พาย และไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ตามที่โดนแอบอ้างชื่อไปใช้ในคลินิก

ปัจจุบันอยู่ต่างประเทศ มาเกือบ 7 เดือนแล้ว หากมีข้อผิดพลาดใดๆเกิดขึ้นภายใต้การถูกแอบอ้างชื่อ ไม่ใช่ตัวดิฉันแน่นอนค่ะ"

 

 

ในเวลาต่อมา “พิมรี่พาย” ได้เดินทางไปยังกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค ในฐานะหุ้นส่วนอิสคิวท์คลินิกเวชกรรม สาขาห้วยขวาง

 

พิมรี่พายแจ้งเจ้าหน้าที่ว่าได้ถูก นางสาวอาลินดา (สงวนนามสกุล) ใช้เอกสารใบประกอบวิชาชีพเวชกรรมของ แพทย์หญิงท่านหนึ่ง มาสมัครเป็นแพทย์ของคลินิก เป็นเหตุให้ได้รับความเสียหาย โดยหลังจากนี้ตำรวจสอบสวนกลางจะสอบสวน รวบรวมพยานหลักฐานเพื่อออกหมายจับ และติดตามจับกุมดำเนินคดีต่อไป

 

พิมรี่พายเปิดเผยว่า หลังทราบเรื่องการแอบอ้างชื่อแพทย์หญิงรายนี้ ตนพยายามติดต่อหญิงที่แอบอ้างมาเป็นหมอแล้ว แต่ติดต่อไม่ได้ จึงมาแจ้งความ ส่วนสาเหตุที่ไม่ทราบว่าหญิงรายนี้เป็นหมอปลอม เป็นเพราะเขาใส่แมสก์ ใช้ผ้าคลุมหัว แต่ตัวมิดชิดตั้งแต่ตอนสมัครงาน และใช้ใบประกอบซึ่งหน้าเหมือนด้วย ซึ่งถ้าสังเกตผ่าน ๆ จะดูไม่รู้เลย และหญิงรายนี้ไม่ได้เข้ามาที่คลินิกบ่อย ขณะเดียวกันก็กำลังติดต่อลูกค้าเพื่อแสดงความรับผิดชอบ

 

 

ต่อมา บริษัท กัลเดอร์มา (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งถูกอ้างว่าคลินิกของพิมรี่พายมีการสั่งผลิตภัณฑ์มาใช้ในคลินิก ล่าสุดได้ออกมาชี้แจงว่า บริษัทเป็นผู้ใด้รับอนุญาตให้นำเข้าผลิตภัณฑ์สารเติมเต็มที่มีชื่อทางการค้าว่า “Restylane” แต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย ซึ่งทางบริษัทได้รับการสอบถามจากลูกค้าเกี่ยวกับข้อเท็จจริงที่ว่าคลินิกชื่อ อิสคิวท์คลินิก สาขาห้วยขวาง ได้ดำเนินการซื้อผลิตภัณฑ์ดังกล่าวผ่านบริษัท กัลเดอร์มา (ประเทศไทย) จำกัด หรือไม่นั้น

 

ทางบริษัท ขอเรียนขี้แจงต่อท่านว่า บริษัทได้ดำเนินการตรวจสอบฐานข้อมูลเกี่ยวกับการสั่งซื้อผลิตภัณฑ์ดังกล่าวแล้ว และขอยืนยันว่าคลินิกชื่อว่า “อิสคิวท์คลินิก สาขาห้วยขวาง” นั้น ไม่ได้สั่งซื้อผลิตภัณฑ์ดังกล่าวผ่านทางบริษัท กัลเดอร์มา (ประเทศไทย) จำกัด แต่อย่างใด

 

สบส.เตรียมสอบ คลินิก \"พิมรี่พาย\" ปม หมอเก๊-ฟิลเลอร์ปลอม

 

 

ล่าสุด วันนี้ 17 ธ.ค. นพ.ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส.) ให้สัมภาษณ์ว่า กรณีดังกล่าวต้องขอให้ทางเจ้าหน้าที่ของ สบส.ลงพื้นที่ไปตรวจสอบข้อเท็จจริงก่อน ว่ามีความผิดมาตรฐานในเรื่องใดบ้าง ส่วนกรณีมีการใช้ใบวิชาชีพปลอมมาเป็นแพทย์ประจำคลินิกนั้น

 

เบื้องต้นผู้ได้รับอนุญาตประกอบกิจการสถานพยาบาลจะต้องตรวจสอบบุคลากรที่มาปฏิบัติงานให้เป็นไปตามกฎหมาย คือ ตรวจสอบว่าเป็นแพทย์ พยาบาลจริงหรือไม่ หากไม่จริงแล้วรับมาทำงานก็มีความผิดตาม พ.ร.บ.สถานพยาบาล พ.ศ.2541 และ พ.ร.บ.วิชาชีพนั้นๆ ด้วย เนื่องจากไม่ได้ควบคุมกำกับดูแลให้เป็นไปตามมาตรฐาน

 

เมื่อถามถึงลูกค้าที่ไปรับบริการฉีดฟิลเลอร์จะดำเนินการอย่างไรได้ นพ.ธเรศกล่าวว่า ต้องพิสูจน์และตรวจสอบก่อนว่าเป็นไปตามนั้นหรือไม่ ผู้ให้บริการไม่มีใบอนุญาตจริงหรือไม่ ยาและเวชภัณฑ์เป็นของจริงหรือไม่ หากได้รับบริการแล้วเกิดความเสียหาย ผู้รับบริการก็มีสิทธิฟ้อง เรียกร้องความเสียหายได้ หรือผู้ให้บริการไม่ใช่ผู้ประกอบวิชาชีพก็ผิดกฎหมาย สามารถดำเนินการทางคดีได้

 

นพ.ธเรศกล่าวว่า ดังนั้น คนฉีดต้องเข้าใจโครงสร้างใบหน้า เส้นเลือดตรงไหนต้องระวัง คนที่ไม่มีความรู้ ไม่ได้รับใบอนุญาตมามำก็ยิ่งอันตรายมาก ทั้งจากตัวยาและตำแหน่งที่ฉีด ฝากเตือนว่สก่อนรักษาให้ตรวจสอบ และผู้รับอนุญาตหรือเจ้าของคลินิกทุกแห่งมีหน้าที่ต้องตรวจสอบว่ารับคนมาเป็นผู้ประกอบวิชาชีพจริงไหม ซึ่งตรวจสอบได้ทั้งจากแพทยสภา สภาการพยาบาล ส่วนคลินิกก็ตรวจสอบได้ที่กรมสนับสนุนบริการสุขภาพและสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดว่าเป็นคลินิกเถื่อนหรือไม่

 

“ส่วนหมอเถื่อนนี้ผิดแน่นอน เพราะประกอบวิชาชีพเวชกรรมโดยไม่ได้รับอนุญาต มีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี ปรับไม่เกิน 3 หมื่นบาท ส่วนตัวคลินิกจะผิดเรื่องใดบ้าง เป็นไปตามข้อมูลที่มีการกล่าวไว้หรือไม่ ต้องตรวจสอบก่อน” นพ.ธเรศกล่าว

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ