เด่นโซเชียล

"จ้างงาน SME" รับ 3,000 บาท ขยายเวลาวันที่ 21-27 พ.ย. เช็ควิธีลงทะเบียน ด่วน

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

"จ้างงาน SME" เป็นโครงการที่ทางรัฐบาล ออกมาเพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการ SMEs โดยทางรัฐจะช่วยค่าจ้างแรงงาน 3,000 บาทต่อคน เป็นเวลา 3 เดือน เช็คเงื่อนไขที่ต้องรู้ได้ที่นี่

 

"จ้างงาน SME" จากสถานการณ์โควิด-19 ที่ผ่านมา ส่งผลกระทบต่อกลุ่มผู้ประกอบการและกลุ่มลูกจ้างเป็นอย่างมาก จนทำให้บางกิจการจำเป็นต้องหยุดการจ้างงาน ไปจนถึงขั้นปิดกิจการเลยทีเดียว

 

ทางคณะรัฐมนตรี จึงได้ออกนโยบายจัดตั้งโครงการส่งเสริมและรักษาระดับการจ้างงานในธุรกิจ SMEs โดยรัฐจะช่วยแบ่งเบาภาระนายจ้างด้วยการช่วยจ่ายค่าจ้างให้ลูกจ้าง 3,000 ต่อคนต่อเดือน เป็นระยะเวลา 3 เดือน เพื่อป้องกันปัญหาการเลิกจ้าง 

 

ส่งเสริมการ "จ้างงาน SME" มีรายละเอียด ดังนี้

  • ช่วยอุดหนุนค่าจ้าง 3,000 บาทต่อลูกจ้างสัญชาติไทย 1 คนต่อเดือน
  • เป็นระยะเวลา 3 เดือน ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2564 - มกราคม 2565 เพื่อให้สถานประกอบการขนาดเล็ก - กลางเกิดสภาพคล่อง และป้องกันการปลดพนักงานออก
  • โดยเงินอุดหนุนจะได้รับการยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลหรือภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา แล้วแต่กรณี โดยจะไม่ถูกนำมาคิดเป็นรายได้ หรือคำนวณเป็นรายจ่ายในการหักภาษี

 

 

 

 

หลักเกณฑ์ในการเข้าร่วมโครงการส่งเสริมการจ้างงาน SME

  • เป็นนายจ้างภาคเอกชนที่อยู่ในระบบประกันสังคม ตามฐานทะเบียนข้อมูลประกันสังคม ม.33
  • มีสถานะ Active ที่มีลูกจ้างทุกสาขา รวมกันไม่เกิน 200 คน ณ วันที่ 16 ตุลาคม 2564 เพื่อตรวจสอบขนาดกิจการที่มีสถานะเป็น SMEs

 

เงื่อนไขการเข้าร่วมโครงการ

1. รัฐจ่ายเงินอุดหนุนให้แก่นายจ้าง ตามจำนวนลูกจ้างสัญชาติไทยไม่เกิน 200 คน ที่อยู่ในฐานทะเบียนข้อมูลประกันสังคมม.33 มีสถานะ Active ณ วันที่ 16 พฤศจิกายน 2564

2. จ่ายเงินอุดหนุนในอัตรา 3,000 บาทต่อคนต่อเดือน เป็นระยะเวลา 3 เดือน (พฤศจิกายน 2564 - มกราคม 2565)

3. จ่ายเงินอุดหนุนตามจำนวนการจ้างจริงของทุกเดือน โดยตรวจสอบจากฐานทะเบียนข้อมูลประกันสังคมม.33 มีสถานะ Active ทุกวันที่ 16 ของเดือน

4. ระหว่างเข้าร่วมโครงการเดือนที่ 2 และ 3 (ธันวาคม 2564 และมกราคม 2565) นายจ้างจะต้องปฏิบัติตามเงื่อนไข ดังนี้

  • นายจ้างต้องรักษาระดับการจ้างงาน ณ วันที่ 16 พฤศจิกายน 2564 ไม่ต่ำกว่าร้อยละ 95 หากนายจ้างไม่สามารถรักษาระดับการจ้างงานไว้ได้ จะไม่ได้รับเงินอุดหนุนในเดือนนั้น ๆ 
  • ในกรณีที่นายจ้างมีจำนวนการจ้างงานเพิ่มขึ้น โดยเปรียบเทียบจากข้อมูล ณ วันที่ 16 พฤศจิกายน 2564 นายจ้างจะได้รับเงินอุดหนุนตามจำนวนการจ้างงานจริง แต่ไม่เกินร้อยละ 5 ของจำนวนลูกจ้างสัญชาติไทยทั้งหมด ที่เป็นกลุ่มเป้าหมายของโครงการ ในอัตรา 3,000 บาทต่อคนต่อเดือน ระยะเวลา 2 เดือน (ธันวาคม 2564 - มกราคม 2565)
  • นายจ้างจะต้องแจ้งชื่อและหมายเลขบัญชีธนาคารของนายจ้าง (กรณีนายจ้างเป็นนิติบุคคลต้องใช้บัญชีธนาคาร ซึ่งเป็นชื่อของนิติบุคคลนั้น/นายจ้างบุคคลธรรมดาใช้ชื่อบัญชีของนายจ้าง)
  • รัฐจ่ายเงินอุดหนุนให้กับนายจ้าง โดยโอนเงินเข้าบัญชีเงินฝากที่นายจ้างแจ้งทุกวันทำการสุดท้ายของเดือน ตรงนี้เฉพาะกรณีการรับเงินอุดหนุนผ่านบัญชีธนาคารกรุงไทย

 

 

 

 

แต่สำหรับธนาคารอื่น ๆ นายจ้างจะได้รับเงินอุดหนุนหลังจากวันดังกล่าว โดยจะถูกหักค่าธรรมเนียมการโอนระหว่างธนาคารจากเงินอุดหนุน

  • นายจ้างที่ประสงค์เข้าร่วมโครงการ ต้องลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์ ส่งเสริมการจ้างงานเอสเอ็มอี.doe.go.th ตั้งแต่วันที่ 20 ตุลาคม - 20 พฤศจิกายน 2564 ก่อน ล่าสุด ขยายเวลาเป็นวันที่ 21-27 พฤศจิกายนนี้ แล้วจึงสมัครใช้บริการระบบ e-Service ของสำนักงานประกันสังคม เพื่อยื่นแบบรายการแสดงข้อมูลการส่งเงินสมทบ สปส. 1-10 ในระบบ e-Service ภายในวันที่ 15 ของเดือนถัดไป จึงจะได้รับเงินอุดหนุนจากโครงการนี้ (การขอรับเงินอุดหนุนของนายจ้างจะต้องไม่เป็นเหตุให้นายจ้างชะลอการจ่ายค่าจ้างให้แก่ลูกจ้าง)
  • นายจ้างจะต้องจ่ายค่าจ้าง ไม่ต่ำกว่าอัตราค่าจ้างขั้นต่ำของแต่ละจังหวัด ตามประกาศของคณะกรรมการค่าจ้าง

 

 

โครงการส่งเสริมการจ้างงาน SME

 

 

ช่องทางการรับสิทธิ

ผู้ประกอบการสามารถลงทะเบียนร่วมโครงการฯ ผ่านทางระบบออนไลน์ที่เว็บไซต์ ส่งเสริมการจ้างงานเอสเอ็มอี.doe.go.th โดยจะเปิดให้ลงทะเบียนจนถึง 20 พฤศจิกายน 2564 หรือสามารถลงทะเบียนด้วยตัวเอง โดยนำเอกสารสำคัญติดตัวมาด้วย ได้แก่

  • หนังสือมอบอำนาจ ติดอากรแสตมป์ 30 บาท
  • สำเนาบัตรประชาชนผู้มอบอำนาจและผู้รับมอบอำนาจ
  • สำเนาหน้าสมุดธนาคาร (กรณีใช้บัญชีกระแสรายวัน ให้ใช้สมุดหน้าเช็คที่มีชื่อนายจ้างและเลขบัญชี)
  • สำเนาหนังสือรับรองการจดทะเบียนนิติบุคคล หรือสำเนาบัตรประชาชน (นายจ้างบุคคลธรรมดา) โดยลงลายมือชื่อรับรองสำเนาถูกต้องทุกฉบับ

จากนั้นให้ไปติดต่อที่สำนักงานจัดหางานจังหวัด สำนักงานจัดหางานกรุงเทพมหานครพื้นที่ 1-10 เพื่อให้เจ้าที่ดำเนินการให้ หรือสอบถามเพิ่มเติมโทร 1506 กด 2 สายด่วนกระทรวงแรงงาน หรือโทร 1694 สายด่วนกรมการจัดหางาน

 

 

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ