ชูวิทย์ ฟันธงคลิป "ผู้กำกับโจ้" หลุด ไม่เกี่ยวกับคุณธรรมแต่เป็นเรื่องเงิน
นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ฟันธงสาเหตุคลิป "ผู้กำกับโจ้" พ.ต.อ.ธิติสรรค์ อุทธนผล หลุด ไม่เกี่ยวกับคุณธรรมแต่เป็นเรื่องเงิน ชี้ถ้าผลประโยชน์ลงตัว คลิปนี้จะไม่ทีทางหลุดออกมาสู่สาธารณะโดยเด็ดขาด
นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ โพสต์เฟซบุ๊กเกี่ยวกับคดี "ผู้กำกับโจ้" พ.ต.อ.ธิติสรรค์ อุทธนผล ชี้ เมื่อผลประโยชน์ไม่ลงตัว ต้องบรรลัยกันไปข้างหนึ่ง
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- ฉบับเต็ม ทุกคำสารภาพ "ผู้กำกับโจ้" ขอสาบานไม่เคยทุจริตเรื่องเงิน
- ฝากขัง "ผู้กำกับโจ้" วันนี้ ลั่นอโหสิกรรม คนปล่อยคลิป
- "หมวดไวกิ้ง" สวยจนอยากรู้จัก นั่งข้าง ผบ.ตร. แถลงจับ "ผู้กำกับโจ้"
ข้อความจากนายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ พูดถึงการจับกุม "ผู้กำกับโจ้" พ.ต.อ.ธิติสรรค์ อุทธนผล ระบุว่า เมื่อผลประโยชน์ไม่ลงตัว ต้องบรรลัยกันไปข้างหนึ่ง
ข่าวจับผู้กำกับฯโจ้ มือคลุมถุงบนโรงพักนครสวรรค์ดังทั่วประเทศ
หมดสภาพตำรวจมือปราบ เคยจับโจรใส่กุญแจมือ ตอนนี้กลับกลายเป็นผู้ต้องหาคดีหนัก ถูกใส่กุญแจมือนำมาแถลงข่าวเสียเอง
ตอนแรกข่าวว่ารีดทรัพย์เอาเงินเพิ่มจาก 1 ล้านเป็น 2 ล้าน ที่ผู้ต้องหาค้ายายอมรับจ่ายค่าตั๋ว “รอดคุก”
ตอนนี้กลายเป็นรีดข้อมูลยาทำเพื่อประชาชนไปเสียแล้ว ส่วนเมียของผู้ต้องหาที่ปล่อยไป ไม่พูดถึงว่าปล่อยไปได้ไงเมื่อถูกจับพร้อมกัน
เรื่องนี้มีเงื่อนงำว่าอดีตผู้กำกับฯ มือปราบยาเสพติดจะทำดี แต่วิธีผิด หรือจะเอาเงินดำมาแบ่งใช้?
นานๆ ไปหากคดียังอยู่โรงพักนครสวรรค์ ตอนจบอาจพลิกจากหนักเป็นเบา เสี่ยโจ้เขาแบ็คเบาที่ไหน
ที่แน่ๆ เรื่องแบบนี้จะไม่เกิดขึ้น และสังคมจะไม่ได้รู้ความจริง หากผู้กำกับฯโจ้ ในฐานะผู้นำหน่วยโรงพักพื้นที่ทองคำอย่างเมืองนครสวรรค์ดูแลจัดสรรผลประโยชน์ภายในโรงพักลงตัว
คลิปนี้จะไม่ทีทางหลุดออกมาสู่สาธารณะโดยเด็ดขาด หากทุกคนในโรงพักแฮปปี้ จะไปหาเรื่องทุบหม้อข้าวตัวเองทำไม?
เพราะขนาดตัวอดีตผู้กำกับฯโจ้ ที่แปรสภาพมาเป็นผู้ต้องหาถึงกับเอ่ยวลีว่า “อโหสิกรรม” คนปล่อยคลิปนี้
จากประสบการณ์ผม อย่างนี้แสดงว่าทนไม่ไหวแล้ว
การจัดสรรผลประโยชน์ภายในโรงพัก หรือหน่วยงานเป็นเรื่องสำคัญสำหรับผู้นำหน่วย ที่จะต้องแบ่งสรรปันส่วนให้ได้ลงตัวไม่ขาดตกบกพร่องหรืออย่างน้อย “ที่เคยได้ไม่ลดลง”
จะอ้างว่าตัวเองใหญ่ ผู้ใหญ่ส่งมาแล้วเปลี่ยนระบบใหม่ เคลียร์ตั๋วใหม่ให้เอามาไว้ที่ตัวเองคนเดียว แล้วจัดสรรลดลงได้ไง
รายได้ที่เคยได้ ไม่ได้แล้ว หดหายไปเข้ากระเป๋าผู้กำกับฯ คนเดียว
ยิ่งช่วงนี้บ่อนก็ปิด โควิดก็มา ผับบาร์ไม่เปิด จะเอาที่ไหนยาไส้ ยังมาลดตั๋วลงอีก
แบบนี้ไม่รู้เสียแล้ว อย่าพลาดแล้วกัน และอดีตผู้กำกับฯโจ้ ตำรวจหนุ่มอนาคตไกลก็พลาดหนักจนได้
มันไม่ใช่เรื่องของการทนเห็นไม่ได้ของตำรวจชั้นผู้น้อย หรือกลัวถูกฆ่าหรอกครับ
ไม่ได้เกี่ยวกับ “คุณธรรม” มันเป็นเรื่องของ “คุณเงิน” มากกว่า
เมื่อผลประโยชน์ไม่ลงตัวก็ต้องบรรลัยกันไปข้างหนึ่ง
เรื่องนี้สะท้อนถึงระบบผลประโยชน์ที่ขัดแย้ง ภาพลักษณ์องค์กรตำรวจจึงถูกประจานออกมาให้เห็นตะลึงกันทั้งประเทศ ผู้ใหญ่ในวงการตำรวจย่อมรู้ดี
เรียกว่า หากงานนี้เกลี่ยลงตัวทุกคน ผู้กำกับฯโจ้ ยังสามารถเจริญรอยตามรุ่นพี่ได้สบายๆ รุ่งเรืองเป็นเบอร์หนึ่งของรุ่นต่อไป
จึงเป็นประสบการณ์ให้ตำรวจทุกคนเห็นว่า “อย่าทำอย่างโจ้” ไม่ใช่เรื่องเอาถุงคลุมหัวรีดผู้ต้องหา
แต่ต้อง อยู่ให้เป็น เย็นให้พอ เกลี่ยรายได้ให้ลงตัวให้ได้
หากอยู่โรงพักเกรดทองไม่เป็น ผลลัพธ์จะเป็นแบบโจ้ ที่เล่นกันถึงขนาดเข้าคุกตลอดชีวิต