ก่อนหน้านี้ "น้องปีใหม่" ลูกสาว "แอฟ ทักษอร" เจอดราม่าจูงมือ "ซน ฮึง มิน" กัปตันทีมชาติเกาหลีลงสนาม แต่ถูกวิพากษ์วิจารณ์เรื่องอภิสิทธิ์ชน
ล่าสุด "แอฟ ทักษอร" ชี้แจงประเด็นนี้ ที่งานแถลงข่าว Swiss Lab Body Bright Booster ว่า "ตอบตรงๆ ได้ไหมคะ ถ้าให้ตอบตรงๆ เลยก็คือ แอฟรู้สึกดีใจและรู้สึกเป็นเกียรติที่ปีใหม่ได้รับเลือกให้เป็นหนึ่งในน้องที่ได้เข้าไปทำหน้าที่นะตรงนั้น และทุกคนน่าจะเห็นว่าปีใหม่เขาตั้งใจมากจริงๆ คือเขาฟังบรีฟก่อนเลยว่าจะต้องทำยังไง มีหน้าที่อะไร เขาเต็มที่กับหน้าที่ตรงนั้น"
"ส่วนในเรื่องของการคัดเลือกเท่าที่ทราบ ไม่ว่าจะเป็นไทยหรือต่างประเทศ เขาจะคัดเลือกจากหลายๆกลุ่ม คือจะมีหลายกลุ่มมากค่ะ ไม่ว่าจะเป็นน้องๆที่ฝึก อยู่ในสมาคม ก็พูดง่ายๆเหมือนเยาวชนที่จะคัดเลือกมาเป็นนักกีฬา ทั้งลูกหลานนักเตะนี่ก็ต้องให้เขา ก็พ่อเขาเตะ ก็ต้องเป็นลูกใช่ไหมคะ หรือว่าลูกหลานของสปอนเซอร์ ก็ปฏิเสธไม่ได้ทุกทีมจะต้องมีสปอนเซอร์ อันนี้พูดถึงหลักการทั่วๆไป ไม่ใช่ที่นี่อย่างเดียว เพราะฉะนั้นมันจะมีหลายๆกลุ่มค่ะ ไม่ได้มีแค่กลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง ปีใหม่ก็เป็นหนึ่งในนั้น"
"แอฟติดตามทุกอย่าง รับรู้คอมเมนต์ทุกอย่าง ส่วนคอมเมนต์ที่บอกว่าน่าจะให้เป็นน้องที่สนใจกีฬานี้จะเป็นประโยชน์กว่า ปีใหม่ก็สนใจแล้วก็เตะบอลเหมือนกัน เพียงแต่ว่าที่ผ่านมาคือจะเป็นกิจกรรมของโรงเรียนแอฟมักจะไม่ค่อยลงในโซเชียลเพราะแอฟเกรงใจท่านอื่นๆ คือปีใหม่ก็เตะฟุตบอลที่โรงเรียน ที่โรงเรียนเขาก็มีทีมฟุตบอลหญิงเหมือนกัน ปีใหม่ก็เล่นกีฬานี้ด้วยเหมือนกัน แต่คนอาจจะไม่รู้ (ไม่เคยเห็นปีใหม่เตะบอลเลย ทำไมถึงไม่เอาคนที่ชอบเตะบอล?) ปีใหม่ก็ชอบเหมือนกันค่ะ แล้วเขาถึงได้ภูมิใจในหน้าที่ตรงนี้"
"แต่แอฟเข้าใจค่ะ เพราะแอฟไม่เคยนำเสนอภาพตรงนั้น คนก็เลยไม่รู้ว่าปีใหม่ชอบเตะบอล คือทุกกีฬาที่ปีใหม่เล่นที่โรงเรียนแอฟโพสต์น้อยมากๆ เพราะกีฬาแบบนี้มันติดคนอื่น แอฟไม่สามารถไปขออนุญาต โดยเฉพาะโรงเรียนของปีใหม่ค่อนข้างที่จะมีสิทธิความเป็นส่วนตัว ในการเปิดเผยหน้าเด็ก จะให้มานั่งปิดสติกเกอร์ทุกหน้ามันก็ไม่ใช่"
"แอฟก็ไม่ได้อยากนำเสนอทุกแง่มุมของลูกในชีวิตส่วนตัว คือถ้าเกิดไปเที่ยวเล่นอีกอย่างหนึ่ง เดี๋ยวนี้เขาโตแล้วด้วย ถ้าเขาบอกว่าโอเคคุณแม่โพสต์ได้ เราก็ถึงโพสต์ แต่ถ้าเป็นกิจกรรมที่โรงเรียนส่วนใหญ่จะไม่ เพราะฉะนั้นถ้าเป็นความสนใจทางด้านกีฬา แอฟขอยืนยันว่าปีใหม่ก็รักในการเตะฟุตบอล แอฟก็เหมือนผู้ปกครองคนอื่นๆ เราไม่ดีใจที่ลูกเราไปจูงมือและได้ถ่ายรูป แต่มันมันคือการสร้างแรงบันดาลใจให้กับเด็ก ว่าเราได้ลงมาในสนามที่เป็นมืออาชีพจริงๆ ว่านักกีฬาอาชีพเขาเป็นยังไง และเขาได้รับแรงบันดาลใจในการไปฝึกฝนกีฬา ปีใหม่ก็เป็นเหมือนเด็กทุกๆคนทั่วๆไป ที่รักกีฬา"
"วันนั้นกลับมาเขาดีใจปลื้มมาก ตั้งแต่อยู่ที่โน่นแล้ว แอฟก็แซวเขาตลอดว่าปีเห็นรูปไหม คือเรารู้จักลูกเราดี เขายิ้มแบบภูมิใจ อินเนอร์คือแบบภูมิใจ คือไม่ได้ยิ้มสวย คือยิ้มแบบภูมิใจมากที่ฉันได้อยู่ตรงนี้ คือแอฟอยากให้เขามีความสุขและเป็นที่สนใจของเพื่อนในด้านกีฬา มันดีกว่าด้านอื่นๆ จริงๆแอฟเปิดได้ทุกด้านเลยค่ะ อะไรก็ได้เพราะเคยพูดมาโดยตลอดจะเป็นวิชาการดนตรีกีฬา สนใจทางไหนขออย่างเดียวไปให้สุด พร้อมสนับสนุนทุกทาง คือเด็กเปลี่ยนตลอดเหมือนเราให้เขาช้อปปิ้งเยอะๆ ตอนเด็กๆปีใหม่เรียนอะไรเยอะกว่านี้ แล้วเขาก็เริ่มคัดมาเรื่อยๆ ณ ตอนนี้ฟุตบอลก็คือเล่นที่โรงเรียน แต่ถ้าส่วนตัวก็จะเล่นเทนนิส ที่เล่นอย่างต่อเนื่องมาโดยตลอด"
ข่าวที่เกี่ยวข้อง