‘ชาล็อต’ เอาผิดเกรียนด่า 2 ปี รับคำขอโทษเป็นเงินสด เจอจะถาม ‘เกลียดอะไรหนู’

ทนมานานกว่า 2 ปี วันนี้หมดความอดทนแล้ว สำหรับนางเอกหน้าใหม่ “ชาล็อต ออสติน” ที่เพิ่งตัดสินใจไปแจ้งความเอาผิดเกรียนคีย์บอร์ดที่ตามด่าไม่จบไม่สิ้น โดยมีโอกาสได้เจอเจ้าตัวในงานบวงสรวง มนต์รักลูกทุ่ง 2567 ที่เธอแสดงนำ เลยขอถามถึงเรื่องที่เกิดขึ้น รวมถึงประเด็นที่ถูกยกให้เป็น 1 ใน 10 ผู้ทรงอิทธิพลเรื่องหุ้น 

 

เป็น 1 ใน 10 ผู้ทรงอิทธิพลเรื่องหุ้น?

“เป็นอีกบทบาทหนึ่งที่ทำให้เราได้โตขึ้น ในวัย 25 ได้ทำอะไรหลายๆ อย่าง ได้เป็นผู้ถือหุ้นของบริษัทที่เราอยู่ เราก็พัฒนาบริษัทไปเรื่อยๆ ด้วยการที่รับงานต่างๆ รับโอกาสต่างๆ ให้เพิ่มยอด กระตุ้นยอดให้กับองค์กร ถือว่าเป็นสิ่งที่ท้าทาย และเป็นสิ่งที่ดีค่ะ”

 

 

ตกใจไหม มูลค่าค่าหุ้น 38 ล้าน?

“หนูตกใจที่มันพุ่งเร็วเกินคาด เร็วจนเติมไม่ทัน เราก็ได้มีการลองถอนออกมา แต่ไม่ได้เป็นจำนวนเยอะ หุ้นก็ยังเป็น 1 ใน 10 อยู่ ตอนนี้เหลือ 195,000 ถอนมาแค่ 50,000 หุ้น เอามาโปะบ้าน (หัวเราะ) องค์กรเขาบอกว่าลองซื้อขายดู จะได้รู้จังหวะการเล่นหุ้นด้วยตัวเอง พอลองแล้วมันได้เกินคาด ก็เลยเอาไปโปะบ้านค่ะ แล้วก็มีแเพลนว่าจะซื้อหุ้นเพิ่มอยู่แล้ว แต่เดี๋ยวรอก่อน”

 

ตั้งเป้าจะโปะบ้าน 25 ล้านหมดภายในปีนี้ไหม?

“ไม่น่าจะปีนี้ค่ะ แต่ถ้ามีงานพรีเซ็นเตอร์เยอะๆ ก็อาจจะหมดในปีนี้ ก็เข้าได้อยู่หลายๆ ตัว คือเราตั้งเป้าโปะบ้านภายใน 5 ปี แต่ตอนนี้น่าจะเหลืออีก 3 ปี”

 

 

คนแซวว่าเป็นเศรษฐีนีรู้สึกยังไง?

“ก็ดีนะ เป็นคำชมที่ดี ก็รู้สึกอยากเป็นอยู่ เศรษฐีนีดีค่ะ มีตังค์ใช้ (หัวเราะ) ยังดีที่มีแฟนคลับคอยซัปพอร์ตอยู่ เหนียวแน่นเหมือนเดิม พอละคนออนแอร๋ฝ์ น่าจะตกแฟนคลับเพิ่มได้อีกหลายคน”

 

ถามถึงเรื่องที่เราไปโรงพัก มันเกิดอะไรขึ้น?

“คือต้องบอกว่าเป็นเกรียนคีย์บอร์ดก็ได้ อารมณ์เหมือนแอคปั่น เขาคอยป่วนตลอด คือถ้ากุเรื่องหรืออะไรเราไม่ได้สนใจ แต่นี้คือไปป่วนในงาน เวลาเราไลฟ์ก็ไปป่วนในไลฟ์ที่เราทำงาน ป่วนในไลฟ์บอส ไลฟ์เรา จนทนไม่ไหวแล้วรู้สึกว่า 2 ปีนี่คือยอมโดน จะด่าจะว่าอะไรยอมหมดเลย ไม่ได้ตอบโต้ เลยรู้สึกว่ามันเกินพอแล้ว บางคำพูดมันแรงมากๆ จนพี่ตำรวจยัง อุ๊ย ขนาดนี้เลยเหรอ เราก็เลยรวบรวมหลักฐานทั้งหมดยื่นให้ทางตำรวจสอบสวน เดี๋ยวต้องไปที่ตำรวจไซเบอร์ให้เขาเจาะไอพี”

 

เป็นแอนตี้แฟนที่ตามมา 2 ปี หรือยังไง?

“มีทั้งเพิ่งมีและมีนานแล้ว แต่ที่นานแล้วคือมันเกิน 3 เดือน ไม่สามารถเอาเรื่องได้ เลยเอาเรื่องเฉพาะคนที่เพิ่งทำ ถามว่าเป็นคำพูดอะไรบ้าง ก็มีด่าพ่อด่าแม่ บอกพ่อแม่เลี้ยงดูมายังไง ให้ลูกแรดร่านได้ขนาดนี้ เราก็เลยแบบ โห…ก็เถียงไม่ได้นะ (หัวเราะ) แต่รู้สึกว่าด่าเราเราไม่ว่า แต่พ่อแม่เลี้ยงเรามาดีนะ ทุกสิ่งทุกอย่างเราทำตัวเองไหม พ่อแม่ไม่เกี่ยวเลยไม่โอเค แล้วก็มีอีกหลายๆ อย่าง เป็นไปได้ถ้าเจอตัว จะให้ดูว่าที่เขาพิมพ์มีอะไรบ้าง แรงขนาดไหน ตอนแรกแจ้งไป 5 ราย แต่วันที่ไปสน.ได้มาอีก 1 ราย เป็น 6 ราย มีตัวจี๊ดอยู่ 2 คน แต่พอไปสน.ก็ปิดแอคเคาน์ไปเลย ก็เลย เอ้า ปิดทำไม ทำไมไม่ด่า

 

อยากรู้ไหมทำไมเขาถึงแอนตี้เราขนาดนี้?

“เขาคงมีความสุขกับการไม่ชอบหนูหรือเปล่า แต่เราไม่ได้สนใจอยู่แล้ว เพราะมีคนชอบ มีคนไม่ชอบ มันเป็นปกติในวงการ เป็นปกติของมนุษย์ แต่หนูแค่ไม่โอเคกับทั้งคำพูด กับการระรานไปถึงงาน การกุข่าว กุเรื่องใหคนเชื่อ แล้วก็มาด่าเราทั้งที่ไม่ใช่เรื่องจริง ถามว่าทำไมถึงเพิ่งแจ้งความตอนนี้ คือมันต้องมีสักเคสค่ะ ไม่งั้นหนูคงต้องโดนแบบนี้ไปเรื่อยๆ แต่ต่อให้มีเคสนี้ออกมาก็ยังคงโดน แค่อย่างน้อยมันคงบรรเทาลงบ้าง แล้วก็ทำให้หลายๆ คนที่กำลังจะพิมพ์คิดได้บ้าง ว่าผลมันจะเป็นแบบที่เคยเกิดขึ้นนะ มีหลายแอคทักมาขอโทษ บอกหนูขอโทษนะคะ หนูอายุ 16 อย่าเอาเรื่องหนูเลย ยังเรียนอยู่เลย พ่อแม่ต้องเสียใจ เราก็แบบอ้าว แล้วทำไมทำไม เขาบอกว่าหนูเห็นหลายๆ คนเขาสงสัยหนูเลยอยากรู้ ก็บอกว่าเขาว่าสงสัยก็โทร.มาถาม สงสัยก็มาถามดีๆ ได้ แต่นี่ไปลงติ๊กต็อก ไปโยงโน่นนี่นั่นจนปวดหัวเลยแบบสักเคสเถอะ”

 

ยังตามได้ไหม?

“ถ้าเจาะไอพีก็ตามได้ค่ะ แอคเคาท์ยังอยู่แค่ล็อกเฉยๆ (บอสว่ายังไง?) ณ ตอนนี้เป็นสิทธิ์ของหนู แต่ถ้าดำเนินการไปถึงขึ้นศาลก็ต้องคุยกับบอสอีกทีว่าจะยังไง แต่เรามั่นใจว่าเราถูกอยู่แล้ว”

มันกระทบต่อหน้าที่การงานอขงเรายังไงบ้าง?

“มันกระทบกับจิตใจมากกว่าค่ะ ด้วยที่เราดิ่งอยู่แล้วที่เป็นหลายๆ โรคที่เกิดขึ้น พอมีดราม่ายิ่งดิ่งไปอีก พอมีคนมาด่าใจก็ตึกๆ เราก็รู้สึกว่าไม่ไหวแล้ว ขอปกป้องตัวเองบ้าง ก็ตามกฎหมายจำคุก 1 ปี ปรับไม่เกิน 2 แสนบาทต่อคน ถ้าถึงขึ้นศาล 6 คนก็ได้ล้านกว่าบาทโปะบ้านได้เยอะอยู่ ตอนนี้ไซเบอร์ก็กำลังเจาไอพีให้อยู่”

 

ในแง่ของเด็ก 16 ที่ขอโทษ?

“ก็ปล่อยไป ให้อภัย ไม่ได้อยู่ใน 6 คน (หลังมีข่าวมาขอโทษ?) หนูหมายไว้แล้วว่าแอคเคาท์ไหน ก็ตัวจี๊ด จริงๆ มีหลายแอคเคาท์ที่หนูเจอทั้งตัวเป็นหน้าบุคคล รู้ชื่อ แต่หนูไม่ตาม เพราะรู้สึกว่าแค่ได้เห็นก็โอเคแล้ว อย่างน้องถ้าไม่ชอบก็อย่าระราน ต่างคนต่างอยู่สิ คือ 6 คนนั้นเขาไม่หยุด ก่อนดราม่า มีดราม่าก็ไม่หยุด เลยรู้สึกเหนื่อยแทนหลายคนที่มาเห็น มาปั่นป่วน เราทนไม่ได้แล้ว ก็อยากเจอนะคะ อยากถามว่าเป็นอะไร มานั่งพูดกันหน่อยเป็นอะไร

ถ้าสมมติได้เจอก็จะถามว่า ‘ไม่ทราบว่าเกลียดอะไรหนูมากไหมคะ’ อยากจะรู้เหตุผล คนเราทำอะไรต้องมีเหตุผล 2 ปีถ้าจะตามมาเป็นแฟนคลับไหม กลับใจมารักฉันนะ (หัวเราะ) ถามว่าจะใจอ่อนไหม จริงๆ หนุเป็นคนใจอ่อน แต่ว่าไม่เอาอ่ะ ไม่ได้แล้ว หนูกลัวด้วย กลัวว่าถ้าใจอ่อนเดี๋ยวมีอีก อยากให้เป็นบทเรียนด้วย ก็ปรึกษาพี่ๆ ในวงการหลายคนก็บอกว่าถูกแล้ว ปกป้องตัวเองบ้าง หลายคนเขาไม่เข้าใจในสิ่งที่เราจะพูดหรือบางทีเราไม่มีโอกาสได้ออกมาพูดอะไรกลายเป็นว่าพอคนไปกุให้ใหญ่โตปุ๊ป อยู่เฉยๆ ก็เป็นข่าวเลย แล้วก็มีเพจนึงที่ยังไม่เข้าร่วม แต่ก็ยังทันนะ ยังไม่ถึง 3 เดือน ยังต้องได้เข้ารอบ เพราะเพจนี้หนูแค้นใจมาก เขาจุดประเด็นดราม่าขึ้นมา”

 

ณ วันนี้มีภูมิคุ้มกันแล้ว?

“ระดับนึงค่ะ ก็ต้องอยู่ให้ได้แล้วก็ยอมรับ เดินหน้าต่อไปค่ะ”