บันเทิง

'หลิง อารี' ผู้บริหารสาว True CJ กับอนาคตอุตสาหกรรมบันเทิงไทย ไปถึงไหน?

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

อีกมุมมองของอุตสาหกรรมวงการบันเทิงไทย ที่จะเดินหน้าไปในอนาคต และกรอบที่เป็นคอขวดที่หากก้าวข้ามไปได้ อาจจะนำไปสู่ระดับอินเตอร์ วันนี้ ผู้บริหารสาว True CJ หลิง อารี อารีจิตเสถียร (Chief Executive Officer (co) ได้มาไขความลับให้ทราบ?

"True CJ" ในวงการบันเทิงไทย ชื่อนี้หลายคนน่าจะคุ้นหูกันมากขึ้นในยุค 2023 เพราะว่าเป็นเจ้าของคอนเทนต์ไทยที่นำ ซีรีส์ฮอตจากบันเทิงเกาหลีมา Remake ในบ้านเราให้เห็นกันหลากหลายเรื่องจนเป็นที่พูดถึงกัน 

 

ล่าสุดผลงานจาก "True CJ" อย่างเรื่อง "BAD GUYS ล่าล้างเมือง"  ที่อัดแน่นไปด้วยนักแสดงมากฝีมืออาทิ ก๊อต จิรายุ ตันตระกูล, นิ้ง ชัญญา แม็คคลอรี่ย์, เอ็ม สุรศักดิ์ วงษ์ไทย, ณ ณภัทร วิกัยรุ่งโรจน์, หยวน กวินรัฏฐ์ ยศอมรสุนทร มาร่วมถ่ายทอดศิลปะการแสดง จนได้รับการคัดเลือกจากกรรมการคัดสรรในงานประกาศรางวัลคมชัดลึก อวอร์ดครั้งที่ 19 เป็นหนึ่งในผู้เข้าชิงประเภทละครไทย-ซีรีส์ไทย ยอดเยี่ยม ด้วย และต้องมาลุ้นกันว่าผลที่ออกมาผู้คว้ารางวัลในแต่ละสาขาจะเป็นใคร? 

 

'หลิง อารี' ผู้บริหารสาว True CJ กับอนาคตอุตสาหกรรมบันเทิงไทย ไปถึงไหน?

แต่ทว่าวันนี้คมชัดลึก บันเทิง มีโอกาสพูดคุยกับ คุณหลิง อารี อารีจิตเสถียร (Chief Executive Officer (co) ผู้บริหาร จาก True CJ ในหลากหลายแง่มุม นั่นรวมถึงอนาคตและทิศทางอุตสาหกรรมบันเทิงไทย ที่จะเดินหน้าไปด้วยว่ามีจุดไหนที่จะทำให้วงการบันเทิงบ้านเรา

 

'หลิง อารี' ผู้บริหารสาว True CJ กับอนาคตอุตสาหกรรมบันเทิงไทย ไปถึงไหน?

ภาพชัดๆ ของ "True CJ" เป็นอย่างไร และดำเนินการอย่างไรบ้าง?

"จริงๆ เราเป็นบริษัท Joint Venture ระหว่าง CJ E&M( CJ Entertainment & Media)ที่เป็นเจ้าของ TVN บริษัท ซีเจ อีเอ็นเอ็ม อีแอนด์เอ็มดิวิชัน เป็นช่องที่อยู่ที่เกาหลี รวมถึง Studio Dragon  ที่เป็นบริษัทที่ผลิตซีรี่หลายๆเรื่อง ไม่ว่าจะเป็น Crash Landing on You ,Goblin และอีกหลายๆเรื่องเลย เราก็ผลิตสื่อประเภทนี้อยู่แล้ว แล้วก็เป็นธุรกิจที่เรียกว่า Licensing สามารถที่จะขายซีรี่เกาหลีออกไป ให้ดูได้ทั่วโลกรวมถึงในประเทศไทย

 

และอีกหนึ่งธุรกิจที่สำคัญมากสำหรับเราก็คือ การเอารูปแบบของเขา เอาบทของเขา นำมา remakeในประเทศต่างๆก็เป็นธุรกิจที่ใหญ่มากของทาง CJ E&M เขาก็เดินทางมาที่เมืองไทย แล้วก็เฟ้นหาหาพาร์ทเนอร์ จนกระทั่งมาตกลงกับ "True Vision" ซึ่งเราก็มีการทำ Content ในการทำ Production เหมือนกัน

 

เราเกิดขึ้นมาเมื่อ ปี 2016 ตอนนี้ก็เข้าสู่ปีที่ 7 แล้ว เราก็ทำซีรีส์มาหลาย 10 เรื่อง  "23:23 สัญญา สัญญาณ" เป็นซีรีส์ลำดับที่ 13 ว่า โปรดักชั่นมาตราฐานได้รับการรับรองจากบริษัทแม่ของเรา เขาก็เลยยังคงให้เราผลิตกันอยู่อย่างต่อเนื่อง ภายใต้การ Exclusive ให้กับทาง True ID ,True Vision ,True4U  ในอดีตเรามี Partner หลายที่ โดยเฉพาะ Netflix ปัจจุบันนี้เราก็ยังคงมี โปรเจกต์ที่ทำด้วยกันอยู่ แต่หลักๆ ตอนนี้ก็คือ ทีมผลิตให้กับ True ID ด้วย"

 

'หลิง อารี' ผู้บริหารสาว True CJ กับอนาคตอุตสาหกรรมบันเทิงไทย ไปถึงไหน?

"True CJ" โดนกระแสดราม่า มาต่อเนื่องเพราะหยิบซีรีส์มารีเมค?

"หลิง" เชื่อว่าการทำซีรีส์ แม้จะไม่ใช่รีเมคก็มีความกดดันอยู่แล้ว พี่ๆ ในวงการทุกคนก็คงจะมีการตั้งความหวัง กดดันจากเรื่อง คิวนักแสดง กดดันจากไทม์ไลน์ ในการออนแอร์ มันมีความกดดันหลายส่วน "หลิง"เชื่อว่า พี่ๆ ครีเอเตอร์ในวงการหรือผู้จัดในวงการเองก็มีความกดดันไม่แพ้กัน แต่ในแง่ของความคาดหวังจากผู้ชมมากกว่า

 

"เรามีต้นฉบับ มันก็เลยทำให้ถูกเปรียบเทียบไม่มากก็น้อยค่ะ และยิ่งถ้าต้นฉบับเป็นซีรีส์ที่ดังและมีชื่อด้วย มันก็จะมีความกดดันซ้อนลงมาอีก เพิ่มอีกอัน" ซึ่งเราเองจะบอกว่าเราไม่เครียดกับมันก็เป็นไปไม่ได้  เราก็พยายามแปรความเครียดและความกดดันเหล่านั้นมาเป็นความพยายามที่จะทำให้ไปถึงตามที่ผู้ชมคาดหวัง ไม่ว่าจะเป็นในหลายๆ ภาคส่วน

 

มันคงไม่ใช่แค่หน้าตาของนักแสดงที่คล้าย แต่หมายถึงในมุมมองของการแสดง การเล่าเรื่องของบท ของการกำกับของเราก็ตาม เราก็พยายามที่จะทำให้ผู้ชมที่รักในซีรีส์ต้นฉบับ ได้ชมแล้วปันใจมาทางเราบ้าง ก็คิดว่าแปรความกดดัน เป็นความพยายาม สู่ความสำเร็จ 

 

'หลิง อารี' ผู้บริหารสาว True CJ กับอนาคตอุตสาหกรรมบันเทิงไทย ไปถึงไหน?

 

ผู้ชมชาวไทยจะมีความชื่นชอบงานแสดงที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะ? 

"จริงๆ จริตของแต่ละเรื่องมันไม่เหมือนกัน จริตของ Oh My Ghost ซึ่งเป็นซีรี่เรื่องแรกของเรา หรือ Unlucky Ploy ต้องตึ่งโป้ะ ในแบบที่คนเกาหลีก็ไม่เข้าใจ ปรับมาตึ่งโป๊ะขนาดนี้จังหวะแบบนี้ รับส่งกันแบบนี้ จะไม่เห็นแน่ในซีรีส์เกาหลี มันก็จะมีจริตจะก้านอีกแบบนึง ซึ่งถ้าเป็นซีรีส์แบบ Bad Guys ล่าล้างเมือง หรือว่า Signal ที่เรานำมารีเมคมันก็จะมีความ relate กับพวกคดีที่เคยเกิดขึ้นจริง ก็จะทำให้คนที่เป็นผู้ชมชาวไทย อินได้มากขึ้น หรือหยิบคำพูดที่ทำให้คนดูรู้สึก อยากจะพูดอะไรแบบนี้ขึ้นมา เพราะฉนั้นเราก็จะมีการ สร้างและออกแบบตามที่เรานำมารีเมค" 

 


"ละคร กับ ซีรีส์" เบื้องหลังการทำงาน มาตรฐานต่าง ๆ ในปัจจุบันเป็นอย่างไร?

"ขึ้นอยู่กับความคิดเห็นของผู้ชม ว่าอันนี้เรียกละครอันนี้เรียกซีรีส์ สำหรับพวกเราคนทำงานเบื้องหลัง งานหนักเท่ากันความละเอียด ลอออ ก็เท่ากัน แต่ถ้าจะเจาะให้ชัด ภาพยนตร์ซีรี่ย์ อาจจะทำให้คนเห็นภาพแบบหนัง เเต่เล่าแบบยาว ถ่ายแบบหนังก็คือเราเจาะค่อนข้างละเอียด ไม่ได้ปล่อย dialogue ตามนักแสดง องค์ประกอบแสงต้องได้ องค์ประกอบภาพต้องได้ มันก็จะ เคลื่อนไปแบบภาพยนตร์  การถ่ายการวางเฟรมแบบภาพยนตร์"

 

ในขณะที่การเล่าเรื่องมันต้องไม่เล่าแบบสั้นๆจะเล่าเเบบยาว ก็เลยทำให้ระยะเวลาของซีรี่ย์ยาวนานกว่า เพราะว่าเราใช้เวลาเเต่ละซีนค่อนข้างนาน 

 

'หลิง อารี' ผู้บริหารสาว True CJ กับอนาคตอุตสาหกรรมบันเทิงไทย ไปถึงไหน?

 

เดินทางทำงานเพื่อพิสูจน์มาถึง 7 ปี กระแสตอบรับเป็นอย่างไรบ้าง?

"เราก็ถูกผู้ชมทั้งชื่นชม ล้ะก็ให้ข้อคิดเพื่อพัฒนา มีหลากหลายมาก ถ้าพูดถึงเรื่อง Bad Guys ที่กำลังเข้าชิงอยู่ เกินความคาดหมายไปพอสมควร เราไม่คิดว่าพี่ๆน้องๆแฟนๆชาวไทย จะให้การตอบรับกับละครแนวนี้ เพราะว่า ละครหรือซีรีส์แนวนี้ ในบ้านเราไม่ค่อยมีจริง แล้วมันๆโอ้โห แอคชั่นก็สุดๆ ฆ่ากันก็สุดๆ แต่ว่าบางอย่างที่ซ่อนอยู่ ที่เป็นปมดราม่าต่างๆ ก็อาจจะไปสะกิดโดนใจถึงผู้ชมหลายๆคน

 

การได้ยินว่าผู้ชมชื่นชมถึงการที่เราทำงานปราณีต พิถีพิถันกับการทำรีเมคของค่ายนี้ รอชมงานรีเมคของค่ายนี้อยู่เสมอ มันก็เป็นกำลังใจเล็กๆ ให้กับคนทำงานทีมเล็กๆอย่างพวกเรา" 

 

แอบท้อไหมที่โดนเปรียบเทียบ วิจารณ์

มีคนรักก็ต้องมีคนไม่ชอบ เพราะเราก็ไม่สามารถที่จะทำให้ 1 เรื่อง ถูกใจทุกคน100% อย่างที่บอกว่า การเลือกซีรีส์ที่มีความนิยมอยู่แล้วในบ้านเรา มีคนติดตามมากๆ อยู่แล้วมันมีความคาดหวัง บางอันเขาก็ไม่อยากให้เรารีเมคเลย อยากให้ค้างไว้แบบนั้น แม้ว่าเราจะเลือกนักแสดง ผู้กำกับ นักเขียนดีขนาดไหน ถ่ายออกมาไม่ต่างกับเกาหลีขนาดไหนก็ยังไม่ชอบอยู่ดี อันนี้เราก็คงทำอะไรไม่ได้

 

เพราะมันคือธุรกิจของบริษัทแม่เรา เขาต้องการให้มีการรีเมคหลายๆ เว่อชั่นด้วยซ้ำ มันก็เป็นความเห็นที่เราไม่สามารถจัดการได้ แต่ถ้าเป็นความเห็นเพื่อพัฒนา เราก็จะหยิบนะ หยิบมาฟัง หยิบมาลองวิเคราะห์กันดูว่า เราจะทำให้ดีขึ้นในเรื่องต่อๆ ไปยังไง เราจะพัฒนาทำให้ตรงใจคนที่ให้ความเห็น เรามองว่ามันเป็นกระจกสะท้อน ถ้ามีทุกคนชม เราคงจะทำเท่าเดิม ไม่มีอะไรให้พัฒนา แต่พอมันมีผู้ชมที่ติเข้ามาด้วย มันก็จะทำให้เรา อยากแก้ตรงนั้นอย่างปรับตรงนี้

 

"บางทีเราก็อยากไปให้ถึงหน้านักแสดงบางตัว แต่ก็ติดเงื่อนไข ต่างๆ ที่อุตสาหกรรมเรามันไม่ได้เอื้อให้ทำได้ ถ้าเกิดเราช่วยกันแก้ทั้งอุตสาหกรรม ก็อาจจะทำให้ทุกๆอย่างที่ผู้ชมติมามีโอกาสจะปิดช่องว่างไปมากขึ้น" 

'หลิง อารี' ผู้บริหารสาว True CJ กับอนาคตอุตสาหกรรมบันเทิงไทย ไปถึงไหน?

 

กรอบของอุสาหกรรมบันเทิงบ้านเรา ทำให้ไม่ก้าวเข้าไปในระดับอินเตอร์?

"เป็นส่วนนึงมากกว่า เพราะว่า อุตสาหกรรมเราขับเคลื่อนกันมาแบบนี้อย่างยาวนาน มันก็คงต้องใช่เวลาในการที่จะค่อยๆ ปรับไป แต่ว่าทั้งนี้ทั้งนั้น เป็นกรอบที่เราไม่สามารถทะลุออกไปได้ไหม ก็ไม่ถึงขนาดนั้น แต่มันก็มีหลายปัจจัยที่จะส่งผลให้เราไปถึงจุดนั้นได้ มันไม่ใช่ปัจจัยแค่นักแสดงอย่างเดียว มันยังมีปัจจัยในเรื่องของการทำงานทั้งอุตสาหกรรมอีก การให้ความสำคัญกับบท

 

การทำยังไงให้ธุรกิจกับความคิดสร้างสรรค์มันมาเจอกัน แล้ววิ่งไปพร้อมๆกัน โดยที่ไม่ใช่มีเพียงบริษัทใด บริษัทหนึ่งที่ทำแบบนั้นแต่มันต้องแบบแพ็คกันมาเป็นทีม พอมันเคลื่อนไปทั้งอุตสาหกรรมในระนาบเดียวกัน มันจะทำให้ โกลบอลสแตนดาร์ดไม่ไกลเกินจริง" 

ก้าวต่อไปของ "True CJ" จะเดินทางไปยังไงต่อ

ในปี 2566 มีงานที่รออยู่ถึง 5 เรื่อง ที่ผ่านมาก็มี Good Doctor หมอใจพิเศษ เรื่องที่ 2 ก็จะเป็นเรื่อง Familiar Wife เรื่องที่ 3 Emergeny Couple ก็ดังมาก ของทาง TVN เมื่อหลายปีที่ผ่านมา ประมาณ10 ปี ได้แล้ว ค่อนข้างที่จะได้รับการยอมรับในตลาดโลก พอๆกับ Good Doctor เลย อันที่ 4 ก็เป็นเรื่อง Start-Up ซีรีส์ขึ้นหิ่งของ TVN เป็นเทรนไปทั่วโลกเราก็มั่นใจในระดับนึง และเรื่อง Lawless Lawyer กำลังจะเปิดกล้อง ช่วงสงกรานต์นี้

 

เรื่องนี้ก็ได้  ลี ฐานัฐพ์, น้ำตาล ทิพนารี ก็มาเจอกันเป็นเรื่องแรกเหมือนกัน นอกจากนี้ยังได้พี่บุ๋ม ปนัดดา กับ พี่ตั๊ก นภัสกร ขับเคี้ยวกันในฝั่งของผู้พิพากษา อือหือ สุดแน่นอน"

ปี 2566 นี้จริงๆ เรามีออนแอร์ 2 เรื่อง ก็คือเรื่อง Signal หรือว่า 23:23 สัญาสัญญาณ อีกเรื่องนึงน่าจะครึ่งปีหลังค่ะ ชื่อเรื่อง Thank You Teacher 

 

การเลือกนักแสดงที่จะมารับบทบาทต่างๆ ในซีรีส์ที่เลือกมา?

"เวลาเราพัฒนาบท เราก็จะมีการพูดถึง คาเเรคเตอร์คือ ปมของตัวละคร ภูมิหลักของตัวละคร อายุเท่าไหร่ รูปพรรณสัณฐานเป็นยังไง ครอบครัวเป็นยังไง การศึกษาเป็นยังไง อาศัยอยู่ที่ไหน นิสัยใจคอเป็นยังไง มีปมเป็นยังไง ซึ่งบางอย่างอาจจะไม่ได้เล่าในละคร เราจะถกให้เหมือนคนนี้เป็นมนุษย์จริงๆขึ้นมาเลย เพื่อที่จะทำให้นึกถึงเพื่อนๆนักแสดงในวงการ ว่าคนในเข้ากับคาแรคเตอร์นี้ เพราะ

 

ฉะนั้นมันก็จะมีการเลือกจากคาเเรคเตอร์ก่อน จากนั้นพอครบถ้วนสมบูรณ มีการแคสเรียบร้อย ผู้กำกับเห็นด้วย นักเขียนเห็นด้วย โปรดิวเซอร์เห็นด้วยปุ๊ป ต่อมาก็จะมาคุยกันเรื่องคิว บางคนผ่านรอบแรกแล้วแต่มาถึงเรื่องคิว ก็ไม่ตรงกันอีก เราก็จะต้องมีการมองหลายๆมิติ ไม่ใช่มุมมองแค่ว่าเข้ากับบทอย่างเดียว แต่ว่าไทม์ไลน์ต้องเข้ากับนักแสดงมวลรวม คิวการถ่ายทำของเราด้วย" 

 

'หลิง อารี' ผู้บริหารสาว True CJ กับอนาคตอุตสาหกรรมบันเทิงไทย ไปถึงไหน?

พูดว่าเป็นอีกหนึ่งก้าวของ "True CJ" ได้มั้ย กับการเข้าชิงคมชัดลึก อวอร์ด ครั้งที่ 19 ?

"ขอขอบคุณคมชัดลึก อวอร์ดนะคะ ทั้งกรรมการ และผู้ที่เล็งเห็นทุกท่าน เวลาเราทำผลงานออกมา เราก็ไม่ได้คิดว่าทุกเรื่องต้องได้รางวัลอะไร เรียกได้ว่าอันนี้ก็เหมือนเป็นโบนัส อีกอย่างสำหรับคนทำงานที่ได้เห็นโดยเฉพาะรางวัลที่เข้าชิง มี 3 รางวัลเลย จาก 8 รางวัล ก็ชื่นใจในมุมของคนทำงานอย่างบริษัทเล็กๆของเรา "พี่หยวน"เองในฐานะนักแสดงสมทบที่เข้าชิง เราก็ภูมิใจ ต้องบอกว่าทุกตัวละครเราภูมิใจหมด เพราะไม่ใช่เเค่มาแสดงตามบท ทุกคนทำการบ้านกับการตีความของตัวละครแต่ละตัวหนาแน่นมาก มีการคุยกับผู้กำกับ คุยกับแอคติ้งโค้ชตลอดเวลา

ซึ่งทำให้การที่ถ่ายออกมาแต่ละซีน มันเข้มข้นจริงๆไม่มีตัวแสดงตัวไหนที่ดรอปไปเลย แต่ก็ต้องบอกว่าพี่หยวนก็เป็นตัวแทนของเรื่องนี้ในการที่จะเข้าชิงรางวัลนักแสดงสมทบยอดเยี่ยมนะคะ

 

อันที่ 2 ในเรื่องของผู้กำกับเองก็เต็มที่จริงๆ แม้จะถ่ายในช่วงโควิดระบาดรุนเเรงมาก เวลาหา Location ทีก็ต้องระวังตัวกันเป็นพิเศษ เพราะถ้าเกิดติดขึ้นมาคือหยุด หยุดถ่ายไปเลย เพราะฉะนั้นต้องบอกว่าพี่ต้อมทำงานหนักมากแล้วก็ Passion สูงมากกับเรื่องนี้ ก็ดีใจที่เราได้มีโอกาสเข้าชิงรางวัลนี้นะคะ

 

รางวัลซีรีส์สร้างสันสังคมยอดเยี่ยม ที่เข้าชิงอีกหนึ่งสาขานั้น ไม่ว่าจะได้หรือไม่ได้ ไม่เป็นไรเพราะขอแค่คนดูรับรู้ถึงสิ่งที่เราตั้งใจจะส่งออกไป เป็นข้อความที่ทีมครีเอเตอร์ทุกคนอย่างจะนำแสดงออกไป แล้วสัมผัสได้ ก็ถือว่าเราดีใจแล้วเพราะเราตั้งใจจะสร้างสรรค์สังคมจริงๆของTrue CJ มาตั้งแต่ตั้งบริษัทเลย  

 

เรื่องนี้จริงๆ เราตั้งใจจะนำเสนอออกไป คือ "คนเหล่านี้ ที่สังคมเหมือนจะไม่ต้องการแต่กลับมีจิตใจที่จะช่วยเหลือคนมากกว่า คนที่สังคมมองว่าดีซะอีก มันคือสร้างสรรค์ในมุมนั้นจริงๆว่าอย่าตัดสินคนที่ภายนอก เช่นเดียวกันอย่าพึ่งตัดสินซีรีส์ของเรา ถ้ายังไม่มีโอกาสได้ชม แม้ว่าแคสจะไม่ถูกใจหรืออะไรก็ตาม อยากให้เปิดใจแล้วก็ได้ชมว่าสิ่งที่เราตั้งใจทำไป 10 กว่าเดือน ตั้งแต่เขียนบทไปจนถึงห้องตัด อย่างน้อยต้องมีปีครึ่งทุกเรื่องเลย เราก็หวังใจว่า จะได้กดเข้าไปดูกดเข้าไปชมบ้างเป็นกำลังใจกับ True CJ ด้วย" 

'หลิง อารี' ผู้บริหารสาว True CJ กับอนาคตอุตสาหกรรมบันเทิงไทย ไปถึงไหน?

'หลิง อารี' ผู้บริหารสาว True CJ กับอนาคตอุตสาหกรรมบันเทิงไทย ไปถึงไหน?

logoline