เดือน สิงหาคม ยังอยู่ในเดือนของวันแม่แห่งชาติ วันนี้ขอพาไปดูอีกหนึ่งตัวอย่างความรักระหว่าง “แม่” และ “ลูก” ของคนบันเทิงอีกหนึ่งคู่ เป็นความสัมพันธ์ที่เต็มเปี่ยมไปด้วยพลังอันยิ่งใหญ่เหนือสิ่งอื่นใด สำหรับคุณแม่ "ผัดไท ดีใจ" และ "น้องเจอาร์"
เป็นแรงผลักดันที่ทำให้คนคนหนึ่งยอมลำบากและสามารถเสียสละความสุขของตัวเองเพื่อมอบสิ่งที่ดีที่สุดให้กับอีกฝ่าย อย่าง "น้องเจอาร์" เรียกได้ว่าเติบโตมาอย่างดีเลย สำหรับ คุณหมอคนเก่ง ลูกสาวคนสวยของคุณแม่สุดอารมณ์ดีอย่าง "ผัดไท ดีใจ ดีดีดี" เรียกว่าความรักระหว่างแม่ลูกที่รักและผูกพันกันมากๆ พร้อมเผยช่วงเวลาที่ต้องห่างลูก
โดยก่อนหน้านี้เป็นช่วงที่แม่ลูกต้องห่างกัน เมื่อน้องเจอาร์ต้องไปเรียนต่อแพทย์ที่ประเทศจีน นานกว่า 7 ปีซึ่งเป็นเวลาที่คุณแม่คิดถึงลูกมาก ๆ จนกระทั่งวันนี้ได้อยู่และใช้เวลาด้วยกันทุกวัน
ซึ่งน้องเจอาร์ก็ได้เข้ามาดูแลเรื่องสุขภาพและอาหารการกินของคุณแม่ทุกอย่าง จนอาการป่วยด้วยโรคไตดีขึ้นตามลำดับ แถมคุณแม่ ช่วงนี้ผิวพรรณ หน้าตาดูสดใสสวยขึ้นเป็นพิเศษ พร้อมทั้งเผยว่า จริงๆตนเป็นคนติดลูก ด้วยความที่เราต้องห่างเพื่อไปทำหน้าที่ของตัวเอง ก็ต้องทำใจเข้มแข็ง แต่เราสองคนคุยและติดต่อกันอยู่ตลอด พร้อมให้กำลังกันเสมอ ด้วยความที่เราห่างกันจะดราม่าให้ลูกรู้ไม่ได้เพราะมันจะส่งผลให้ลูกรู้สึกกังวลและไม่สู้ไปด้วย แต่ก็แอบร้องไห้อยู่บ่อยๆเพราะคิดถึงลูกมากๆเช่นกัน
ส่วนสำคัญที่ทำให้น้องเจอาร์ไปเรียนหมอนั้นคือแม่ เพราะตอนเด็กตนเองเห็นคุณแม่ป่วยอยู่บ่อยๆ อยากดูแลคุณแม่ได้มากกว่านี้จึงตัดสินใจไปเรียนเพื่อไว้ดูแลแม่ในยามเจ็บป่วย
อีกทั้งยังมี 1 ประโยคที่ทำให้คนฟังรู้สึกซึ้งใจ จากปากลูกสาวที่พูดกับคุณแม่ผัดไทจนแม่ถึงกับน้ำตาคลอว่า "สมมุติว่าถึงขั้นต้องเปลี่ยนไต ถ้าถึงขั้นนั้นแล้วหนูยินดีสละไตให้กับคุณแม่ได้แบบร้อยเปอร์เซ็นต์ เพราะแม่ก็ให้ชีวิตหนูมา ไตข้างเดียวให้แม่ไม่มีปัญหาอยู่แล้ว"
เป็นอีกหนึ่งคู่แม่ลูกที่ดูแลกันได้ดีมากๆ ได้อ่านได้ฟังแล้วรู้สึกอบอุ่นหัวใจ และเห็นถึงหัวใจของสองแม่ลูกที่เสียสละเพื่อกันและกันจริงๆ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง