ในตำราดนตรีบางเล่มได้มีการแบ่งประเภทของโปรดิวเซอร์ออกเป็น 4 แบบ
1.All-Singing-All-Dancing เป็นโปรดิวเซอร์ที่เก่งไปหมดทุกอย่าง ทั้งร้องทั้งเล่นทั้งแต่งรวมอยู่ ในตัวคนคนเดียวกัน ขอเสียก็คือ มักจะชำนาญเพลงในยุคที่ตัวเองถนัดเท่านั้น 2.Faithful Sidekick มักจะมีการพัฒนามาจากการเป็นซาวนด์เอ็นจิเนียที่เก่งเรื่องเครื่องเสียงและคอมพิวเตอร์ แต่ประเภทนี้ก็จะเก่งเฉพาะเพลงแนว Hip-Hop หรือ Electronic แค่นั้น ส่วนมากไม่มีความรู้ด้านดนตรี โดยเฉพาะเรื่องการประสานเสียง (Harmony) 3.Collaborator มักจะพัฒนามาจากวงดนตรีที่เล่นกันเป็นวง การทำงานมักจะถนัดทำงานด้วยกันเช่นวง R.E.M 4.Merlin The Magician เป็นประเภทพ่อมดของวงการ สามารถเสกให้ใครดังหรือดับได้ ส่วนมากจะเสกให้ดังมากกว่า เพราะถ้าเสกให้ดับตัวเองก็จะดับไปด้วย ผมคิดว่า David Foster น่าจะจัดอยู่ในประเภทที่ 4 นี้แน่นอน
David Foster เริ่มต้นเข้ามาในวงการอุตสาหกรรมดนตรีด้วยการเป็นสมาชิกของวงชื่อ Skylark มีเพลงดังติดอันดับท็อปเท็นด้วยเพลงที่มีชื่อว่า Wild Flower ในปี 1973 ซึ่งถือว่าเป็นปีแรกที่เขาได้เข้าวงการ ผมก็เข้าวงการเป็นเรื่องเป็นราวในปี 1974 หลังจากเขาปีเดียว แต่ไม่ใช่ในฐานะนักแต่งเพลง หรือโปรดิวเซอร์ เป็นนักดนตรีอาชีพเล่นกับวง Fantasy ผมจำเพลงนี้แม่นยำ เพราะเมื่อได้ยินครั้งแรกก็อยากจะต่อเพลงนี้ทันที ท่อนกีตาร์โซโลสวยมาก ก็คิดชุ่ยๆ แบบไทยๆ ของผมเพียงแต่ว่า ถ้าเล่นเพลงนี้ได้ก็จะเท่ สาวๆ ก็จะติดใจ ไม่เคยสนใจที่จะดูเลยว่าใครเป็นคนแต่งเพลงนี้ เพิ่งจะมาตาสว่างก็ตอนนี้เอง และก็ยิ่งทำให้ชื่นชมเขามากขึ้นไปอีก
ผลงานการโปรดิวซ์ของเขาคงเป็นที่รู้จักกันเป็นอย่างดีแล้ว เพราะมีเพลงดังๆ จากศิลปินมากหน้าหลายตาออกมาทุกปี ผมอยากพูดถึงความพิเศษและความโชคดีของเขาในฐานะการทำงานเป็นโปรดิวเซอร์น่าจะเป็นมุมมองที่ท่านผู้อ่านสนใจมากกว่า ก็คิดเอาเองเหมาๆ ไปอย่างนั้น เพราะมีหลายครั้งทีเดียวที่มักจะถูกถามถึงเรื่องการทำงานของโปรดิวเซอร์ว่า ตำแหน่งโก้เก๋นี้จริงๆ เขาทำอะไรกัน
ท่านผู้อ่านน่าจะชินหรือรู้จักการทำงานของผู้กำกับภาพยนตร์กันเป็นส่วนมากอยู่แล้ว การทำงานของโปรดิวเซอร์ในด้านเพลง หรือที่เรียกว่า Record Producer ก็คล้ายกับผู้กำกับภาพยนตร์นั่นแหละครับ ที่ต้องคอยกำกับควบคุมให้ผลงานที่จะสำเร็จออกมารูปอัลบั้มนั้นมีคุณภาพเสียงที่ดี เพลงดี ที่สามารถกลายเป็นที่นิยมของผู้ฟัง กลายเป็นเพลงฮิตหรือมากไปกว่านั้น ให้กลายเป็นเพลงอมตะที่ผู้ฟังอยากจะฟังแล้วฟังอีกไปนานแสนนาน หน้าที่ของโปรดิวเซอร์ที่สำคัญที่สุดคือ การค้นหาเพลงที่ดีที่สุดมาให้ศิลปิน ที่เขาจะต้องโปรดิวซ์ กำกับศิลปิน ให้ถ่ายทอดเพลงนั้นออกมาได้อย่างที่ตัวเองต้องการ ค้นหาความสามารถพิเศษในการร้องของศิลปินแล้วหยิบขึ้นมานำเสนอให้เป็นจุดเด่น ต้องมีศิลปะในการชักจูงให้เหล่าศิลปินเห็นด้วยกับทิศทางที่จะทำงานร่วมกัน เพราะการทำงานร่วมกับศิลปินหลายแขนงเป็นเรื่องละเอียดอ่อนมาก แค่พูดผิดหูไปนิดเดียวอาจทำให้โครงการทั้งหมดพังลงได้ในพริบตา
ความโชคดีของเขาเกิดจากการที่อยากจะเป็นนักร้องแต่ร้องไม่ได้ดีถึงแย่ (เขาพูดเอง) ทำให้เขาหลงใหลนักร้องที่มีเสียงสวยและมีพลัง เป็นจุดเริ่มต้นในการเป็นโปรดิวเซอร์ของเขา ทำให้เขามีความเชี่ยวชาญ ซึ่งน่าจะเกิดจากการสังเกตและค้นหาในการเลือกศิลปินที่จะมาโปรดิวซ์ การคัดเลือกเพลงที่ดีและเหมาะสมกับศิลปินคนนั้นๆ ก็เป็นเรื่องสำคัญ รวมไปถึงรูปแบบของเพลง (Style, Genre) ที่จะทำให้ศิลปินได้ถ่ายทอดออกมาอย่างเป็นธรรมชาติและได้อารมณ์
เมื่อเข้าสู่วงการใหม่ๆ เขาเป็นมือคีย์บอร์ดที่ถูกตามตัวให้ไปร่วมงาน ทั้งในการบันทึกเสียง และแสดงสด เพื่อสนับสนุนศิลปินดังๆ มากมาย และที่สำคัญหลากหลายสไตล์ ทำให้เขาสามารถทำดนตรีได้ในหลายรูปแบบ ทั้งในรูปของวงออเคสตรา, ป๊อป, ร็อก, แจ๊ส หรือแม้แต่ในแนวฮิพฮอพ ทำให้ยังสามารถยืนหยัดอยู่ในวงการได้ไม่ตกรุ่น
เขาโชคดีที่ชีวิตการทำงานมีแต่โรยด้วยกลีบกุหลาบ ไม่มีช่วงตกต่ำเลย ดูได้จากรายชื่อเพลงฮิตที่มีชื่อของเขาเป็นผู้ประพันธ์ ร่วมประพันธ์ และโปรดิวซ์ มาตลอดระยะเวลาถึง 37 ปี และได้รับการบันทึกชื่อไว้ในฮอลล์ ออฟ เฟม ในฐานะนักแต่งเพลงที่ประสบความสำเร็จตลอด กาลไปแล้ว
เขาเข้าวงการในช่วงที่อุตสาหกรรมดนตรีของสหรัฐอเมริกาเจริญเติบโตมีอัตราการเจริญเติบโตสูงเป็นเลขสองหลัก อะไรๆ ก็เข้าที่เข้าทางไม่ต้องต่อสู้เหมือนศิลปินรุ่นแรกๆ สิบกว่าปี ก่อนหน้านั้น เช่น Chuck Berry ที่อยู่ดีๆ ก็มีชื่อคนอื่นเข้ามาร่วมเป็นผู้แต่งแบ่งค่าลิขสิทธิ์ไปอย่างหน้าตาเฉย เมื่อระบบทั้งเรื่องธุรกิจดี ระบบกฎหมายลิขสิทธิ์ดี การทำงานก็เจริญก้าวหน้า มีกำลังใจที่จะผลิตงานดีๆ ออกมาให้สังคมมีความสุขได้อยู่เรื่อยๆ
ข่าวดีที่ได้มีการรวมผลงานของเขาออกมาเป็นรูปซีดร อัลบั้มคู่โดยวอร์เนอร์มิวสิค จัดจำหน่ายโดยวอร์เนอร์มิวสิค (ประเทศไทย) และจะมีคอนเสิร์ตเห็นตัวกันจริงๆ ที่อิมแพ็ค อารีน่า ในวันที่ 25 ตุลาคมนี้ ไม่ควรพลาดทั้งสองรายการนะครับ มีเรื่องที่อยากจะเขียนถึงเขาอีกหลายเรื่อง
เอาไว้ก่อนคอนเสิร์ตจะหาเรื่องที่น่าสนใจมาเขียนต่ออีกแล้วกัน
"จิระพรรณ อังศวานนท์ "
ข่าวที่เกี่ยวข้อง