ส่องธุรกิจ "พลอย ชิดจันทร์" สุดอึ้ง รายได้ ปีละ 7,000 ล้าน ยังไม่รวม ธุรกิจ อื่น

ต้องยอมรับว่านาทีนี้ชื่อของนักแสดงสาว "พลอย ชิดจันทร์" กลับมาถูกพูดถึงอีกครั้ง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการที่เจ้าตัวออกมาไลฟ์สดขายกะละมัง ทั้งที่รวยอู้ฟู่ และกับอีกประเด็นร้อนที่มีคำใบ้หลุดออกมาว่า มีดาราสาวคนหนึ่งเป็นหนี้ธนาคาร แต่กลับไม่ยอมชดใช้ ทั้งที่มักจะเปิดไลฟ์สไตล์สุดหรู จนใครๆต่างพากันอิจฉาไปตามๆกัน  โดย ดาราสาว ไม่ยอมใช้หนี้ที่กู้มาจากธนาคาร จนเข้าขั้นสถานะหนี้เสีย หรือ NPL ที่ค้างชำระติดต่อกันเกิน 90 วัน ซึ่งหนี้สินทั้งหมดที่ ดาราสาว ไม่ยอมจ่าย แบ่งเป็นหนี้ก้อนแรก รวม 520 ล้านบาท อีกก้อนหนี้รวม 620 ล้านบาท และสุดท้ายเป็นหนี้รวม 210 ล้านบาท รวมจำนวนหนี้สินทั้งสิ้น 1,350 ล้านบาท ซึ่งเมื่อทางธนาคารทวงถามการชำระหนี้ กลับอ้างว่าอยู่ระหว่างเจรจาหาข้อยุติกับหุ้นส่วน อย่างไรก็ตาม สำหรับหนี้สินทั้งหมด ได้มีการขอสินเชื่อภายใต้บริษัทเดียวกัน ซึ่งเป็นบริษัทเกี่ยวกับส่งออก มีเงินประกันอยู่ที่ 400 ล้านบาทอีกด้วย

งานนี้ถึงแม้จะไม่มีการเอ่ยชื่อ แต่ชาวเน็ตต่างก็เดากันว่าเป็นเธอหรือไม่ เพราะเจ้าตัวก็มีการทำธุรกิจเกี่ยวกับการส่งออก ซึ่งเรื่องนี้จะเท็จจริงยังไงก็คงต้องรอเธอออกมาชี้แจงด้วยตัวเอง แต่ คมชัดลึก ก็จะพาไปรู้จักธุรกิจของเธอกันค่ะ โดยทาง กรุงเทพธุรกิจ ได้เผยไว้เมื่อปี 64 ว่า สำหรับ พลอย-ชิดจันทร์ หรือ ชิดจันทร์ ห่ง คุณแม่ลูกสี่ ที่เดี๋ยวนี้กลายเป็นเถ้าแก่เนี้ยเต็มตัว  ช่วยสามี (เคน ห่ง) ชาวฮ่องกง บริหารงานธุรกิจแปรรูปผลไม้อบแห้งส่งออกต่างประเทศ และก่อนหน้านี้ก็ทำโลกโซเชียลฮือฮา กับการแจกโบนัสพนักงานสุดปัง ทั้งเงินแสน ทั้งรถป้ายแดง เนื่องในโอกาสครบรอบ 10 ปีของบริษัท พลอย-ชิดจันทร์ ห่ง และ สามี-เคน ห่ง เป็นเจ้าของธุรกิจผลไม้อบแห้ง ในชื่อ บริษัท ไทย โทน อินเตอร์แนลชั่นนอล เทรด จำกัด ส่งออกไปหลายประเทศ อาทิ ฮ่องกง เวียดนาม สิงคโปร์ มาเลเซีย อินโดนีเซีย โดยมีตลาดหลักอยู่ที่ประเทศจีน

นอกจากสินค้าหลักก็คือ “ลำไยอบแห้ง” แล้ว ยังส่งออก “ผลไม้สด” อย่าง ลำไย มังคุด และทุเรียน รวมถึงขยายโรงงานผลิต จากเดิมซึ่งปักหมุดที่ จ.ลำพูน แหล่งปลูกลำไยแห่งใหญ่ของเมืองไทย ก็ขยายไปสู่ จ.จันทบุรี และ จ.นครพนม แถมยังแตกไลน์ธุรกิจให้ครบวงจรยิ่งขึ้น ด้วยการทำโลจิสติกส์ ในชื่อ บริษัท สอง สอง เก้า เก้า เทรดดิ้ง จํากัด จากจุดเริ่มต้นก่อตั้ง บริษัท ไทย โทน อินเตอร์แนลชั่นนอล เทรด จำกัด เมื่อปี 2553 ทั้งคู่ก็ขยายธุรกิจเรื่อยมา โดยไทม์ไลน์ บริษัทในเครือ มีดังนี้

ปี 2553 : 
จดทะเบียน บริษัท ไทย โทน อินเตอร์แนลชั่นนอลเทรด จำกัด อ.ลี้ จ.ลำพูน

2556 : 
จดทะเบียนสาขาที่1 อ.เมือง จ.เชียงใหม่
จดทะเบียนสาขาที่ 2 อ.ลี้ จ.ลําพูน
จดทะเบียนบริษัท สอง สอง เก้า เก้า เทรดดิ้ง จํากัด

2558 : 
จดทะเบียนสาขาที่3 อ.เมืองนครพนม จ.นครพนม

2561 : 
จดทะเบียนสาขาที่4 อ.จอมทอง จ.เชียงใหม่
จดทะเบียนบริษัท ไทยโทน พญานาค จํากัด

เมื่อดูจากรายได้ของ บริษัท ไทย โทน อินเตอร์แนลชั่นนอล เทรด จำกัด ต่อเนื่อง 5 ปีย้อนหลัง จากปี 2558 - 2562 ข้อมูลจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า พบว่า มีกำไรเติมโตขึ้นต่อเนื่อง ดังนี้ 

- ปี 2558 มีรายได้รวม 609 ล้านบาท มีกำไรราว 4.5 ล้านบาท 

- ปี 2559  มีรายได้รวม 7,090 ล้านบาท มีกำไร 13 ล้านบาท

- ปี 2560  มีรายได้รวม 6,641 ล้านบาท มีกำไร 15 ล้านบาท

- ปี 2561 มีรายได้รวม 6,896 ล้านบาท มีกำไร 23 ล้านบาท

- ปี 2562 มีรายได้รวม 7,188 ล้านบาท มีกำไร 22 ล้านบาท

นอกจากนี้ ทางบ้านของ พลอย ชิดจันทร์ ก็เป็นครอบครัวนักธุรกิจเช่นกัน และญาติยังเป็นคู่ค้าหุ้นส่วนธุรกิจกับบ้านของสามีมาก่อน จนพบรักกันในที่สุด โดยสาวพลอยยังมีธุรกิจหลายอย่างที่ทำร่วมกับครอบครัวและสามี อาทิ ร้านอาหาร ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ โปรเจกต์หมู่บ้านจัดสรร ธุรกิจเครื่องหนัง และธุรกิจอาหารส่งออกอีกด้วย

ติดตาม คมชัดลึก ได้ที่ 
Instagram: https://www.instagram.com/komchadluek_online/
YouTube: https://www.youtube.com/channel/UCnniqWGq9lOqYd5sGWxVi7w