ที่แรก "สมรักษ์" เผยเหตุผลเลือก พปชร. พร้อมฝากถึงเด็กยุคใหม่ที่โจมตีว่า ?

โดยเมื่อวันที่ 27 เมษายน 2565 ที่ทำการพรรคพลังประชารัฐ นายสันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ในฐานะเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) พร้อมด้วย นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รองหัวหน้าพรรค พลเอกธัญญา เกียติสาร กรรมการบริหารพรรค และ ดร.พัชรินทร์ ซำศิริพงษ์ โฆษกพรรค ร่วมแถลงข่าวเปิดตัวผู้สมัครสมาชิกใหม่ พรรคพลังประชารัฐ โดยจะลงรับสมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร์ (ส.ส.) ในพื้นที่อีสานเหนือ จำนวน 22 คน ใน 11 จังหวัด จ.มหาสารคาม จำนวน 4 คน จ.สกลนคร จำนวน 3 คน จ.อุดรธานี จำนวน 3 คน จ.นครพนม จำนวน 2 คน จ.หนองคาย จำนวน 2 คน จ.ร้อยเอ็ด จำนวน 2 คน จ.กาฬสินธุ์ จำนวน 2 คน ส่วน จ.เลย จ.บึงกาฬ จ.ขอนแก่น และ จ.หนองบัวลำภู มีว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.เข้ามาสมัครเป็นสมาชิกใหม่ จังหวัด ละ 1 คน โดยหนึ่งในนั้นคือ "สมรักษ์" คำสิงห์ 

นายสันติ กล่าวว่า วันนี้นับเป็นวันดีอีกวันหนึ่ง ที่พรรคมีบุคคลมาจากหลากหลายอาชีพ มีความสามารถ ด้วยความมุ่งมั่นอุดมการณ์เดียวกัน และเห็นความเข้มแข็งของพรรคพร้อมเสนอตัวเพื่อเป็นว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ทำหน้าที่เป็นตัวแทนของประชาชนในพื้นที่ของตนเอง สอดคล้องกับแนวทางการทำงานของรัฐบาลที่มีพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนที่เกิดจากการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 รวมถึงความไม่สงบที่เกิดจากสงครามระหว่างรัสเซียกับยูแครน ที่ส่งผลกระทบต่อระบบเศรษฐกิจของโลกและประเทศไทย ซึ่งผ่านมารัฐบาลได้เข้าไปเยียวยาช่วยเหลือประชาชนฐานรากและผู้ประกอบการในมาตรการต่างๆ อย่างต่อเนื่องจนสามารขับเคลื่อนเศรษฐกิจไปได้ด้วยดี อย่างไรก็ตามขณะนี้พรรคอยู่ระหว่างดำเนินการทำนโยบายเพื่อให้เข้าถึงประชาชนทุกภาค ทุกจังหวัด ที่สำคัญนโยบายเราจะลงไปถึงเยาวชน เพิ่มศักยภาพการแข่งขันให้กับเขาในเรื่องความรู้ความสามารถและนวัตกรรมใหม่ๆ พัฒนาปรับปรุงเรื่องการศึกษาเพื่อลงไปถึงคนรุ่นใหม่ที่จะเป็นคนในอนาคตรองรับกับเทคโนโลยีที่จะพัฒนาไปอย่างรวดเร็ว ซึ่งเราจะต้องเตรียมความพร้อมให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้นเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ

นอกจากนี้ยังเผยอีกว่า ว่าที่ผู้สมัครภาคอีสานตอนบนถือเป็นส่วนหนึ่งของการขับเคลื่อน ซึ่งพรรคจะมีการคัดสรรผู้สมัครให้ครบ 400 เขต เพราะเราให้ความสำคัญกับการดูแลพี่น้องประชาชนในทุกภาค ในส่วนภาคอีสานรัฐบาลและพรรคได้ให้ความสำคัญในการแก้ไขปัญหาภัยแล้งอย่างจริงจัง และได้มีอีกหลายผลงานที่ได้พยายามขับเคลื่อนอยู่ในเวลานี้ ซึ่งการเปิดตัวในครั้งนี้ ทำให้พรรคมีเครือข่ายที่จะดูแลพี่น้องประชาชนเพิ่มขึ้น และพร้อมที่ลงพื้นที่เพื่อรับฟังเสียงสะท้อนของประชาชน เพื่อนำไปสู่การต่อยอดนโยบายต่อไป

โดยทาง สมรักษ์ คำสิงห์ อดีตนักมวยเหรียญทองโอลิมปิก ที่มาเป็นผู้แทนราษฎรจังหวัดขอนแก่น พรรคพลังประชารัฐ ได้เผยว่า หากได้เป็น ส.ส.จะไม่ใช่ ส.ส.ปลายแถวแน่นอน หากได้เงินพัฒนาจังหวัดขอนแก่น ต้องปรึกษาชาวบ้าน ไม่มีเข้าพกเข้าห่อเพราะไม่มีบริษัทรับเหมา มั่นใจว่าตัวเองเป็นคนดี เพราะพร้อมรับรางวัลคนดีมามากแล้ว หากเปรียบเหมือนมวยก็เป็นมวยฟอร์มสด ที่มาถูกที่ถูกเวลา มาด้วยความตั้งใจจะพัฒนาบ้านเรา กระทั่งเกิดเป็นประเด็นดราม่าบนโลกโซเชียล โดยส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วยและมองว่า สมรักษ์ คำสิงห์ มาเล่นการเมืองทำไม อยู่เฉยๆ ก็ดีอยู่แล้ว เป็นต้น 

ล่าสุด "สมรักษ์" ก็ได้เปิดใจกับทีมข่าวคมชัดลึกบันเทิงออนไลน์ เป็นที่แรกถึงสาเหตุที่ลงเล่นการเมืองและยังเลือกอยู่พรรคพลังประชารัฐว่า "ที่ตัดสินใจลงเล่นการเมืองเพราะพรรคนี้ติดต่อมาก่อนใคร รวมถึงชาวบ้านก็ขอให้ตนลง ซึ่งตนก็รู้สึกว่าพร้อมแล้ว และก็อยากจะช่วยพัฒนาบ้านเกิดตัวเองด้วย โดยที่ผ่านมาตนลงพื้นที่มาตลอดเวลา อาทิ ชาวบ้านชวนไปงานบุญ หรืออะไรที่ช่วยได้ก็ช่วยหมด แต่ถ้าลงพื้นที่จริงๆจังๆก็ประมาณ 2 เดือนแล้ว

และที่ตัดสินใจลงพรรคนี้ก็มาจากเมื่อปี 53 ตนเป็นคนของประชาชน พอเห็นคนตีกันก็ไม่สบายใจ อยากให้มีกรรมการสักคนมาห้าม แล้วมีวันหนึ่งที่เริ่มรุนแรง ปรากฏว่านักการเมืองที่ไปชวนคนมาชุมนุมกลับหายหมด ชาวบ้านและเพื่อนตนในบ้านเกิดจังหวัดขอนแก่นก็มาขอเงินจากตนเพื่อกลับบ้าน ตนเลยรู้สึกว่ามันไม่ถูก การจะเป็น ส.ส. ต้องมีความรับผิดชอบ เอาเขามาก็เอาเขากลับไปด้วย 

ทั้งนี้ตนก็ตอบตรงๆเลยว่าการลงเล่นการเมืองในครั้งนี้ ครอบครัวตนไม่แฮปปี้ เพราะไม่อยากให้มายุ่งเกี่ยวกับการเมือง ตนก็บอกไปว่า ช่างพ่อเถอะ พ่อแก่ตัวแล้วอยากจะทำประโยชน์ให้กับบ้านเมืองบ้าง โดยตนเชื่อมั่นว่าตัวเองเป็นคนดี ตรงไปตรงมา ไม่มีโกง หากโกงค่อยมาด่าตน ตนตั้งใจเป็นตัวอย่างที่ดีให้กับ ส.ส. เลย

สุดท้ายตนก็อยากบอกเด็กยุคใหม่ที่โจมตีพรรคนี้ว่า อยากจะให้หันไปดู ส.ส.บ้านตัวเองก่อน ว่าดีพอหรือยัง คนจะเป็นส.ส.ไม่ว่าจะอยู่พรรคไหน ขอแค่เป็นคนดีก็พอแล้ว ส่วนที่มีคนถามว่าตนลงเล่นการเมืองทำไมมีแต่คนไม่ดี ตนขอบอกว่า ถ้ารู้ว่านักการเมืองเป็นคนไม่ดี ทำไมไม่สนับสนุนคนดีอย่างตนเข้าไปหละ