"แอนโทเนีย" เปิดใจเล่าเตรียมสละมง Miss Supranational 2019 | คมชัดลึก

กว่า 2 ปี เต็ม กับหลากหลายภารกิจเพื่อสังคม สำหรับการทำหน้าที่อย่างแข็งขันโดยเฉพาะอย่างยิ่งงานทางด้านเด็กและสตรี ของสาวสวยมากความสามารถ อย่าง “แอนโทเนีย โพซิ้ว” Miss Supranational 2019 และแน่นอนว่าเธอจะไม่หยุดแต่เพียงเท่านี้ แต่ที่แน่ๆตอนนี้ ยังมีอีกหนึ่งภารกิจสำคัญ ที่เธอต้องสานต่อให้เสร็จถึงเวลาที่ “แอนโทเนีย โพซิ้ว” Miss Supranational 2019 จะต้องส่งมอบหน้าที่อันสำคัญยิ่งนี้กับรุ่นต่อไปที่เหมาะสมและคู่ควร กับมงกุฎ Miss Supranational สาวงามคนต่อไป ในวันที่ 22 สิงหาคม พ.ศ. 2564 ณ ประเทศโปแลนด์

 

 

 

ในช่วงปีที่ผ่านมาเรียกว่าเป็นความยากลำบาก สำหรับทุกๆคน บนโลกใบนี้ เนื่องจากวิกฤต โควิด 19 ที่ส่งผลกระทบอย่างหนักหน่วง หลายคนไร้งานทำ,ไร้บ้าน,อดอยาก และบางรายถึงขั้นเสียชีวิต ซึ่งทั้งหมดทั้งมวลนี้ ถือเป็นบทพิสูตร์อันสุดหิน ของ “แอนโทเนีย”ในการทำหน้าที่  Miss Supranational ซึ่งก่อนหน้านี้ ก่อนที่จะเกิด วิกฤต โควิด 19 “แอนโทเนีย”มีภารกิจกับหมายกำหนดการเดินทางไป 21 ประเทศทั่วโลกเพื่อเป็นตัวแทนของประเทศในการทำหน้าที่ Miss Supranational ด้วยวิกฤต โควิด-19 ก็เป็นอันต้องพับภารกิจนี้ไปโดยปริยาย

 

 

แต่นั่นก็ไม่ทำให้เธอย่อท้อแต่อย่างใด “แอนโทเนีย ”กลับเดินหน้าต่อ.. โดยเลือกที่จะออกไปช่วยเหลือชุมชน โดยมีครอบครัวเป็นแรงใจและเหล่าแฟนคลับ รวมทั้งเพื่อนๆเหล่านางงามมาเป็นแรงกาย ช่วยระดมทุน รับบริจาคสิ่งของ ลงพื้นที่ เพื่อช่วยเหลือผู้ยากไร้ เพื่อให้ผ่านวิกฤตนี้ ไปด้วยกัน และอีกหนึ่งหน้าที่..ที่สำคัญที่ไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากันเลยนั่น คือ เธอเป็นตัวแทนนักศึกษามหาวิทยาลัยนานาชาติ Stamford International University ผู้เป็นส่วนหนึ่งในการจัดตั้งแคมเปญ #PolicyPlease  ต่อต้านการล่วงละเมิดทางเพศ อีกด้วย

 

 

 

ล่าสุด “แอนโทเนีย” เตรียมระดมทุนหางบประมาณในการ สร้างห้องน้ำ,ห้องสมุด และ ห้องพยาบาล ให้กับโรงเรียนในถิ่นทุรกันดาร โดยเริ่มจาก โรงเรียน อนุบาลบ้านงิ้ว ในจังหวัดนครราชสีมา เป็นที่แรก แต่ก็ยังมีอีกหลายโครงการที่ยังคงถูกระงับ เนื่องจากข้อจำกัดของ ภาวะวิกฤตโควิด-19

 

 

จากหลากหลายภารกิจ ที่เธอริเริ่มขึ้น ซึ่งแน่นอน ต้องมีคำถามตามว่า "เธอทำไปทำไม..ทำไปเพื่ออะไร"..สิ่งหนึ่งที่ได้ยินกลับมาเชื่อว่าหลายคนคงต้องคิดตามเหมือนเธอ เพียงแต่ยังไม่ได้เริ่มเท่านั้นมันไม่ได้เพียงเพราะเราอยู่ในตำแหน่งหรือเป็นเพราะหน้าที่แต่ เป็นเพราะ เราเป็นเพื่อนมนุษย์เหมือนกัน..อยู่ในสังคมเดียวกัน เราควรมีน้ำใจให้กัน ถึงจะทำให้เราอยู่ร่วมกันในสังคมได้อย่างสันติสุขไม่ใช่หรือ  และด้วยสถานการณ์ปัจจุบันด้วยขอจำกัดในหลายๆอย่างในสภาวะเช่นนี้สร้างแรงกดดันให้เธออย่างมาก แอนโทเนีย

 

 

แต่ด้วยความตั้งมั่นในปณิธานของเธอ เธอเล่าว่า“การทำความดี ไม่ว่าจะเป็นทางใดก็แล้วแต่ หรือยกตัวอย่างเช่น การให้อย่างบริสุทธิ์ใจ แม้เพียงน้อยนิดสำหรับเรา แต่มันอาจส่งผลต่อหลายๆคน หลายๆชีวิต ที่กำลังประสบปัญหาความยากลำบากในภาวะวิกฤตเช่นนี้  เราๆหลายๆคน ยังโชคดีที่มีหลังคาคลุมหัว มีอาหารบนโต๊ะ มีเตียงนอนในตอนกลางคืน แต่อีกมุมหนึ่งในสังคม บางคนอาจไม่มีอะไรเลย. เราควรลืมตาดูความเป็นจริงในสังคมเราทุกคนเป็นมนุษย์ และมนุษย์ ควรมีน้ำใจต่อกัน ช่วยเหลือกัน ตราบเท่าที่เรายังพอมีกำลัง สังคมมันก็จะน่าอยู่มากขึ้น และแอนก็ยังหวังว่า จะได้ทำประโยชน์ให้กับประเทศชาติ ต่อไป กับอีกหลายๆโครงการดีๆ ที่กำลังจะตามมาในอนาคต ค่ะ” แอนโทเนีย กล่าว