"โควิด" ตัวร้าย ทำลายช่วงสำคัญของ "สิงโต" 

 

    ทีมบันเทิง คมชัดลึก -  เป็นหนึ่งในนักแสดงที่ถูกกักตัว 14 วัน เนื่องจากได้มีโอกาสร่วมงานกับ "แพรวา" ณิชาภัทร สำหรับ "สิงโต" ปราชญา ทำให้เจ้าตัวต้องกักตัวเองอยู่ที่คอนโดคนเดียว แถมช่วงเวลาที่กักตัวตรงกับวันเกิดของคุณพ่อสุดที่รัก งานนี้หนุ่มสิงโตเลยเผยความรู้สึกที่ไม่ได้มีโมเมนต์กับคุณพ่อให้ฟังว่า

 

    การกักตัวที่ผ่านมาเป็นยังไงบ้าง
    “ของสิงเนื่องจากว่าไปตรวจหาเชื้อโควิด-19 ที่โรงพยาบาล และทางโรงพยาบาลแนะนำให้กักตัวเป็นเวลา 14 วัน ก็ต้องหาอะไรทำครับ เพราะเราออกจากห้องไม่ได้เลย ก็จะมีผู้จัดการส่วนตัวและพี่สาวที่รู้จักคอยส่งอาหารให้หน้าห้อง    ก็ค่อนข้างซีเรียสกับการกักตัวอยู่แล้วครับ เพราะ สิง วางแผนไว้ว่าถ้าผลออกมาว่าปกติดีก็จะกลับบ้านไปอยู่กับคุณพ่อ แต่ปรากฎว่าตอนนี้คุณพ่อไม่ให้เข้าบ้านแล้วครับ (ยิ้ม) เพราะท่านก็เป็นห่วงเราด้วย ซึ่งช่วง 14 วันที่กักตัว สิง ก็พยายามหากิจกรรมทำ สิ่งที่ยากที่สุดในช่วงกักตัวคือพยายามไม่ให้ตัวเองคิดเรื่อยเปื่อยจนเกินไป เพราะปกติเราจะทำงานแทบจะทุกวัน พอวันนึงเราตื่นมาแล้วต้องอยู่เฉยๆ ไม่มีอะไรทำ เราค่อนข้างฟุ้งซ่าน ต้องมานั่งคิดรายวันว่าวันนี้จะทำอะไรดี เช่น ขัดห้องน้ำ , ทำความสะอาดห้อง , จัดห้อง , ทำความสะอาดเครื่องประดับ ฯลฯ ให้แต่ละวันมีคอนเทนต์ จะได้ไม่เบื่อครับ (หัวเราะ)"

 

 

    ในช่วง 14 วันเหมือน “สิงโต” เองได้ทำอะไรหลายอย่างที่ไม่เคยทำมาก่อน
    “มีครับ คือปกติจะไม่ค่อยมีเวลาทำห้อง บางทีเกือบปีถึงจะได้จัดห้องใหม่ ถ้าไม่จ้างแม่บ้านมาทำ คือก็นานมากถ้าจะมีโอกาสได้ทำเอง แต่นี่ปรากฎว่าได้ทำทุกอย่างเลย ได้ทำความสะอาด ได้จัดห้องใหม่ รู้ซึ้งเรื่องการทำงานบ้านเลยครับ (หัวเราะ) ยกตัวอย่างง่ายๆ ตั้งแต่ใช้ชีวิตในคอนโดมา ไม่เคยเช็ดกระจกเลย อยู่ๆวันนึงนั่งเรื่อยเปื่อย หันไปมองกระจกริมระเบียง รู้สึกมันเป็นฝ้า ก็โทรบอกผู้จัดการให้หาหนังสือพิมพ์เพื่อมาเช็ดกระจก มันเหนื่อยมากนะ ตอนแรกคิดว่าจะไม่เหนื่อย (หัวเราะ)”

 

 

 

 

 

    ช่วงที่กักตัวตรงกับวันเกิดคุณพ่อด้วย 
    “ใช่ครับ ถามว่ากังวลไหมที่ไม่ได้ไปวันเกิดพ่อ ไม่ได้กังวลขนาดนั้นครับ เพราะเราวิดีโอคอลคุยกันได้ปกติ สิงรู้ว่าพ่อเข้าใจอยู่แล้วว่าเป็นช่วงกักตัว และผลตรวจออกก็ก่อนวันเกิดคุณพ่อหนึ่งวัน แต่ก็ยังอยู่ในช่วงกักตัว เพื่อความสบายใจก็กักตัวก่อนดีกว่าครับ เลยไม่นอยด์เท่าไหร่ครับ” 

 

 

    ตอนนั้นบอกคุณพ่อว่ายังไงบ้าง เพราะเราอยู่ในกลุ่มสุ่มเสี่ยง
    “บอกพ่อตามตรงเลยครับ วิดีโอคแลบอกคุณพ่อ ซึ่งวันนั้น สิง โดนกักตัวที่โรงพยาบาล 1 คืน เพราะคออักเสบ และ สิง เป็นผู้ป่วยคนหนึ่งที่มีความใหล้ชิดคนที่ตรวจเจอเชื้อ และมีความเสี่ยงสูง บวกกับว่ามีอาการที่ใกล้เคียงมาก หมอก็เลยขอกักตัวไว้ 1 คืน ตอนพ่อเห็นใส่ชุดโรงพยาบาล ท่านก็ถามว่าเป็นอะไร สิง ก็อธิบายกับพ่อครับ ซึ่งก่อนหน้านั้นมีไทม์เลยที่กลับเอาของไปให้พ่อที่บ้านด้วย ก็เลยต้องบอกให้พ่อกักตัวด้วยเหมือนกันครับ ก็ให้รอจนกว่าผลตรวจของ สิง จะออกมา พอผลออกมาเป็นลบก็รีบบอกพ่อครับ”

 

 

 

  

    ปกติวันเกิดคุณพ่อ “สิง” จะทำเซอร์ไพรส์ให้ทุกปี 
    “ใช่ครับ ปกติจะชอบทำเซอร์ไพรส์พาพ่อไปทานข้าว และซื้อเสื้อผ้าหรือกระเป๋าให้ครับ ปีนี้ไม่ได้เซอร์ไพรส์อาจจะเป็นความโชคดีของพ่อก็ได้ครับ เพราะพ่อจะบ่นทุกครั้งที่ สิง พาไปทานข้าว (หัวเราะ) คือ สิง รู้สึกว่าไหนๆเราก็ทำงานแล้ว ก็อยากพาพ่อไปไปร้านอาหารที่บรรยากาศดีๆ ถ่ายรูปสวย คือปกติพ่อจะเป็นคนที่ไม่ไปไหนเลย เราเลยรู้สึกว่าอยากให้ท่านเปิดหูเปิดตาบ้าง เวลาไปกินเลี้ยงกับเพื่อน จะได้บอกได้ว่าร้านนี้เคมาแล้วนะ (หัวเราะ) คือ สิง ก็เน้นพาพ่อไปร้านอาหารไทยที่บรรยากาศดีๆ ซึ่งก็ต้องเสี่ยงดวงว่าร้านไหนจะถูกใจพ่อ เพราะพ่อเป็นคนที่ทำอาหารเก่ง เป็นพ่อครัวมาก่อน เพราะฉะนั้นพ่อจะซีเรียสเรื่องรสชาติอาหารพอสมควร” 

 

 

 

 

 

    ปีนี้ฉลองวันเกิดคุณพ่อผ่านวิดีโอแทน 
    “ปีนี้ก็วิดีโอคอลช่วงที่ทานข้าวครับ เพียงแต่ว่าเวลากินข้าวของเราไม่ตรงกัน สิง โทรไปคือพ่อทานข้าวเสร็จแล้ว ซึ่งจริงๆตั้งใจว่าจะมีโมเมนต์ดินเนอร์ผ่านวิดีโอคอลครับ แต่พ่อไม่ทานมือเย็นครับ (หัวเราะ) สำหรับของขวัญปีนี้ก็ซื้อกระเป๋าให้ครับ ปีนี้จะเป็นแบบสไตล์ลุยๆหน่อย” 

 

    มีแพลนทำอะไรชดเชย ที่ปีนี้ไม่ได้ฉลองด้วยกันไหม
    “วางแพลนไว้แล้วครับ จริงๆก็เป็นแพลนตั้งแต่ปีที่แล้วว่าอยากพาพ่อไปเที่ยวต่างประเทศ ก็เริ่มจากประเทศใกล้ๆก่อน แต่ต้องเป็นประเทศที่ สิง ไปเซอร์เวย์มาแล้ว ตอนนี้ประเทศที่ไปมาเองคนเดียวแล้วรู้สึกว่าเอาตัวรอดได้แล้วจริงๆคือ สิงค์โปร์ และ ญี่ปุ่น ซึ่งก็มีบอกพ่อไว้แล้วว่าอยากพาพ่อไปเที่ยวในช่วงที่ท่านยังเดินคล่องๆอยู่ (ยิ้ม) ”