ทำความรู้จักเจ้าของ #องครักษ์หล่อบอกต่อ

    ทีมบันเทิง คมชัดลึก -  กำลังเป็นละครที่ถูกพูดถึงมากสำหรับละครฟอร์มยักษ์ “ดั่งดวงหฤทัย” ของผู้จัด “ไก่” วรายุฑ มิลินทจินดา ซึ่งได้พระนางแม่เหล็กอย่าง “ติ๊ก” เจษฎาภรณ์ ผลดี และ “คิมเบอร์ลี่ แอน โวลเทมัส” มาแสดงร่วมกัน และอีกหนึ่งคนที่พูดถึงมากคือองครักษ์ “ราชิต” ที่รับบทโดย “ธนะ” ฉันธนะ กฤชกาญจนพันธ์ นักแสดงใหม่ป้ายแดงของช่อง 3 ที่มีคนติดแฮชแท็กให้ว่า “องครักษ์หล่อบอกต่อ” สบโอกาส “บันเทิง คมชัดลึก” เลยขอพามารู้จักหนุ่มคนนี้กัน 
 

    @@กระแสตอบรับจากละครเรื่องแรกเป็นยังไงบ้าง
    “กระแสตอบรับค่อนข้างดี ตั้งแต่ตอนแรกที่ออกมาก็ติดเทรนด์ทวิตเตอร์ด้วย เรตติ้งก็โอเค ตอนต่อๆ ไปผมเชื่อว่าจะเข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ เรตติ้งจะดีขึ้นเรื่อยๆ ตอนแรกที่ละครออนแอร์ตื่นเต้นนะ เพราะเป็นละครเรื่องแรกของผม มีความคาดหวังประมาณหนึ่ง แต่เชื่อว่าละครจะออกมาดี เพราะผมและทีมงานทุกคนเต็มที่มาก บรรยากาศในกองนี้สนุกสนานเฮฮา แล้วยิ่งมีการไปถ่ายทำต่างประเทศยิ่งทำให้เราสนิทกันมากขึ้น ทำให้การทำงานเป็นไปอย่างราบรื่นรับส่งอารมณ์กันค่อนข้างดี”

 

    @@ กดดันไหมละครเรื่องแรก เป็นละครฟอร์มยักษ์ นักแสดงที่ร่วมงานระดับแถวหน้า
    “กดดันครับ ตอนรู้ว่าได้เล่นเรื่องนี้ทั้งดีใจและกดดันไปพร้อมๆ กัน ทำการบ้านเยอะมาก ทั้งคุยกับผู้จัดและผู้กำกับ เห็นภาพให้ตรงกับที่เขาต้องการให้เป็นภาพเดียวกัน พอไปถ่ายทำจริงมันจะง่ายขึ้น ก็ช่วยได้เยอะมาก ในเรื่องเราเป็นราชองครักษ์ ไม่ใช่แค่เรื่องการแสดงเท่านั้น ยังมีเรื่องของหุ่นด้วย เพราะหุ่นเราต้องฟิตแอนด์เฟิร์มมาก ด้วยชุดต้องเป๊ะ (หัวเราะ) และอีกทักษะที่ต้องเพิ่มมาคือเรื่องของการขี่ม้าและการฟันดาบ อย่างเรื่องการขี่ม้าผมเคยขี่เล่นๆ ครั้งสองครั้ง แต่พอรู้ว่าต้องมาเล่นละครเรื่องนี้ก็ไปเรียนเพิ่มเติมที่ทหารม้ารักษาพระองค์ เขาจะมีสอนขี่ม้า และก็ไปฝึกที่ฟาร์มม้าที่กาญจนบุรีด้วย อันนี้คือเป็นสิ่งที่ผมเพิ่มเติมเอง ซึ่งเรียนเพิ่มมาอีกกว่า 30 ชั่วโมง และก็เรียนบู๊เกี่ยวกับการใช้ดาบเพิ่มด้วย
     

 

 

 

 

 

       อีกความกดดันของเรื่องนี้คือการได้ทำงานร่วมกับพี่ๆ นักแสดงระดับซูเปอร์สตาร์ของเมืองไทยทั้งพี่ติ๊ก พี่คิม พี่มะปราง พี่ตั้น วันแรกที่เข้ากองไปคือไปยืนงงมาก ว่าเรามาทำอะไรที่นี่ เพราะอายุงานของพี่ๆ เขาทุกคนไม่ต่ำกว่า 10 ปี แล้วเราคือใหม่มาก เพราะฉะนั้นอย่าถามว่ากดดันไหม (หัวเราะ) คือก็พยายามคุยกับพี่ๆ เขา ซึ่งพี่ๆ ทุกคนน่ารักมาก เพราะเขารู้ว่าเราเป็นเด็กใหม่และเขาก็เคยผ่านจุดนั้นมาแล้ว เราเองวาดฝันว่าเราจะเติบโตจากกองนี้ซึ่งเราได้ประสบการณ์มากมายจากกองนี้จริงๆ ได้เติบโตจริงๆ เวลาที่ผมไม่ได้เข้าฉากก็จะมานั่งดูมอนิเตอร์ มาดูการแสดงของพี่ๆ ทำให้เราเห็นมุมมองหลายๆ อย่าง ผมอยากเรียนรู้ทุกอย่าง เพราะอย่างที่บอกว่าผมเป็นนักแสดงใหม่ของเรื่องนี้ ผมอยากทำมันออกมาให้ดีที่สุด ผมดูละครตัวเองทุกตอน ดูสดด้วยนะ (ยิ้ม)"

 

 

 

 

    @@ มารู้จักตัวตนธนะกันบ้าง เป็นผู้ชายแบบไหน
    “ผมเป็นคนใจกว้าง ร่าเริง เข้ากับคนง่าย (หัวเราะ) ผมคุยเล่นได้ทุกเรื่อง (หัวเราะ) บางคนอาจจะมองว่าผมเป็นคนจริงจัง จริงๆ จะบอกว่าผมก็เป็นเหมือนผู้ชายทั่วๆ ไปก็มีหลากหลายมุม ทั้งมุมร่าเริงและจริงจัง อย่างเวลาทำอะไรก็จะคิดประมาณหนึ่งแล้วว่าจะทำสิ่งนี้นะ ถ้าตัดสินใจทำก็จะไปให้สุด ไม่มีครึ่งๆ กลางๆ มีแค่ เอ กับ เอฟ เอ คือถ้าทำก็ทำให้สุด แต่ถ้าเอฟก็คือไม่ทำเลย ครึ่งๆ กลางๆ ไม่เอา ถ้าตั้งใจทำแล้วไม่ว่าจะเจอปัญหาอะไรผมก็ยังฟันฝ่าและทำมันให้ได้ แต่ถ้าตัดสินใจที่จะไม่ทำแล้ว ให้ใครมาบอก มาบังคับให้ตายยังไงผมก็ไม่ทำ แต่ผมมีเหตุผลคือถ้าจะให้ทำในสิ่งที่ผมไม่อยากทำ แต่ถ้าเขามีเหตุผลที่ให้ทำและเป็นเหตุผลที่ดี ผมก็ทำนะ ไม่ได้แบบไม่เอาเลย ผมมีจุดยืนของตัวเอง ไม่ไหลไปตามกระแสคนที่มาบอกเรา เรารู้ว่าอะไรควรไม่ควร”

 

 

 

 

    @@ ดูเป็นคนดื้อเหมือนกัน
    “เรียกว่ามุทะลุดีกว่า ผมว่าผมไม่ดื้อนะ (ยิ้ม) แต่แค่ถ้าผมตั้งใจทำแล้ว อะไรจะมาขวางไม่ได้ ผมเป็นคนมองว่าเวลามีค่า การทำอะไรแบบครึ่งๆ กลางๆ มันคือการเสียเวลา เพราะฉะนั้นถ้าตัดสินใจทำไปแล้วต้องทำให้สำเร็จให้ได้ มิฉะนั้นเอาเวลาไปทำอย่างอื่นดีกว่า” 

 

    @@ ก่อนที่จะมาอยู่ตรงนี้เห็นว่าเป็นหนุ่มวิศวะ แล้วทำไมอยู่ๆ มาตรงนี้ได้
    “ผมเรียนจบวิศวะ ซึ่งค่อนข้างเรียนหนัก ตอนนั้นเราใช้เวลาทั้งหมดไปกับเรื่องเรียน เอาจริงๆ หลายคนบอกว่าเส้นทางของผมไม่น่าจะมาตรงนี้ได้ แต่คือก่อนหน้านี้ผมเรียนการแสดงมาระหว่างที่เราเรียนวิศวะ แล้วเรารู้สึกว่ามันน่าสนใจ เราชอบ เลยอยากมาลองดูอย่างจริงๆ จังๆ ก็เลยตัดสินใจว่าถ้าเรียนจบจะยังไม่ทำงานด้านวิศวะจะมาทำงานด้านการแสดงก่อน เพราะถ้าเราทำงานด้านวิศวะเลยเราคงไม่ได้ย้อนกลับมาตรงนี้แล้ว เลยมาลองตรงนี้ก่อน ถ้าไม่ตอบโจทย์เราก็กลับไปตรงนั้น แต่พอมาสัมผัสงานตรงนี้เรารู้สึกหลงใหล ทำให้เราชอบสายการแสดงมากขึ้นไปอีก ทำให้เราอยากอยู่ตรงนี้เพื่อรู้จักมันมากขึ้นเรื่อยๆ”

 

 

 

 

    @@ เรื่องหัวใจกันบ้าง สถานะตอนนี้มีเจ้าของหัวใจหรือยัง
    “สถานะตอนนี้โสดครับ (จริงเหรอ) จริงไม่หยอก โสดมานานแล้ว ถามว่าเหงาไหม ไม่เหงานะ เพราะเป็นช่วงที่เรามีหลายๆ อย่างที่ต้องทำ ต้องโฟกัสมากกว่าเรื่องนี้ ถามว่าปิดไหม เราไม่ได้ปิดนะ แต่แค่ว่าเรายังไม่มีใคร แล้วเราไม่ได้เจอใครด้วย”

 

    @@ ผู้หญิงแบบไหนที่จะมัดใจธนะได้
    “ผมชอบที่จะเรียนรู้และรู้จักกันก่อน อาจจะเริ่มจากการเป็นเพื่อน เป็นอะไรกันมาก่อน เริ่มจากความรู้สึกที่ว่าอยู่ด้วยกันแล้วสบายใจก่อน หลังจากนั้นค่อยพัฒนาความสัมพันธ์ ผมชอบแบบนี้มากกว่า เพราะผมว่าถ้าเราอยู่กับใครไม่ว่าจะสถานะไหน ถ้าเริ่มด้วยความสบายใจมันพัฒนาก้าวต่อไปได้ แต่ถ้าเริ่มไม่ว่าสถานะไหนแล้วมันไม่สบายใจ จะให้ฝืนยังไงมันก็พัฒนาต่อไม่ได้ ไม่ใช่ว่าเขาไม่ดี หรือเราไม่ดี แต่ทุกความสัมพันธ์ผมเชื่อว่าต้องเริ่มที่ความสบายใจกันก่อน”
    นี่แหละ...ตัวตนขององครักษ์ที่หลายๆ คนกำลังตกหลุมรัก