ความรับผิดชอบต่อแฟนเพลง อีกหน้าที่ของ 'โปเตโต้'

    ทีมบันเทิง คมชัดลึก -  เป็นศิลปินที่ได้รับความนิยมมาอย่างต่อเนื่อง แต่ใครจะไปเชื่อว่าวง “โปเตโต้” วงร็อกชื่อดังจากค่าย จีนี่ เรคคอร์ดส ไม่มีอัลบั้มเต็มมานานกว่า 7 ปี จนล่าสุดพวกเขาได้ปล่อยอัลบั้มที่ชื่อว่า “ชุดที่เจ็ด (chud-tee-jed)” ออกมา ซึ่งกว่าจะมีอัลบั้มนี้สมาชิกทั้งหมด ประกอบด้วย “ปั๊ป” พัฒน์ชัย ภักดีสู่สุข, “หั่ง” ทีฆทัศน์ ทวิอารยกุล, “โอม” ปิยวัฒน์ อนุกูร และ กานต์ อ่ำสุพรรณ เล่าว่าพวกเขาต้องเผชิญกับความเปลี่ยนแปลงมากมาย 
 

    
    @@ไม่ได้มีอัลบั้มเต็มมานานแค่ไหน
    ปั๊ป : 7 ปีเข้า 8 ปีแล้ว ตอนที่เราเริ่มทำอัลบั้มชุดที่ 7 ก็คือประมาณ 7-8 ปีที่แล้ว คุยกันเป็นอัลบั้ม ตอนนั้นที่พวกผมจะเริ่มทำเพลงเรารู้สึกว่าถึงเวลาที่เราต้องเริ่มทำเพลงกันแล้ว ไม่มีใครมาสั่งเราหรอกว่าเราต้องทำอัลบั้มหรือเปล่า แต่ตอนที่เริ่มทำก็คิดกันว่ามี 10 เพลง วางเป็นโครงอัลบั้ม เสร็จปุ๊บช่วงนั้นเป็นช่วงที่มีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ ทั้งกับตัวผมเองและวงด้วยและมีการเปลี่ยนแปลงของระบบธุรกิจเพลงด้วย เลยกลายเป็นว่าเพลงที่ถูกหยิบออกมา เป็นการหยิบออกมาทีละเพลง ทั้งหมดจะถูกคิดโดยพื้นฐานของอัลบั้มชุดที่ 7 ซึ่งเป็นการทำงานเพลงที่นาน
    

   หั่ง : ที่มันนาน ผมว่าเป็นเรื่องของจังหวะ เพราะว่าให้เล่าคือ มันมีเพลงที่ถูดคิดโครงสร้างมาตั้งแต่เมื่อ 7 ปีที่แล้ว อย่าง อรุณ เป็นเพลงที่หนึ่งที่เข้าห้องซ้อม เป็นโครงเพลงเป็นเมโลดี้ขึ้นมาแต่ด้วยจังหวะที่เหมาะสม ตอนที่เราเอาเดโมชุดแรกที่เป็นอัลบั้มมา 6-7 เพลงที่เราทำ ที่คิดว่าจะมานำเสนอ แต่พอพี่ๆ ที่ออฟฟิศฟัง เขาอาจจะรู้สึกว่ามันเร็วเกินไปในทิศทาง หรือด้วยแนวเพลง หรือว่าด้วยซาวนด์ที่ไม่คุ้นเคยการนำเสนอสิ่งอะไรที่แตกต่าง ก็เหมือนว่าตัวเพลงที่เป็นเดโมเสร็จ เราก็กอดมันไว้ กอดมันไว้ด้วยความหวังเสมอว่าเราจะได้หยิบขึ้นมาปัดฝุ่นเพื่อสร้างคอนเทนต์ใหม่ๆ ลงไป เลยมีช่วงเวลาที่เราย้ายบ้านมาที่จีนี่ เรามีโอกาสได้ทำ เหมือนเป็นช่วงของการเริ่มต้นใหม่ ตอนนั้นก็เริ่มทำเว็ทสมดุล ซึ่งเราก็คิดต่อยอดจากเดิม

    ปั๊ป : เราไม่ได้วางแผนขนาดนั้น มองว่าอะไรจะเกิดก็ต้องเกิด ช่วงเวลา 7-8 ปีที่ผ่านมาก่อนจะมามีอัลบั้ม ผมคิดว่าทุกคนคงรู้ว่าโปเตโต้เดินทางผ่านและพบเจออะไรมาบ้าง (ยิ้ม) ตอนนั้นคือที่ปล่อยเพลงทุกด้านทุกมุมก็มีการวางแผนว่าจะวางอัลบั้มแล้ว แต่ด้วยจังหวะ ถามว่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นกับวงเราก่อนมีอัลบั้มนี้ เราซีเรียสกับมันไหม เราไม่รู้สึกแบบนั้นเลย มองว่าอะไรจะเกิดมันก็ต้องเกิด ไม่เป็นไปตามแผนก็ปรับใหม่ ไม่ได้ไปโวยวาย หรือท้อแท้ คิดว่าโอเคถ้าจังหวะยังไม่ได้ เดี๋ยวรอก่อน คิดแค่ว่ายังไงก็ต้องมีอัลบั้มให้ได้ เพราะเพลงหนึ่งเพลงไม่สามารถบอกอะไรทั้งหมดได้เลย ผมว่าคนที่ทำเพลง เล่นดนตรี มีเรื่องอยากจะเล่า และการเล่าที่ดีที่สุดคือการเล่าเป็นอัลบั้ม มันถึงจะได้ครบ เรารู้สึกว่ายังไงก็ต้องมีอัลบั้ม ไม่เคยหมดหวัง

    @@ วางคอนเซ็ปต์อัลบั้มนี้ไว้ยังไง
    ปั๊ป : “คอนเซ็ปต์อัลบั้มนี้จะต้องเป็นเพื่อนกับคนฟัง และจะต้องเป็นเพื่อนที่ปลอบใจคนฟังได้ อยู่ในวันที่เขาเจ็บไข้ได้ป่วยในวันที่เขาหมดกำลังใจอยากเป็นเพื่อนเขา เป็นพี่ที่คอยลูบหลังเขา ให้กำลังใจให้ลุกขึ้นเดินต่อไป เหมือนเป็นการอยู่เป็นเพื่อนเขา พยายามใส่ความรู้สึกที่เป็น ... ถ้าให้พูดตรงๆ ก็คือเป็นบวกมากที่สุดอยู่ในเพลงแม้กระทั่งเพลงนั้นเป็นเพลงที่อกหัก แต่จะร้องด้วยความรู้สึกที่เป็นบวก อย่างว่าคำว่ารักถ้าสื่อออกมาร้องออกมาด้วยความเจ็บปวดมันก็จะเจ็บปวด แต่ถ้าเราร้องออกมาด้วยความรู้สึกของความสุข เราก็จะมีความสุข อันนี้คือข้อดีของดนตรี ซึ่งอัลบั้มนี้เราพยายามสื่อออกมาในความรู้สึกโพสิทีฟ นี่คือคอนเซ็ปต์ที่ตั้งไว้ตั้งแต่แรก เป็นคอนเซ็ปต์ที่วางไว้ตั้งแต่ 8 ปีที่แล้ว”

    หั่ง : "เราคุยกันว่าอยากให้โปเตโต้เป็นคนที่ไปนั่งอยู่ข้างๆ เวลาเขามีความสุขก็ไปนั่งสุขข้างๆ เขา เวลามีความทุกข์ก็ไปนั่งฟังเขาพูด ไม่ต้องไปนั่งสอนไปแนะนำ หรืออะไรทั้งนั้น อารมณ์แค่เพื่อนข้างๆ อยากมากก็ตบไหล่ให้กำลังใจ ให้คนที่ชื่อโปเตโต้ เป็นเพื่อน ไม่ว่าเราจะเขียนคอนเทนต์อะไรไปในเนื้อเพลงจะมีบุคลิกของคนคนนี้

    ปั๊ป : ถ้าจะยกตัวอย่างให้เห็นภาพเลยคือเพลงที่มีชื่อว่า "แค่นี้" หัวฮุกร้องว่า "รับรู้จากข้างใน ฟังแค่เสียงหัวใจตัวเอง" แต่ตอนแรกเนื้อหามาว่า "ขอไม่ฟังเสียงใคร ฟังแค่หัวใจตัวเอง" คนละอารมณ์เลย เราไม่อยากให้เป็นความรู้สึกแบบก้าวร้าว คือจริงๆ ผลลัพธ์เหมือนกันแต่การนำเสนอต่างกัน เพราะเรารู้สึกว่าเราต้องรับผิดชอบคนฟัง อะไรที่ทำให้การตีความไปในทางที่ไม่ดีได้ เราจะแก้ไขทันที่ โปเตโต้มีแฟนเพลงทั้งเด็กและผู้ใหญ่ เราไม่อยากแค่ทำเพลงออกมาแล้วมองว่าเพลงต้องฮิตเท่านั้น เรามองในเรื่องของการสื่อความหมายด้วย เราอยากรับผิดชอบตรงนี้ อัลบั้มนี้เลยทำให้เราคิด แก้ไข และดูแลใส่ใจกับมันมาก"