คอลัมน์... คมเคียวคมปากกา โดย... บรรณวัชร
สองวันมานี้พวกนักดูคลิปแปลกๆ ในเมืองไทย ได้แชร์คลิปความวุ่นวายบนเวทีคอนเสิร์ตเมืองลาว เมื่อตำรวจท้องถิ่นได้สั่งให้ทีมงานดนตรีหยุดทำการแสดงและมีการจับกุมหัวหน้าคอนวอยที่คุมเครื่องเสียงไปโรงพัก โดยคนโพสต์คลิปอ้างว่าเหตุจากร้องเพลงไทยเลยถูกตำรวจจับ
พวกฟังไม่ได้ศัพท์จับมากระเดียดก็ด่าทางการลาวเสียยกใหญ่ แถมทีมงานวงดนตรีลาวยังดันมาบอกว่าระเบียบทางการลาวให้ร้องเพลงไทย 70% เพลงลาว 30% ยิ่งเลอะเทอะกันไปใหญ่ ในที่สุดเจ้าตัวก็ออกมาขอโทษที่พูดผิดไป
จริงๆ แล้ว ระเบียบของกรมศิลปะการแสดง กระทรวงแถลงข่าว วัฒนธรรม และการท่องเที่ยว ได้วางกรอบให้การเล่นดนตรีสดไม่ว่าในผับ ร้านอาหาร หรือการแสดงกลางแจ้ง ต้องมีอัตราส่วน 70% ร้องเพลงลาว 30% ร้องเพลงต่างประเทศหรือเพลงไทย
เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นในงานบุญนมัสการพระธาตุโผ่น เมืองไชพูทอง แขวงสะหวันนะเขต สำหรับพระธาตุโผ่น หรือพระธาตุโพน อยู่ห่างจากตัวเมืองนครไกสอนพมวิหาน ตามถนนเลียบแม่น้ำโขงมาทางทิศใต้ประมาณ 30 กิโลเมตร แยกซ้ายมือตรงบ้านด่าน (ฝั่งตรงข้ามกับ อ.ดอนตาล จ.มุกดาหาร) จะพบวัดพระธาตุตั้งอยู่กลางทุ่งนา รายล้อมด้วยต้นตาลขึ้น
งานบุญประจำปีตรงกับ 15 ค่ำ เดือน 3 ระหว่าง 17-19 กุมภาพันธ์ 2562 มีการแสดงดนตรี 3 เวที และในคืนแรก “ต่าย อรทัย” ได้ไปขึ้นเวทีหนึ่งมาแล้ว
คืนวันนี้ 18 กุมภาพันธ์ ที่เวทีวงดนตรี “วิไช เสียงสะหวัน” เจ้าหน้าที่ตำรวจเมืองไชพูทองได้บุกขึ้นไปบนเวทีและสั่งให้หยุดการแสดงทันที โดยแจ้งว่ามีการเล่นเพลงไทย และหลังจากนั้น มีการคุมตัวหัวหน้าคอยวอย และนักดนตรีคนหนึ่งไปโรงพัก
ต่อมา “วิไช เสียงสะหวัน” หัวหน้าคณะได้ชี้แจงผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวว่าเป็นความเข้าใจคลาดเคลื่อน กรณี “คนเหมือนเจ้าหน้าที่” ได้รับคำสั่งจากหน่วยเหนือให้วงดนตรีหยุดเล่น แต่เจ้าหน้าที่ไม่แจ้งหัวหน้าวงกลับไปบอกหัวหน้าคอยวอย เลยเกิดความวุ่นวาย
อย่างไรก็ตามวิไชไม่ยอมบอกถึงสาเหตุที่ทำให้วงต้องหยุดการแสดง และคนส่วนใหญ่ก็เชื่อตามที่คนแชร์คลิปเล่าเหตุการณ์ว่าร้องเพลงไทยเลยโดนสั่งหยุด
รายงานข่าวจากแผนกวัฒนธรรมเมืองไชพูทองว่า ก่อนการแสดงดนตรีสดทีมงานวิไชจัดให้มีช่วงดีเจเปิดเพลงตามที่โฆษณาไว้คือ ดีเจกิโต่ย กับดีเจหำแหล้ โดยดีเจเปิดเพลงไทยที่ออกแนวเซ็กซี่ จึงถูกเจ้าหน้าที่สั่งหยุดทำการแสดง
อันที่จริงเวลาที่จะมีงานแสดงคอนเสิร์ตหรือ “เสบสด” เจ้าของวงต้องไปขออนุญาตจากแผนกวัฒนธรรมเมือง และในการแสดงดนตรีก็รู้กติกาอยู่แล้ว ส่วนใหญ่เจ้าหน้าที่ก็ไม่ได้มานั่งฟังและจดบันทึกหรอก
เวลานี้วงดนตรีลาวส่วนใหญ่ ยกเว้นหมอลำ มักจะเล่นเพลงไทยหรือลูกทุ่งอีสานมากกว่าเพลงลาว ตามกระแสเรียกร้องของแฟนเพลงชาวลาว
10 ปีก่อนสื่อทางการลาวได้รณรงค์เรียกร้องให้ผู้ประกอบการต่างๆ รวมทั้งประชาชนทั่วไปหันมาให้ความสำคัญต่อการเปิดและฟังเพลงลาว โดยถือเป็น “กฎที่ไม่ต้องประกาศ” ตลอดจนสถานที่สาธารณะต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นในโรงแรม ท่าอากาศยาน หรือท่ารถโดยสาร กระทั่งร้านค้าทั่วไป จะต้องเปิดเพลงลาวกับเพลงต่างประเทศในอัตราส่วน 70 ต่อ 30
เมื่อยุคดิจิทัลมาถึง อุตสาหกรรมเพลงลาวล่มสลาย คนลาวเสพติดโซเชียลเหมือนคนไทย แถมฟังเพลงเดียวกัน อิทธิพลเพลงอินดี้อีสานเข้าครอบงำตลาดการแสดงดนตรีสดของลาว
ไม่ใช่มีแค่วงดนตรีวิไช เสียงสะหวัน วงเดียว วงอื่นๆ ก็เล่นเพลงลูกทุ่งอีสานไทยเป็นหลัก แม้พวกเขาอยากร้องเพลงลาว แต่คนลาวไม่อยากฟัง ก็ต้องร้องเพลงไทย
นี่เป็นข้อเท็จจริงที่เจ้าหน้าที่แผนกวัฒนธรรมลาวก็ทราบดี แต่ไม่รู้จะต้านทานกระแสดิจิทัลอย่างไร?
ข่าวที่เกี่ยวข้อง