พบกับ‘อีจีฮุน’กับบทนักสืบใน‘Phantom Detective’

 

          เรียกได้ว่า เป็นนักแสดงที่มีผลงานออกมาให้แฟนๆ ได้ยลกันตลอดสำหรับ สำหรับหนุ่ม อีจีฮุน (Lee Je-hoon) เพราะหลังจากจบซีรีส์ เรื่อง “Signal เขาก็โดดรับบทเป็นนักสืบชื่อ ฮงกิลดง ซึ่งคอยแกะรอยคดีต่างๆ ที่ยังไม่ได้รับการคลี่คลาย ในภาพยนตร์เรื่อง “Phantom Detective" หรือมีอีกชื่อหนึ่งว่า Detective Hong Gil Dong ต่อทันที ภาพยนตร์เรื่องนี้ได้ โจซองฮี มาเป็นผู้กำกับ โดยเวอร์ชั่นนี้ได้เปลี่ยนรูปแบบของฮงกิลดงพระเอกในนวนิยายสุดคลาสสิก มาเป็นนักสืบเอกชน และทำกิจกรรมในโลกแห่งความมืดในยุคปัจจุบันแทน นักแสดงหนุ่มได้กล่าวถึงความภาพยนตร์เรื่องล่าสุดไว้

 

 

          ทุกคนรู้จักฮองกิลดอง เราเคยได้ยินเรื่องของคนๆ นี้มานาน แต่ไม่เคยมีใครเคยได้พบกับคนๆนี้ จริงๆ ทุกคนรู้จักเขา แต่เขาไม่ได้มีอยู่จริง ฮงกิลดงเรียนรู้ที่จะสื่อสารกับคนทั่วโลก เพื่อแก้แค้น และนั่นคือสิ่งที่ทำให้ผมหลงเสน่ห์ตัวละครตัวนี้ มีซูเปอร์ฮีโร่จากภาพยนตร์ฮอลลีวู้ด หลายคนไม่ว่าจะเป็น ซูเปอร์แมนหรือแบทแมน ต่างเคยเจ็บปวดจากบาดแผล ไม่ว่าจะเป็นทางร่างกายหรือจิตใจ ก่อนจะได้รับพลังที่จะช่วยเหลือมนุษย์ ซึ่งฮงกิลดงก็เป็นแบบนั้น แต่อาจจะไม่เหมือนกันซะทีเดียว แต่เมื่อเขาเอาชนะปัญหาภายในจิตใจได้ เขาก็สามารถไปสู่ความฝันของเขา มันอยู่ที่ว่าแต่ละคนวาดฝันไว้อย่างไร ซึ่งภาพยนตร์เรื่อง Phantom Detective แม้จะเป็นภาพยนตร์สัญชาติเกาหลี แต่ก็ได้รับอิทธิพลจากภาพยนตร์ฮอลลีวู้ดคลาสสิกเพื่อกระตุ้นจินตนาการให้กับคนดู 

 

 

          ภาพยนตร์เรื่องนี้ เป็นเรื่องเกี่ยวกับนักสืบที่ชื่อว่า ฮงกิลดง เขาเป็นคนลึกลับและชั่วร้าย จากบันทึกมีคดีมากมาย ที่ยังไม่สามารถไขปริศนาได้ ฮงกิลดงจะเป็นคนแกะรอยคดีเหล่านี้ ตลอดระยะเวลา 20 ปีที่ผ่านมา ใบหน้าและรูปร่างของเขาไม่เคยเปลี่ยนแปลง ในเรื่องผมรับบทเป็นฮงกิลดง ตามตำนานฮงกิลดง เป็นวีรบุรุษที่คอยช่วยเหลือผู้คนยามค่ำคืน แต่ในเวอร์ชั่นนี้ฮงกิลดงเป็นนักสืบจากหน่วยงานภาคเอกชนที่ผิดกฎหมาย ที่คอยหาข่าวในยามค่ำคืนแทน นอกจากนี้ผมเรื่องนี้ ยังมีนักแสดงคนอื่นๆ อย่าง คิมซองกยู รับบทเป็น คังซองอิล เป็นผู้บงการอยู่เบื้องหลังองค์กร Gwangeunhwe ซึ่งเป็นองค์กรที่ทำงานในโลกมืด โกฮารา รับบทเป็นประธานฮวางเป็นเจ้าของมูลนิธิ Hwalbin นอกจากนี้ยังมี ปารกึนฮยอง จองยงฮวา ฯลฯ

 

 

          ใช่แล้ว สาเหตุที่ต้องปรับเนื่องจากต้องการแก้ไข เพื่อให้ผู้ชมจะได้ไม่รู้สึกอึดอัดเวลารับชม มีหลายฉากที่โหดร้าย เช่นฉากที่สามคนร้ายถูกล่อลวงไปสู่กับดักก่อนจะถูกยิงตาย นอกจากนี้ยังฉากอื่นๆ ที่โหดร้ายไม่แพ้กัน ฮงกิลดงเป็นคนที่แข็งแกร่งมาก และทุกครั้งที่ได้แสดง ผมจะรู้สึกเหมือนกับว่าตัวเองเป็นคนร้ายที่กำลังจะไปจับคนร้ายคนอื่น

 

 

          จริงๆ แล้วผมก็แอบกังวลนิดหน่อย เพราะการใส่หมวกและเสื้อคลุมอาจจะดูเหมือนเขากำลังเลียนแบบการแต่งตัว คิมดูฮาน ในภาพยนตร์เรื่อง “Age of Wanderer” แต่ โจซองฮี ผู้กำกับเรื่องนี้จะมีภาพในใจอยู่แล้ว มันเป็นสไตล์การแต่งตัวของตัวเองในเรื่อง ภาพยนตร์เรื่องนี้จะออกแนวพีเรียดหน่อยๆ มีการสร้างฉากเหมือนเรากำลังอยู่ในยุค 50 และ 60 ซึ่งเป็นตรอกแคบๆ ซอยมืดๆ และมีหมอกเพื่อเพิ่มบรรยากาศ บางฉากจะใช้ภาพขาว-ดำ เพื่อเพิ่มความคลาสสิก แต่ในความรู้สึกของผม ภาพยนตร์เรื่องนี้ดูเหมือนการ์ตูนมากกว่าภาพยนตร์ ซึ่งมันทำให้ผมมองว่าฮงกิลดงในหนังมีแบบฉบับที่ผมคิดไม่ถึง 

 

 

          ผมกับผู้กำกับ เราไม่ได้พูดคุยเกี่ยวกับภาคต่อกันเลย ในวรรณกรรมคดีต่างๆ ถูกล้างและฮงกิลดงจากไปอย่างไม่มีวันกลับ หลังจากที่เขาจากไปทุกอย่างก็ยังดำเนินต่อไป แต่ถ้าภาพยนตร์ออกมาแล้วประชาชนให้การตอบรับที่ดี ผมมั่นใจว่าภาพยนตร์เรื่องนี้จะต้องมีการทำภาคต่ออย่างแน่นอน

ภาพยนตร์เรื่อง “Phantom Detective" มีคิดเข้าฉายที่เกาหลีตั้งแต่เดือนปลายเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา