เช็ค 7 อาการ "เด็กติดโควิด" สัญญาณอันตราย ที่ต้องเฝ้าระวัง
แพทย์เผย 7 ข้อควรเฝ้าระวัง อาการ "เด็กติดโควิด" ถ้ามีไข้ตั้งแต่ 39 องศาขึ้นไป หรือว่ามีอาการหอบเหนื่อยผิดปกติ ให้รีบส่งโรงพยาบาลโดยเร็วที่สุด
แพทย์เผย 7 ข้อควรเฝ้าระวัง อาการ "เด็กติดโควิด" ถ้ามีไข้ตั้งแต่ 39 องศาขึ้นไป หรือว่ามีอาการหอบเหนื่อยผิดปกติ ให้รีบส่งโรงพยาบาลโดยเร็วที่สุด
กรมอนามัย ชี้ ปัจจุบันสถานการณ์การแพร่ระบาดของ "โควิด-19" ยังคงมีผู้ติดเชื้ออย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะกลุ่ม "เด็กเล็ก" ติดเชื้อโควิด-19 จากคนในครอบครัว ซึ่งอาการติดเชื้อที่พบตั้งแต่ไม่มีอาการ จนถึงมีอาการรุนแรง เช่น ปอดอักเสบ
โดยกลุ่ม "เด็กติดโควิด" ที่พบอาการรุนแรงคือ เด็กทารกและเด็กเล็กอายุน้อยกว่า 5 ปี ซึ่งต้องเข้ารับการตรวจหารักษาทันที เมื่อตรวจ ATK หรือเมื่อตรวจ RT-PCR ให้ผลพบเชื้อ
อาการ "เด็กติดโควิด"
1.มีไข้สูงติดต่อกันหลายวัน
2.หายใจเหนื่อยหอบ
3.มีผื่นขึ้นตามตัว หรือตาแดง
4.ปวดเมื่อยเนื้อตัว เพลีย ไม่มีแรง
5.เจ็บคอ เบื่ออาหาร
6.ท้องเสีย คลื่นไส้อาเจียน
7.ไอ หรือมีเสมหะหลายวัน
ผู้ปกครองต้องคอยสังเกตอาการโดยรวมของ "เด็กติดโควิด" อย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง ซึ่งระดับอาการของเด็กแบ่งเป็น 2 แบบ คือ
- แบบที่ 1 อาการในระดับที่สามารถเฝ้าสังเกตที่บ้านต่อไปได้ คือ มีไข้ต่ำ มีน้ำมูก มีอาการไอเล็กน้อย ไม่มีอาการหอบเหนื่อย ถ่ายเหลว ยังคงกินอาหารหรือนมได้ปกติ และไม่ซึม ส่วน
- แบบที่ 2 อาการที่ผู้ปกครองควรติดต่อเจ้าหน้าที่เพื่อนำเด็กส่งโรงพยาบาลโดยเร็ว คือ มีไข้สูงกว่า 39 องศาเซลเซียส หายใจหอบเร็วกว่าปกติ ใช้แรงในการหายใจ ปากเขียว ระดับออกซิเจน ปลายนิ้วน้อยกว่า 94 เปอร์เซ็นต์ ซึมลง ไม่ดูดนม และไม่กินอาหาร
นอกจากนี้ ผู้ปกครองต้องสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา ล้างมืออย่างถูกวิธี หลีกเลี่ยงการใช้มือสัมผัสใบหน้า ตา ปาก จมูก ไม่ใช้สิ่งของร่วมกับเด็กที่ติดเชื้อ ทำความสะอาดพื้นผิวสัมผัสในห้องเป็นระยะด้วยแอลกอฮอล์ความเข้มข้น 70 เปอร์เซ็นต์ หรือน้ำยาทำความสะอาดที่สามารถกำจัดเชื้อ "โควิด-19"
ทั้งนี้ หากเด็กมีภาวะข้อใดข้อหนึ่ง เช่น อาการหายใจหอบ มีการใช้แรงในการหายใจ เช่น หายใจอกบุ๋ม ชายโครงบุ๋ม หรือปีกจมูกบาน ระดับออกซิเจนปลายนิ้วน้อยกว่า 94 เปอร์เซ็นต์ ริมฝีปาก เล็บ หรือปลายมือปลายเท้าเขียวคล้ำ ซึมลง ไม่ดูดนม กินไม่ได้ เพลีย ไม่มีมีแรง หรือมีไข้ตั้งแต่ 39 องศาเซลเซียสขึ้นไป ให้รีบส่งโรงพยาบาลโดยเร็วที่สุด