มองผ่านเลนส์คม - "นราธิป" รางวัลสำหรับ "ผู้มาก่อน"

ที่อยากบอกเล่า ก็เพราะวันนี้มีนักเขียน นักหนังสือพิมพ์ กวี นักแปล และบรรณาธิการอาวุโส เดินทางมารับรางวัล และร่วมพูดคุยกับนักเขียนรุ่นน้อง รุ่นลูก อย่างยากจะมีบรรยากาศอย่างนี้ง่ายนัก ไม่เชื่อลองดูรายชื่อเจ้าของรางวัลนราธิปประจำปี 2551 ทั้ง 13 ท่านดู โกวิท ตั้งตรงจิตร ศ.ดร.จิตรเกษม สีบุญเรือง จำนรรจ์ สุวรรณโชติ (รวี พรเลิศ) ถาวร ชนะภัย แท้ ประกาศวุฒิสาร ธิดา บุนนาค นพ.ประสาน ต่างใจ มานะ แพร่พันธุ์ วิทย์ พิณคันเงิน สมพร เทพสิทธา สิรินทร์ ช่วงโชติ ศ.เกียรติคุณแสง จันทร์งาม(ธรรมโฆษ) อุทัย เทียมบุญเลิศ (บุญศักดิ์ แสงระวี/อนิวรรตน์) ใครที่คุ้นงานเขียน ย่อมรู้ดีว่าแต่ละท่านได้สร้างสรรค์ผลงานมาอย่างต่อเนื่อง ยาวนาน และเป็นที่ยกย่องอย่างกว้างขวางอย่างแท้จริง และจากวงวรรณศิลป์เสวนา หัวข้อ "เรียนรู้จากผู้มาก่อน" ทำให้ทราบว่า พวกท่านผ่านประสบการณ์อะไรมาบ้าง มีแรงบันดาลใจในการเขียนอย่างไร อย่าง อ.สมพร เทพสิทธา สนใจเรื่องธรรมะกับเยาวชนมาก และเขียนหนังสือตั้งแต่เด็ก ผลงานส่วนมากจึงออกในแนวผดุงสังคม ความรู้เกี่ยวกับพุทธศาสนาที่เราควรรู้ หรือ ศ.ดร.จิตเกษม สีบุญเรือง นักวิชาการวรรณกรรมหญิงวัย 94 ปี ที่ท่านยังอุตส่าห์มารับรางวัลด้วยตัวเอง ส่วนท่านนี้ประทับใจมาก คือ คุณป้าธิดา บุนนาค นักเขียนหญิงหัวก้าวหน้า ที่ถือว่าเปรี้ยวสุดๆ ในยุคนั้น ว่ากันว่ามีผลงานที่ท้าทายวรรณกรรมทุกยุคทุกสมัย งานเขียนเชิงรักๆ ใคร่ๆ และตอบปัญหาหัวใจคุณป้าถนัดนัก คุณชมัยภร แสงกระจ่าง นายกสมาคม ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า สำนวนของคุณธิดาเก๋เหลือเกิน มีความละเมียดละไม เขียนเรื่องวาบหวามได้ดีมาก เป็นผู้หญิงคนเดียวที่กล้าเขียนงานแบบนี้ แม้แต่ผู้ชายยังซูฮกให้ ที่พิเศษสุดก็คือ ที่ผ่านมาท่านค่อนข้างเก็บเนื้อเก็บตัว แต่ในวัยกว่า 80 ปี ท่านได้มาร่วมงานนี้ด้วยความยินดี การมอบรางวัล "นราธิป" ใช่เพียงดีใจที่ได้พบหน้า ทว่า เส้นทางและความคิดของผู้มาก่อน ได้จุดประกายให้นักเขียนรุ่นหลังได้จดจำเป็นแบบอย่าง เพื่อสร้างสรรค์งานเขียนให้ดียิ่งๆ ขึ้นไป และหากตอบความในใจแทนคณะผู้จัดงานได้ ก็คิดว่า..."ปูพื้นฐานมาซะขนาดนี้แล้ว จะให้เราลืมพวกท่านได้อย่างไร" "นันทพร ไวศยะสุวรรณ์"