ข่าว

"อภิสิทธิ์"ยันมีอำนาจเต็มปรับครม.2วันชี้ชะตา"วิฑูรย์-บุญจง"

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

"อภิสิทธิ์" ยันมีอำนาจเด็ดขาดปรับ ครม.นับถอยหลัง 2 วันชี้ชะตา "วิฑูรย์-บุญจง" ด้าน "วิฑูรย์" แจงที่ประชุม ปชป.วันนี้ สะพัดเตรียมไขก๊อก "เหลิม" ยันยื่นซักฟอกรัฐบาลทั้งคณะ "แม้ว" ประกาศจะกลับมาเป็นนายกฯ อีกรอบ ไม่ขอตายในต่างแดน อัดรัฐบาลมาร์คเสือหิว ป.ป.ช.โ

แม้รัฐบาลเพิ่งจะทำงานผ่านไปเพียง 1 เดือนเศษ แต่ดูเหมือนปัญหาต่างๆ จะเข้ามารุมเร้า ทั้งกรณีปลากระป๋องเน่า ที่พาดพิงถึงนายวิฑูรย์ นามบุตร รมว.พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กรณีการแจกเงินพร้อมนามบัตรของ นายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ รมช.มหาดไทย และยังมีกรณี กกต.ชี้มูลผิด นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง โดยกล่าวหาว่ามีการแจกทุนการศึกษาในช่วงการหาเสียงเลือกตั้งนายก อบจ.สุราษฎร์ธานี ที่น้องชายนายสุเทพลงสมัคร จนทำให้เกิดกระแสข่าวการปรับคณะรัฐมนตรีขึ้น นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงการปรับ ครม.ว่า จะขอพิจารณาข้อมูลหลักฐานที่มีอยู่ให้รอบด้าน คาดว่าใช้เวลา 2 วันจะเรียบร้อย และจะพิจารณาด้วยความเป็นธรรม เมื่อตัดสินใจแล้วจะสามารถชี้แจงต่อสังคมได้ ทั้งนี้ ยืนยันว่าพรรคภูมิใจไทยไม่สามารถกดดันไม่ให้ปรับนายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ ออกจากตำแหน่งได้ เพราะตนเป็นผู้มีอำนาจตัดสินใจ "ผมยืนยันว่าอำนาจการตัดสินใจเป็นของผม ผมเชื่อว่ารัฐบาลจะทำงานได้ ต้องได้รับความวางใจและความเชื่อถือจากประชาชน ซึ่งผมจะถือตรงนั้นเป็นเกณฑ์" นายกรัฐมนตรีกล่าว เมื่อถามว่า แล้วถ้าเกิดอะไรขึ้นจะทำอย่างไร นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ทั้งหมดทำเพื่อต้องการให้รัฐบาลสามารถทำงานได้ ถ้าจะมีอะไรก็คือทำเพื่อให้รัฐบาลทำงานได้ เพราะถ้ารัฐบาลคิดถึงแต่ตัวเลขก็ไม่ได้ การทำงานที่จะสำเร็จได้ต้องได้รับการยอมรับ มีความเชื่อถือ เมื่อถามว่าการพูดเช่นนี้เหมือนกับจะมีการปรับ ครม. นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า สิ่งที่พูดคือหลักการที่ตนใช้ ส่วนจะเป็นอย่างไรก็ขอให้รออีก 2 วัน แล้วจะเรียนให้ทราบ ต่อข้อถามว่า ต้องคุยกับนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ในฐานะเลขาธิการพรรคหรือไม่ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ตนคุยกับหลายๆ คนแล้ว แต่ก็ยังไม่ครบทุกคน นายกรัฐมนตรีให้สัมภาษณ์กรณีที่สื่อต่างประเทศตีข่าวว่า รัฐบาลอยู่ภายใต้กองทัพและกลุ่มพันธมิตรว่า “มันมีบางฉบับ และเป็นการอ้างอิงเหตุผลจากบางท่านเท่านั้น และเหตุผลก็แปลก เช่น บอกว่า เรื่องของโรฮิงญา สงสัยว่าทหารหรือกองทัพก็คงจะไม่ดำเนินการอะไร เพราะรัฐบาลนี้อยู่ภายใต้ทหาร ผมก็อยากถามว่า เรื่องสิทธิมนุษยชน กรือเซะ ตากใบ หรือทนายสมชาย นีละไพจิตร ที่ผ่านมาทำไมไม่ตั้งข้อสังเกตบ้างว่า เป็นเพราะว่าอดีตนายกฯ อยู่ภายใต้ทหารหรือเปล่า มันเป็นคนละเรื่องกัน อย่าเอาเรื่องไปปนกัน ผมก็ได้ชี้แจงไปแล้ว" เมื่อถามว่า มั่นใจใช่หรือไม่ว่านายกฯ เป็นตัวของตัวเองเต็มร้อย นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า “แน่นอนครับ ทุกเรื่อง เรื่องที่ให้ไปมีการดำเนินการทั้งเรื่องภาคใต้ เรื่องโรฮิงญา ผมก็เป็นคนเริ่มต้นและผมก็ไม่ได้มีปัญหาอะไรกับกองทัพ พอไม่มีปัญหาก็บอกว่าถูกครอบงำ พอมีปัญหาก็บอกว่าไม่มั่นคง" "สุเทพ"ชี้ปรับครม.ให้รอนายกฯตัดสิน นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการที่ฝ่ายค้านระบุว่าจะยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลหากไม่มีการปรับ ครม.ว่า การปรับ ครม.เป็นอำนาจของนายกรัฐมนตรี ซึ่งกรณีของนายวิฑูรย์และนายบุญจงนั้น นายกรัฐมนตรีบอกแล้วว่าขอเวลา 2-3 วัน เพื่อดูข้อมูลหลักฐานทั้งหมด ซึ่งคงต้องให้เวลานายกฯ ด้วย ผู้สื่อข่าวถามถึงความชัดเจนกรณีข่าวการปรับนายวิฑูรย์ออกจากตำแหน่ง รมว.พัฒนาสังคมฯ นายสุเทพกล่าวว่า ไม่ทราบว่าข่าวมาจากไหน เพราะยังไม่ได้ประชุมกรรมการบริหารพรรค หรือ ส.ส.ของพรรค ซึ่งจะมีการประชุม ส.ส.ของพรรคในช่วงบ่ายวันอังคารที่ 3 กุมภาพันธ์นี้ นายสุเทพยังกล่าวถึงการที่นายบัญญัติ บรรทัดฐาน กรรมการสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ ระบุว่า การทบทวนตัวเองเป็นเรื่องที่สำคัญของนักการเมือง หากถูกวิจารณ์มากๆ นายสุเทพกล่าวว่า เป็นทัศนะและเป็นแนวความคิด ซึ่งทุกคนมีสิทธิเสนอแนวความคิด ดังนั้นนายวิฑูรย์ควรรับฟังแนวความคิดของฝ่ายต่างๆ และประเมินดู เมื่อถามว่า ปัญหาของนายวิฑูรย์ถือเป็นปัญหาของพรรคประชาธิปัตย์หรือในรัฐบาลหรือไม่ นายสุเทพกล่าวว่า ไม่ถึงขนาดจะเป็นปัญหาในพรรค หรือเป็นปัญหาของรัฐบาล แต่เป็นเรื่องที่ต้องแก้ไข ปัดภูมิใจไทยกดดัน-ลั่นไม่ยุบสภา ส่วนที่มีข่าวว่าพรรคภูมิใจไทยพยายามกดดัน เพื่อไม่ให้มีการปรับนายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ รมช.มหาดไทย ออกจากตำแหน่ง แต่ถ้านายวิฑูรย์แสดงสปิริตออกแล้วนายบุญจงยังนิ่งเฉยจะกลายเป็นสองมาตรฐานหรือไม่ นายสุเทพกล่าวว่า อย่าคิดไปเร็วขนาดนั้น เพราะยังไม่มีกรณีที่นายวิฑูรย์ตัดสินใจทำอะไร หรือกรณีนายกฯ ตัดสินใจอะไรเกี่ยวกับนายวิฑูรย์ ดังนั้น จะบอกว่ากรณีของนายวิฑูรย์จะไปกดดันกรณีของนายบุญจงคงไม่ใช่ และยังไม่มีเรื่องที่แสดงให้เห็นว่าพรรคภูมิใจไทยมากดดันรัฐบาลเกี่ยวกับกรณีนายบุญจงแต่อย่างใด ส่วนกรณี กกต.ชี้มูลเรื่องไปช่วยน้องชายหาเสียงเลือกตั้งนายก อบจ.สุราษฎร์ธานี นายสุเทพกล่าวว่า ยืนยันว่าไม่ได้ไปช่วยหาเสียง แต่ไปงานสงกรานต์ ไปทำบุญตักบาตร รดน้ำดำหัวผู้ใหญ่ตามประเพณี ยืนยันว่าไม่ได้ทำผิดกฎหมายและไม่ได้ทำทุจริต ซึ่งต้องไปพิสูจน์กันที่ศาล และเชื่อว่ากรณีนี้ไม่มีเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการโยงไปถึงการยุบพรรคได้ เพราะกฎหมายไม่ได้บัญญัติไว้อย่างนั้น แต่กฎหมายบัญญัติเฉพาะกรณีการเลือกตั้ง ส.ส.-ส.ว. ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่กลุ่มเสื้อแดงเรียกร้องและให้ปฏิบัติภายใน 15 วัน จะพิจารณาอย่างไร ทำได้หรือไม่ นายสุเทพกล่าวว่า ยังไม่ได้หารือกันในภาพรวม แต่เห็นว่าบางเรื่อง อย่างกรณีดำเนินคดีกับผู้กระทำผิดกฎหมายนั้นดำเนินการอยู่แล้ว "แต่เรื่องอื่นๆ คงทำไม่ได้ เรื่องยุบสภาก็ไม่มีทาง เพราะกำลังแก้ไขปัญหาบ้านเมืองอยู่แล้ว จะไปทำให้สะดุดหยุดลงทำไม อย่างไรก็ตามรัฐบาลไม่ได้ประมาท" นายสุเทพกล่าว "วิฑูรย์" รอแจงพรรคก่อนไขก๊อก รายงานข่าวจากพรรคประชาธิปัตย์แจ้งว่า การประชุมพรรคประชาธิปัตย์ในวันอังคารที่ 3 กุมภาพันธ์นี้ นายวิฑูรย์จะเข้าชี้แจงกรณีปลากระป๋องเน่าในถุงยังชีพ ที่แจกให้ผู้ประสบภัยน้ำท่วมที่ จ.พัทลุง ต่อนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และสมาชิกพรรค ที่ผ่านมานายวิฑูรย์เคยระบุว่า จะรอผลการสอบของ ป.ป.ช.ก่อน แต่มีกระแสข่าวว่านายวิฑูรย์อาจจะแสดงความรับผิดชอบด้วยการลาออก เนื่องจากทนต่อกระแสกดดันทางสังคมไม่ได้ และไม่อยากให้พรรคเสียชื่อเสียง อีกทั้งนายอภิสิทธิ์ยังกำชับให้ ครม.ยึดกฎเหล็ก 9 ข้อ เน้นทำงานซื่อสัตย์-สุจริต ทั้งนี้ แคนดิเดตที่พรรคจะวางตัวแทนนายวิฑูรย์ มี 2 ราย คือ 1.นายไกรศักดิ์ ชุณหะวัณ ส.ส.สัดส่วน และรองหัวหน้าพรรค ที่ดูแลภาคอีสาน มีความอาวุโส เคยเป็นรัฐมนตรีเงา และทำงานร่วมกับเอ็นจีโอ และ 2.นายอิสสระ สมชัย ส.ส.อุบลราชธานี ซึ่งมีความอาวุโส ทำงานกับพรรคประชาธิปัตย์มานาน เป็นผู้แทนราษฎรมา 7-8 สมัย อีกทั้งเป็นตัวแทนของคนอีสานอีกด้วย ขณะที่ นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ ส.ส.พัทลุง พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวกรณีชาวพัทลุงได้รับแจกสิ่งของช่วยเหลือน้ำท่วม ซึ่งมีปลากระป๋องเน่าปนอยู่ด้วยว่า ตนและ ส.ส.ในพื้นที่รู้สึกน้อยใจและอับอาย เพราะอยู่ในพื้นที่ก็ถูกชาวบ้านต่อว่า ทั้งที่ไม่ได้เกี่ยวข้อง ดังนั้นรัฐบาลต้องทำให้เรื่องนี้จบโดยเร็ว ไม่ควรยืดเยื้อ เลขาฯ วิฑูรย์ยันไม่เกี่ยวปลากระป๋องเน่า จากกรณีพรรคเพื่อไทยเตรียมยื่นเรื่องต่อ ป.ป.ช.ให้ดำเนินการกับ ส.ส.หญิงชื่อย่อ “บ” ที่เป็นเจ๊ใหญ่ในกระทรวงการพัฒนาสังคมฯ และข้าราชการการเมืองชื่อ “อ” กรณีปลากระป๋องเน่านั้น นายเอกชัย ทรงอำนาจเจริญ เลขานุการ รมว.พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ให้สัมภาษณ์ว่า ไม่ทราบว่าอักษร “อ” ที่ฝ่ายค้านระบุเป็นตนหรือไม่ แต่ยืนยันในความบริสุทธิ์และพร้อมให้ตรวจสอบ ขณะนี้ก็รอผลการตรวจสอบข้อเท็จจริงของคณะกรรมการทั้ง 7 ชุด หากมีใครเกี่ยวข้อง พรรคประชาธิปัตย์ก็คงดำเนินการถึงที่สุด องค์กรสตรีจี้เปลี่ยนตัว รมว.พม. น.ส.สุเพ็ญศรี พึ่งโคกสูง หัวหน้าศูนย์พิทักษ์สิทธิสตรี มูลนิธิเพื่อนหญิง ให้สัมภาษณ์ว่า ก่อนหน้าที่จะมอบหมายให้นายวิฑูรย์ นามบุตร มาเป็น รมว.พัฒนาสังคมฯ เครือข่ายองค์กรผู้หญิงเคยทักท้วงมาแล้ว หากนายกฯ จะปรับ ครม.ขอให้พิจารณาคนมีคุณสมบัติที่เหมาะสม มีความสามารถ ไม่มีสีดำหรือสีเทาไม่ว่าจะส่วนไหน ที่ผ่านมาการจัด ครม.ยึดถือระบบโควตาพรรค แต่สถานการณ์สังคมขณะนี้ขอให้นายกฯ ใช้โอกาสวิกฤติ ครม.ตอนนี้ แสดงสปิริตบอกคนในภาคหรือโควตาของพรรคประชาธิปัตย์ ในการหาคนที่เหมาะสม ซื่อสัตย์ มาทำหน้าที่นี้ และหากเป็นไปได้ควรให้โอกาสผู้หญิงเข้ามาทำหน้าที่ เหลิมเหน็บสุเทพอำนาจใหญ่กว่านายกฯ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ส.ส.สัดส่วน และประธาน ส.ส.พรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ก่อนการสัมมนาพรรคเพื่อไทย ถึงความคืบหน้าในการยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลว่า ขณะนี้ยังไม่มีการพิจารณา ต้องดูสถานการณ์ ถ้าควรยื่นญัตติ ก็จะพิจารณาว่าจะยื่นเป็นรายบุคคล หรือทั้งคณะ การเมืองวันนี้ไม่ใช่ดูเฉพาะการบริหารประเทศว่าเสียหายมากน้อยเพียงใด ต้องดูพฤติกรรมของบางพรรคในอดีตด้วยว่ากระทำการให้เกิดความเสียหายหรือไม่ เอาทรัพย์สินราชการไปใช้หรือเกิดความเสียหายอย่างไรบ้าง ที่สำคัญคือ เอกสารหลักฐานต่างๆ ต้องชัด "ข้อมูลที่มีตอนนี้ ไม่ใช่แค่รายบุคคล แต่ทั้งคณะ เป้าหมายหลักคือทั้งคณะ ก็ต้องมีนายกรัฐมนตรีอยู่แล้ว ส่วนพวกแจกของ พวกปลากระป๋อง แค่ของแถม เรากำลังรวบรวมอยู่” ร.ต.อ.เฉลิม กล่าว ส่วนกรณีที่มีข่าวว่านายสุเทพยืนยันจะไม่มีการปรับ ครม. ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวว่า ถ้านายสุเทพพูดจริง ก็เท่ากับว่านายสุเทพจะมีอำนาจใหญ่กว่านายกรัฐมนตรี ซึ่งจะเท่ากับว่า พรรคเพื่อไทยงานเข้าทันที เพราะต้องนำเรื่องนี้ไปใช้ในการอภิปรายไม่ไว้วางใจด้วย ยื่นซักฟอกช้าเหตุต้องแนบชื่อนายกฯใหม่ การยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีทั้งคณะ ซึ่งต้องแนบชื่อบุคคลที่พร้อมจะเป็นนายกฯ ไปด้วยนั้น ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า นี่แหละปัญหาเลย ต้องช้า ถ้ารัฐบาลแพ้โหวตคนที่ใส่ชื่อไว้จะออโตเมติกทันที เป็นนายกฯ ทันทีโดยไม่ต้องโหวต ซึ่งหัวหน้าพรรคเพื่อไทยไม่สามารถทำได้ ส่วนหากมีการใส่ชื่อ ร.ต.อ.เฉลิมนั้น ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวว่า คนมีอีกเยอะ อาวุโสก็เยอะ ถามว่าตนเป็นได้หรือไม่ ถ้าใช้ส่วนสูงก็คงถึง แฉหลักฐานสุเทพแจกผ้าห่มบนเกาะสมุย เมื่อเวลา 17.00 น. ที่โรงแรมกรีนเนอรี่ รีสอร์ท สถานที่จัดสัมมนาพรรคเพื่อไทย นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำ นปช. แถลงว่ามีหลักฐานว่านายสุเทพแจกสิ่งของให้ผู้สูงอายุที่เกาะสมุย จ.สุราษฏร์ธานี แม้ว่าก่อนหน้านี้นายสุเทพจะปฎิเสธว่าเป็นการไปทำบุญตามประเพณีในฐานะ ส.ส.และกล่าวอวยพรเนื่องในวันสงกรานต์ โดยไม่มีการแจกของ "ผมมีรูปภาพนายสุเทพกำลังถวายสังฆทานแด่พระภิกษุ จากนั้นได้เดินไปพบผู้สูงอายุในพื้นที่เกาะสมุย และมอบสิ่งของตามที่มีการร้องเรียน ดังนั้น การอ้างว่าไปอวยพร จึงเป็นการกล่าวเท็จและข้อกฎหมายไม่ได้บัญญัติไว้ให้มีการยกเว้น ข้าวของที่แจก ระบุชัดว่าเป็นของพรรคประชาธิปัตย์ ส่วนจะถึงขั้นยุบพรรคหรือไม่นั้น ขอให้เป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมาย” นายณัฐวุฒิ กล่าว "แม้ว"ปลุกลูกพรรคลั่นพร้อมสู้ตาย เมื่อเวลา 16.30 น. ระหว่างการสัมมนาของพรรคเพื่อไทย ร.ต.อ.เฉลิมพูดเกริ่นว่า "เดี๋ยวจะพูดคุยกับอดีตนายกรัฐมนตรี เอ้า เรามาพบกับท่านกันเลย" จากนั้นมีเจ้าหน้าที่คนหนึ่งยื่นโทรศัพท์มือถือจ่อที่ไมโครโฟน ซึ่งทราบภายหลังว่าเป็นโทรศัพท์ส่วนตัวของ น.ส.ชินณิชา วงศ์สวัสดิ์ บุตรสาวนายสมชายและนางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ จากนั้นมีเสียง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ผ่านไมโครโฟนที่ต่อไปยังเครื่องขยายเสียงให้ ส.ส.ที่กำลังนั่งร่วมสัมมนาฟังว่า "ขอขอบคุณทุกคนที่ยังเป็นกำลังใจให้ผม ผมมั่นใจว่าจะได้กลับประเทศไทย จากที่เคยประกาศว่าจะวางมือทางการเมือง แต่การกลั่นแกล้งกลับมากขึ้น ก็ขอบอกใหม่ว่าพร้อมที่จะกลับไปสู้ เพราะถ้ายอมแพ้เท่ากับประชาชนที่เคยได้ประโยชน์จากนโยบายพรรคไทยรักไทยทุกคนต้องได้รับผลกระทบ การถูกรังแกขนาดนี้ เป็นการแสดงให้เห็นว่ามีคนไม่ต้องการให้มีใครทำงานให้ประชาชนอย่างแท้จริง ความรับผิดชอบบนแผ่นดินไทยของผมยังมีอยู่ การที่เขาชนะและคิดว่าจะต้องล้มผมให้ได้ ก็ต้องกล่าวหาว่าไม่จงรักภักดี ซึ่งไร้สาระที่สุด" อดีตนายกฯ กล่าวว่า จะไม่ยอมแพ้ จะหาความยุติธรรมให้เจอ ไม่ว่าจะบนสวรรค์หรือในนรก และขอให้ทุกคนสบายใจได้ว่าสามารถติดต่อกับตนได้ตลอดเวลา "วันนี้มีคนมาอ้างให้ ส.ส.ไปเอาเงินกับเขา แล้วบอกว่า กูทำให้นาย ซึ่งไม่จริงเลย ผมไม่ใช่คนหน้าไหว้หลังหลอก ที่จะไปให้เงินใครมาทำลายเนื้อแท้ ผมไม่ได้โกหกตอแหล ให้มั่นใจว่าเรามีหนึ่งเดียว ไม่มีสอง พวกเราเป็นเสือ เวลาหิวมันจะหอน แต่หมาเวลาหิวจะเห่า หากมีอะไรก็พูดมาเลย ถ้าผมทำได้ก็จะทำให้ มีประชาชนจำนวนมากที่มองเห็นแล้วว่า เกิดความไม่เป็นธรรม และสิ่งที่เขาจะทำครั้งนี้ เพราะเขารู้ว่าประชาชนทำอะไรผิด ทำอะไรไม่ผิด ที่ผ่านมามันสะสมในใจประชาชน การกลั่นแกล้งทุกอย่างแบบว่าเหลืองถูกหมด แดงผิดหมด สักวันมันจะระเบิดออกมา" พ.ต.ท.ทักษิณ บอกอีกว่า รัฐบาลชุดนี้เป็นรัฐบาลเสือหิว ยุคนี้มันกลียุค รวบรวมเอาเสือหิวเสือโหยมาอยู่ด้วยกันทั้งนั้น ประชาธิปัตย์ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อทำลาย แก้ปัญหาให้ประชาชนได้ยากมาก พ.ต.ท.ทักษิณกล่าวอีกว่า พร้อมจะกลับมาเป็นนายกรัฐมนตรีอีกครั้ง ถ้าประชาชนพร้อม แต่ถ้าประชาชนยอมพ่ายแพ้ก็เท่ากับว่าตนแพ้ด้วย "ถึงแม้จะต้องอยู่ต่างประเทศอีกนาน แต่ผมไม่ยอมตายในต่างประเทศแน่นอน แม้ผมจะกลับประเทศไม่ได้ ก็จะขอมุดกลับมาตายในภาคอีสาน ถ้าสักวันหนึ่งประชาชนบอกว่าต้องการผม ผมจะกลับไปทำหน้าที่ทันที ช่วงนี้ผมจะรักษาเนื้อรักษาตัวให้แข็งแรง เมื่อวานเพิ่งไปตรวจเลือดมาพบว่าร่างกายก็ยังแข็งแรงอยู่ สภาพจิตใจก็ดี เพราะมีทุกคนที่อยู่ในพรรคเพื่อไทยคอยเป็นกำลังใจให้ เพราะวันนี้การเมืองมันยังอีกยาวนาน และไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ผมจะสู้ไม่ถอย ผมเป็นคนที่ยิ่งโดนยิ่งสู้ ถ้าพูดกันดีๆ ให้ถอยมันก็ทำได้ แต่ถ้าเล่นผมหนัก ผมก็จะเล่นให้หนักขึ้น ไอ้พวกนี้ที่พูดว่าผมโดนยึดเงินที่ประเทศอังกฤษ มันโกหกทั้งนั้น เพราะผมไม่เคยมีบัญชีที่อังกฤษแม้แต่บาทเดียว ถามว่าเป็นอย่างไรบ้าง ผมก็เพิ่งขายทีมฟุตบอลไป เงินพอใช้หรือไม่ ก็แค่จ่ายค่าเดินทางปีละล้านก็พออยู่ได้ ไม่ต้องไปเรี่ยไรเงินจากชาวบ้านมาให้ผมนะ ฟังแล้วน้ำตาจะไหล" ภูมิใจไทยปัดกดดันรัฐอุ้ม "บุญจง" นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รมว.มหาดไทย แกนนำพรรคภูมิใจไทย กล่าวถึงกรณีที่ฝ่ายค้านเตรียมอภิปรายนายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ รมช.มหาดไทย กรณีแจกเงินและนามบัตรที่บ้านพักส่วนตัวที่ จ.นครราชสีมา ว่า เชื่อว่านายบุญจงเตรียมพร้อมที่จะชี้แจงอยู่แล้ว และยืนยันว่าพรรคภูมิใจไทยไม่ได้มีการต่อรองกับรัฐบาลไม่ให้ปรับนายบุญจงออก แต่ถ้าจะมีการปรับออก แกนนำพรรคจะต้องหารือกันก่อน แต่รัฐบาลยังไม่ได้ส่งสัญญาณมายังพรรคภูมิใจไทย เมื่อถามต่อว่า การปรับ ครม.ต้องรอผลจากกฎหมายหรือไม่ นายชวรัตน์ กล่าวว่า สังคมกดดันหรือไม่กดดันก็อยู่ที่สื่อเขียน ถ้าเขียนไม่กดดันก็ไม่กดดัน ส่วนที่พรรคเพื่อไทยเตรียมนำหลักฐานมาแฉในช่วงนายชวรัตน์เป็น รมว.พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ในสมัยรัฐบาลนายสมัคร สุนทรเวช ได้อนุมัติเงินแจกชาวบ้าน นายชวรัตน์ กล่าวว่า ไม่เคยทำ ถ้ามีหลักฐานจริง ตนพร้อมลาออก แต่ถ้าไม่มีหลักฐานคนที่ออกมาแฉเรื่องนี้จะยอมลาออกจากการเป็น ส.ส.หรือไม่ กกต.ชี้แม้สุเทพผิดก็ไม่โยงยุบ ปชป. นายสมชัย จึงประเสริฐ กกต.ด้านกิจการสืบสวนสอบสวนและวินิจฉัย กล่าวถึงกรณีที่ กกต.มีมติให้ดำเนินคดีอาญากับนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ว่า ยอมรับว่ากรณีดังกล่าวว่าทั้งกกต.กลางและ กกต.จังหวัดไม่ได้เรียกนายสุเทพมาสอบจริง ตนเห็นว่าเรื่องนี้น่าจะมีปัญหาอะไร เพราะกรณีนี้เป็นกรณีที่เห็นควรให้ใบแดงผู้สมัครนายก อบจ.ที่นายสุเทพเป็นผู้มีส่วนเข้าไปเกี่ยวข้อง และถูกพาดพิง เราจึงสั่งดำเนินคดี หากศาลอุทธรณ์วินิจฉัยแล้ว ไม่เห็นด้วยกับมติ กกต.ในการให้ใบแดง นายสุเทพก็ไม่ถือว่ามีความผิด แต่หากศาลเห็นตาม กกต. ก็ต้องดำเนินคดีต่อนายสุเทพต่อไป และขอยืนยันว่ากรณีดังกล่าวไม่ได้เป็นการเอื้อประโยชน์ให้แก่พรรคประชาธิปัตย์แต่อย่างใด นายสมชัย กล่าวต่ออีกว่า แม้ว่านายสุเทพจะถูกตัดสินว่ามีความผิด แต่ก็จะไม่ส่งผลให้ถูกยุบพรรค เพราะการยุบพรรคมีกำหนดไว้ใน พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. และการได้มาซึ่ง ส.ว.เท่านั้น แต่ในกฎหมายเลือกตั้งท้องถิ่นไม่มีกำหนดไว้ "เรืองไกร" ยื่น ป.ป.ช.สอบ 3 รมต.แล้ว นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ส.ว.สรรหา เดินทางมายื่นหนังสือต่อ ป.ป.ช. เพื่อขอให้ตรวจสอบการปฏิบัติหน้าที่ของนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รมว.ยุติธรรม นายโสภณ ซารัมย์ รมว.คมนาคม และนายเกื้อกูล ด่านชัยวิจิตร รมช.คมนาคม จากกรณีการลงมติรับหลักการร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมประจำปีงบประมาณ 2552 เมื่อวันที่ 28 มกราคม ที่ผ่านมา ซึ่งเข้าข่ายขัดรัฐธรรมนูญ มาตรา 177 วรรคสอง ที่ระบุว่า ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ถ้ารัฐมนตรีผู้ใดเป็น ส.ส.ในขณะเดียวกันด้วย ห้ามมิให้รัฐมนตรีผู้นั้นออกเสียงลงคะแนนในเรื่องที่เกี่ยวกับการดำรงตำแหน่ง การปฏิบัติหน้าที่หรือการมีส่วนได้เสียในเรื่องนั้น รวมถึงเข้าข่ายความผิดตามรัฐธรรมนูญมาตรา 270 และ 275 และประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 ฐานเป็นเจ้าพนักงานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ กกต.โยนศาล รธน.มีอำนาจวินิจฉัย นายวิชา มหาคุณ ป.ป.ช. กล่าวถึงกรณีที่มีการมายื่นให้สอบ 3 รัฐมนตรีลงมติรับหลักการร่าง พ.ร.บ.งบเพิ่มเติมว่า เมื่อยื่นเรื่องมาที่ ป.ป.ช. เจ้าหน้าที่จะตรวจสอบว่าเรื่องดังกล่าวอยู่ในอำนาจของ ป.ป.ช.หรือไม่ หากมีอำนาจก็จะดำเนินการไปตามกระบวนการ ตนมองว่าศาลรัฐธรรมนูญน่าจะมีอำนาจเป็นผู้วินิจฉัยเรื่องนี้ได้ดีที่สุด โดยนักการเมืองที่มีส่วนได้ส่วนเสียควรเป็นผู้ดำเนินการยื่นเรื่องเอง ทั้งนี้กรณีดังกล่าวไม่ได้มีบัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญ 2550 ถึงผลที่เกิดจากการกระทำว่าจะมีผลอย่างไรและมีบทลงโทษอย่างไร นอกจากนี้กฎหมายของ ป.ป.ช.ก็ไม่ได้ระบุบทลงโทษกรณีดังกล่าวไว้ด้วยว่าจะต้องลงโทษอย่างไร สำหรับการนำเรื่องนี้ขึ้นมาพิจารณาเบื้องต้นคาดว่าในการประชุม ป.ป.ช. วันที่ 5 กุมภาพันธ์นี้ น่าจะมีการหยิบยกเรื่องนี้เข้ามาหารือ "ป.ป.ช.คงดูว่าอยู่ในข่ายอำนาจหรือไม่ และคงมองที่ประเด็นการเข้าข่ายการขัดกันแห่งผลประโยชน์หรือไม่ ประเด็นนี้ต้องดู 2-3 เรื่อง คือ ถ้ากฎหมายต้องการเอาผิดจะเขียนไว้ใน พ.ร.บ.ประกอบฯ ว่าด้วย ป.ป.ช.มาตรา 100-103 ถ้าไม่ใช่เรื่องผิดทางอาญาก็จะเป็นเรื่องผิดจริยธรรม ซึ่งอาจนำไปสู่การตำหนิ การถูกถอดถอน กระบวนการที่ ป.ป.ช.จะพิจารณาคงต้องดูรายละเอียดตรงนี้ว่าเป็นเรื่องทางจริยธรรมหรือเป็นเรื่องที่เกี่ยวพันกับคดีอาญา ต้องไม่ลืมว่าอำนาจของ ป.ป.ช.จะพิจารณาได้ต้องเป็นเรื่องความผิดทางอาญาเนื่องในการกระทำผิดหรือประพฤติมิชอบ ผมมองว่า กรณีนี้ยังไม่เข้าข่ายความผิดทางอาญา แต่โดยมารยาทอาจจะผิดมารยาท" นายวิชา กล่าว ภูมิใจไทยดัน"ประวิตร"นั่งหัวหน้าพรรค รายงานข่าวจากกระทรวงมหาดไทย แจ้งว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรีวันที่ 3 กุมภาพันธ์นี้ นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รมว.มหาดไทย ในฐานะที่กำกับดูแลการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) ได้จัดทำรายชื่อประธานกรรมการและกรรมการอื่นในคณะกรรมการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค หรือบอร์ด ให้ที่ประชุม ครม.มีมติเห็นชอบ อาทิ นายวิชัย ศรีขวัญ ว่าที่ปลัดกระทรวงมหาดไทย มาเป็นประธานกรรมการบอร์ดคนใหม่แทน นายอุดม พัวสกุล อธิบดีกรมโยธาธิการและผังเมือง สายตรง นางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ ที่ประกาศนำทีมบอร์ดชุดเก่าลาออกทั้งคณะเมื่อสองสัปดาห์ที่ผ่านมา นอกจากนี้ยังมี พล.ร.อ.ศิษฐวัชร วงษ์สุวรรณ อดีตผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษกองทัพเรือ นายสัมพันธ์ หุ่นพยนต์ นางจินตราภรณ์ เตชาชาญ พล.ต.ท.สุชาติ เหมือนแก้ว ผบช.น. นายเรวัต วิศรุตเวช อธิบดีกรมการแพทย์ เป็นต้น โดยพบว่าหลายชื่อที่นายชวรัตน์นำเสนอต่อ ครม.ล้วนเป็นคนใกล้ชิดและอยู่ในเครือข่ายกลุ่มเพื่อนเนวิน และพรรคภูมิใจไทย อาทิ พล.ร.อ.ศิษฐวัชร ที่เป็นน้องชาย พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รมว.กลาโหม ขณะเดียวกันมีกระแสข่าวยืนยันว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ จะเข้ามาเล่นการเมืองกับพรรคภูมิใจไทย โดยมีแรงผลักดันจากแกนนำพรรคหลายคน เช่น นายสมศักดิ์ เทพสุทิน นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ นายอนุทิน ชาญวีรกูล ให้ พล.อ.ประวิตร มาเป็นหัวหน้าพรรคภูมิใจไทยในช่วงการเลือกตั้งครั้งหน้า ครบ 60 วัน ส.ส.ย้ายสังกัดครบแล้ว หลังศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยยุบ 3 พรรคการเมือง ได้แก่ พรรคพลังประชาชน พรรคชาติไทย พรรคมัชฌิมาธิปไตย เมื่อวันที่ 2 ธันวาคม 2551 ทำให้ ส.ส.ทั้ง 3 พรรคต้องหาสังกัดใหม่ภายใน 60 วัน นับแต่วันที่ศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่ง มิเช่นนั้นจะถือว่าสมาชิกภาพสิ้นสุดลงตามที่รัฐธรรมนูญมาตรา 106 (8) บัญญัติ ผู้สื่อข่าวรายงานจากรัฐสภาว่า ขณะนี้ได้ครบกำหนด 60 วันแล้วในวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2552 ซึ่งจากการตรวจสอบจำนวน ส.ส.ของแต่ละพรรคการเมืองจากสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ข้อมูลล่าสุด ณ วันที่ 29 มกราคม 2552 พบว่า ส.ส.ที่เคยสังกัดพรรคการเมืองที่ถูกยุบ ได้เข้าสังกัดพรรคใหม่ทั้งหมดแล้ว โดยจำนวน ส.ส.ล่าสุดแบ่งตามพรรคการเมือง ปรากฏว่าพรรคเพื่อไทย มี ส.ส. 183 คน พรรคประชาธิปัตย์ 171 คน พรรคภูมิใจไทย 32 คน พรรคเพื่อแผ่นดิน 31 คน พรรคชาติไทยพัฒนา 23 คน พรรครวมใจไทยชาติพัฒนา 9 คน พรรคประชาราช 9 คน พรรคกิจสังคม 5 คน พรรคราษฎร 3 คน รวมมี ส.ส.ทั้งสิ้น 466 คน อย่างไรก็ดีมี ส.ส.ที่หยุดปฏิบัติหน้าที่ 11 คน จากกรณีรอการตัดสินคดีเลือกตั้งจากศาลฎีกาแผนกคดีเลือกตั้ง แบ่งเป็น พรรคเพื่อไทย 5 คน พรรคประชาธิปัตย์ 3 คน พรรคเพื่อแผ่นดิน 3 คน ทำให้ขณะนี้มี ส.ส.ปฏิบัติหน้าที่ได้ 455 คน ขณะเดียวกันยังมี ส.ส.ที่ชนะการเลือกตั้งซ่อมเมื่อวันที่ 11 มกราคม ที่ผ่านมา แต่ กกต.ยังไม่ได้ประกาศรับรองผลการเลือกตั้ง 10 คน
logoline

ข่าวที่น่าสนใจ