ทำไมกลัว ‘กษิต ภิรมย์’

ข้อเรียกร้องยังมาจากพวกนักล่าน้ำเลี้ยงซึ่งเคยยกขบวนพากุ๊ยการเมืองไปลุยตำรวจ บุกไปด่า “ป๋าเปรม” จนถูกดำเนินคดี รับความอนุเคราะห์จากกรมราชทัณฑ์ ให้อยู่ในคุก 3-4 คืน กินข้าวแดงกับผัดผักบุ้งใส่วิญญาณหมู ทุกวันนี้ยังมีคดีติดตัว รอขึ้นศาลอาญา พิจารณาความผิด กลิ่นคุกติดตัวยังไม่จาง แม้ใส่เสื้อนอก ใช้น้ำเลี้ยงล้างตัวก็ตาม ! พวกสหายเสื้อแดงในสภา และเคลื่อนไหวนอกสภา แสดงออกให้เห็นชัดว่ามีความหวาดหวั่นต่อการอยู่ในตำแหน่งของคุณกษิตมากกว่า “เสี่ยมาร์ค” ด้วยซ้ำ เพราะรัฐมนตรีต่างประเทศมีอำนาจหน้าที่โดยตรงต่ออนาคตของคนจ่ายน้ำเลี้ยงให้ขบวนการกดดันนอกสภา จัดม็อบจ้องล้มคณะเสี่ยมาร์ค ข้อกล่าวหาว่าคุณกษิตเป็นผู้ก่อการร้ายสากลนั้น เหมือนคนปัญญาอ่อน เพราะไม่ได้เป็นแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยด้วยซ้ำ เป็นเพียงคนหนึ่งซึ่งขึ้นเวทีเปิดโปงความชั่วร้ายไส้เน่าของการเมืองระบอบทักษิณ คนอื่นๆ ไม่ใช่แกนนำของพันธมิตร และขึ้นเวทีเช่นกัน เช่นนักดนตรี นักแสดง ก็ไม่โดนพวกขบวนการล่าน้ำเลี้ยงกล่าวหาว่าเป็นผู้ก่อการร้ายสากล ที่เต้นแร้งเต้นกาหาทางเอาเรื่องคุณกษิต เพราะกลัวเจ้านายโดนเล่นงาน หนังสือเดินทางถูกยกเลิก เท่ากับเป็นการจำกัดเส้นทางเดินชีวิต ไม่มีหนังสือเดินทางไทย ต้องใช้ของดูไบ กัมพูชา หรือประเทศอื่นๆ ที่อยากหาเรื่องกับไทย พวกนักล่าน้ำเลี้ยงเล่นงานคุณกษิต เปรียบไปก็เหมือนแมลงปอขย่มเสาหิน เพราะคุณกษิตเป็นหนึ่งในคณะรัฐมนตรีที่มีศักยภาพ ประวัติการทำงาน และเป็นบุคคลน่าเชื่อถือมากที่สุด ได้รับความเชื่อมั่นจากนานาประเทศ ขนาด ฮุน เซน ยังซูฮกให้กับความใจถึงของคุณกษิต กล้าเหยียบถ้ำผู้นำกัมพูชา ทั้งๆ ที่เคยขึ้นเวทีเล่นงานจนเละเพราะกรณีปราสาทพระวิหาร พวกนักล่าน้ำเลี้ยงไม่ส่องกระจกดูสารรูปตัวเองว่ามีจุดยืนน่ายกย่องที่ไหนในสังคมไทย อย่าว่าแต่บนเวทีโลก ทุกวันนี้ทำงานหนักเพื่อช่วยเหลืออาชญากรหนีคุกให้รอดพ้นจากกระบวนการยุติธรรมแลกกับเงินเท่านั้น พวกกดดันในสภาควรมียางอาย ดูสภาพตัวเองว่าเป็นเพียงกาก ซากของพรรคการเมืองซึ่งถูกตุลาการศาลรัฐธรรมนูญสั่งยุบมาแล้ว 2 ครั้ง เพราะทำความเลว ละเมิดกฎหมาย เป็นปฏิปักษ์ต่อการเมืองระบอบประชาธิปไตย ที่ร้องเย้วๆ เล่นเกม ขอนับองค์ประชุม ทั้งๆ ที่พวกตัวเองหนีการประชุมแบบหน้าด้านๆ ก็เป็นเพียงสร้างราคาหาน้ำเลี้ยงยังชีพ ไม่ให้อดอยากปากแห้ง พายเรือให้โจรนั่งมานาน ยังมีหน้าไปร้องหาความดีงามอะไร ควรต้องหลบหน้าหนีสังคมไปปรับปรุงตัวเองให้เป็นคนพอมีคุณค่าบ้างดีกว่านิ ! อิอิอิ !!!