วันที่ 26 มกราคม 2552 ผมรายงานท่านผู้อ่านไปว่า ณ วันที่ 30 กันยายน 2551 ซึ่งเป็นวันสิ้นปีงบประมาณ 2551 มีเงินคงคลังเหลืออยู่ทั้งสิ้น 142,000 ล้านบาท
เป็นเงินสดสำหรับจ่ายเป็นเงินเดือนให้ข้าราชการและส่งดอกเบี้ยบางส่วน หากหน่วยงานของรัฐไม่สามารถจัดเก็บภาษีได้ตามเป้าหมาย ก็ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ดีนะครับ เพราะมีข้าราชการทุกประเภทที่ต้องรับเงินเดือน ตกเดือนละ 3.2 หมื่นล้านบาทเท่านั้น
แต่พอมาถึงสิ้นเดือนธันวาคม 2551 ปรากฏว่า มีเงินคงคลังเหลือเพียง 5.2 หมื่นล้านบาทเท่านั้น ผมไม่ได้ยกเมฆนะครับ คนบอกเรื่องนี้คือ คุณศุภรัตน์ ควัฒ์นกุล ปลัดกระทรวงการคลังครับ ได้ยินแล้วอยากจะร้องเลียนแบบยายแป้น บ้านท้ายตลาดว่า อกอีแป้นแตก ซะจริงๆ
เกิดอะไรขึ้นกับเงินคงคลังกันล่ะเนี่ย 3 เดือนจาก กันยา ตุลา ถึง ธันวา เงินคงคลังหายไปถึง 9 หมื่นล้านบาท เฉลี่ยเดือนละ 3 หมื่นล้านบาท พอๆ กับที่ต้องจ่ายเป็นเงินเดือนให้ข้าราชการเลยนะครับ เมื่อดูยอดเงินที่เหลือหลังจากจ่ายให้ข้าราชการในเดือนมกราคมอีก 3.2 หมื่นล้านบาท ก็เหลือ 2 หมื่นล้านบาทเท่านั้น
เป็นไปได้หรือ? ระหว่างว่างการมีรัฐบาลนี่ หน่วยงานของรัฐที่มีหน้าที่จัดเก็บภาษี เก็บเงินเข้าคลังกันไม่ได้เลย จึงต้องกินของเก่าอย่างเงินคงคลังจนเกือบเกลี้ยงลิ้นชัก เป็นไปได้ยังไงครับเนี่ยประเทศไทย
โอ้...หรือว่าจะถึงเวลา อกอีแป้นแตก จริงๆ เสียแล้วก็ไม่รู้ อะไรๆ มันจึงได้ประเดประดังเข้าใส่รัฐบาลประชาธิปัตย์ไม่ยั้งมืออย่างนี้
นายกฯ อภิสิทธิ์ครับ ผมขอร้องครับ หยุด ! เสียทีได้ไหม หยุดละเมอเพ้อพกกับการแก้ปัญหานานัปการที่ต้องใช้เงินเป็นเข่งอย่างมหาเศรษฐีโลก พูดง่ายๆ คือหยุดขี้ตามช้างเถอะครับ ท่านต้องไม่ลืมนะครับว่าบ้านเราพิมพ์แบงก์เองไม่ได้ หากหาเงินจากการค้าขายไม่ได้ ก็ต้องบากหน้าไปกู้เขาให้เป็นหนี้เป็นสินถึงลูกถึงหลานโน่น
กลับมาทบทวนถึงวิถีไทย ว่าปู่ย่าตายายของเราท่านอยู่กันมาอย่างไรดีไหม แม้จะไม่รวย แต่เราก็ไม่ถึงกับอดอยากไม่ใช่หรือ ผมอยากให้นายกฯ อภิสิทธิ์ หยุดบ้าตามกระแสโลกที่ผู้นำของแต่ละประเทศที่ต่างก็ทุ่มเทเงินงบประมาณเข้าแก้ปัญหาเศรษฐกิจกันอย่างเอาเป็นเอาตายครับ
เมื่อความจริงปรากฏว่า รัฐบาลกำลังนุ่งกางเกงตูดขาด ท่านก็ควรกล้าที่จะขอร้องให้ชาวบ้านร้านตลาดอยู่กันอย่างประหยัด ยึดพระราชดำรัสในหลวง ที่ทรงให้รู้จักพอเพียง คือทำพอกิน เหลือพอขายครับ ท่านต้องขอให้ชาวบ้านช่วยกันปัดกวาดบ้านเรือน ตรวจสอบให้ทั่วทั้งหลังว่ามีอะไรที่ควรเก็บไว้ใช้ประโยชน์ และมีอะไรที่ควรแก้ไขปรับปรุง หรือหากใช้ไม่ได้จริงๆ ก็เก็บขายซาเล้งซะ
อย่างห้องน้ำห้องส้วมที่คนเคยอาศัยก่อนหน้านี้ ทะลึ่งติดแอร์ ติดอ่างอาบน้ำวน ติดโคมระย้าซะหรูหรานั่น ถอดทิ้งได้ก็ควรถอดนะครับ เปลืองไฟโดยใช่เหตุ ของพรรค์นั้นมันเหมาะสำหรับพวกฉลาดแกมโกงใช้ครับ
ถึงตอนนี้ จำเป็นต้องแก้ผ้าเอาหน้ารอด ด้วยการกู้เงินต่างชาติมาซ่อมแซมบ้านเรือนก็เอาเถอะครับ ผมจะไม่ติไม่ติงไม่ทักท้วงแล้วล่ะ ขอเพียงแต่ว่าได้เงินมาแล้ว รัฐบาลต้องจ่ายในส่วนที่จำเป็นจริงๆ ก็แล้วกัน
นายกฯ อภิสิทธิ์ครับ มีพรรคพวกเคยกระซิบถามว่า ที่เขียนถึงท่านน่ะ คิดหรือว่าท่านนายกฯ จะมีเวลามานั่งอ่านคอลัมน์กระจิ๋วหลิวอย่างนี้ ผมตอบพรรคพวกไปว่า หากท่านไม่ได้อ่านด้วยตาตัวเอง สักวันก็คงได้กลิ่นบ้างหรอก ......
ผมกระซิบพรรคพวกว่า หากจำเป็นจริงๆ แม้จะต้องตัดคอลัมน์นี้เป็นแผ่นสีเหลี่ยมผืนผ้า เผา ไปให้ท่านอ่าน ผมก็ต้องทำครับ...ผมสาบาน !
ข่าวที่เกี่ยวข้อง