วธ.พบโบราณวัตถุเขมรชงครม.คืนประเทศเจ้าของก.พ.นี้

นายเกรียงไกรสัมปัชชลิต อธิบดีกรมศิลปากร กระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) เปิดเผยว่า จากการที่รัฐบาลของประเทศกัมพูชา ทำหนังสือขอคืนโบราณวัตถุประมาณ 10 ชิ้นมายังกรมศิลปากรนั้น ขณะนี้กรมศิลปากรได้ดำเนินการพิสูจน์เอกลักษณ์ของโบราณวัตถุตามที่กัมพูชาเรียกร้องแล้ว พบว่ามีโบราณวัตถุ 7 ชิ้นได้แก่ เศียรยักษ์ เศียรอสูร 6 ชิ้นและเศียรเทวดา 1 ชิ้นที่อยู่ในเกณฑ์จะต้องคืนให้แก่ทางกัมพูชา เนื่องจากมีหลักฐานค่อนข้างชัดเจนและมีเอกลักษณ์ว่าเป็นศิลปะเขมรแบบบายน ในสมัยพุทธศตวรรษที่ 18 ทำจากหินทรายทั้งนี้ เป็นของกลางที่กรมศุลกากรยึดมาได้จากการลักลอบนำเข้าประเทศไทยเมี่อปี 2543 และนำส่งให้กรมศิลปากรเก็บไว้ที่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติพระนครซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นประติมากรรมที่ประดับบนปราสาทขอม ไม่ว่าจะเป็น บันทายฉมาย ปราสาทพระขันธ์ พระนครที่อยู่ใกล้กับปราสาทนครวัด นายเกรียงไกรกล่าวต่อว่าสำหรับโบราณวัตถุ 7 ชิ้นกรมศิลปากรได้ทำรายงานสรุปเสนอต่อนายธีระ สลักเพชร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม เรียบร้อยแล้ว หลังจากนี้จะนำเสนอต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อให้พิจารณาว่า เห็นสมควรจะคืนโบราณวัตถุเหล่านี้ให้แก่กัมพูชาหรือไม่ ในวันที่ 3 กุมภาพันธ์นี้ ซึ่งการเตรียมนำโบราณวัตถุที่ได้พิสูจน์เอกลักษณ์แล้วส่งคืนให้ประเทศเจ้าของอย่างกัมพูชานั้น เป็นไปตามข้อตกลงระหว่างไทย-กัมพูชาเกี่ยวกับการส่งคืนโบราณวัตถุ ศิลปวัตถุ ที่ถูกลักลอบให้แก่ประเทศเจ้าของ หากคณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบให้ส่งโบราณวัตถุทั้ง7 ชิ้นคืนให้แก่กัมพูชา ทางกรมศิลปากรก็จะประสานไปยังกระทรวงการต่างประเทศ เพื่อให้ช่วยดำเนินการจัดส่งคืนให้แก่ประเทศเจ้าของ อย่างไรก็ตาม เมื่อประมาณ 5-6 ปีกัมพูชาได้ดำเนินการขอคืนโบราณวัตถุกว่าร้อยชิ้น เมื่อกรมศิลปากรดำเนินการพิสูจน์เอกลักษณ์ของโบราณวัตถุแล้ว ก็ได้จัดส่งคืนให้แก่ประเทศกัมพูชา ทั้งนี้ เป็นไปตามข้อตกลงที่ไทยและกัมพูชาทำร่วมกันไว้ อธิบดีกรมศิลปากร กล่าว