"เทือก"ยันปัญหา"วิฑูรย์"รอผลประชุมสส.พรรค3กพ.

(2ก.พ.) เวลา 09.00 น. นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ฝ่ายค้านระบุว่าจะยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลหากไม่มีหารปรับ ครม.ว่า การปรับ ครม.นั้นเป็นอำนาจของนายกรัฐมนตรี ซึ่งนายกฯได้บอกแล้วว่าขอเวลา 2-3 วัน เพื่อดูข้อมูลหลักฐานทั้งหมด ซึ่งคงต้องให้เวลานายกฯด้วย เพราะตอนนี้มีงานมากเหลือเกิน เมื่อถามว่า มีการมองว่าเรื่องดังกล่าวอาจส่งผลกระทบต่อเสถียรภาพของรัฐบาล นายสุเทพ กล่าวว่า คงไม่เป็นปัญหา ต้องรอให้นายกฯได้ดูรายละเอียดทุกอย่างก่อนที่จะมีคำวินิจฉัย ผู้สื่อข่าวถามถึงความชัดเจนกรณีข่าวการปรับนายวิฑูรย์ออกจากตำแหน่ง รมว.กระทรวงพัฒนาสังคมฯ นายสุเทพ กล่าวว่า ไม่ทราบว่าข่าวมาจากไหน เพราะยังไม่ได้ประชุมกรรมการบริหารพรรค หรือ ส.ส.ของพรรค ซึ่งจะมีการประชุม ส.ส.ของพรรคในช่วงบ่ายวันอังคารที่ 3 ก.พ.นี้ ผู้สื่อข่าวถามว่า นายบัญญัติ บรรทัดฐาน กรรมการที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ ระบุว่า การทบทวนตัวเองเป็นเรื่องที่สำคัญของนักการเมือง หากถูกวิจารณ์มากๆ นายสุเทพ กล่าวว่า เป็นทัศนะและเป็นแนวความคิด ซึ่งทุกคนมีสิทธิเสนอแนวความคิด ดังนั้นนายวิฑูรย์ควรรับฟังแนวความคิดของฝ่ายต่างๆและประเมินดู เมื่อถามว่า ปัญหาของนายวิฑูรย์ถือเป็นปัญหาของพรรคประชาธิปัตย์ หรือ ในรัฐบาลหรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า ไม่ถึงขนาดกับว่าจะเป็นปัญหาในพรรค หรือ เป็นปัญหาของรัฐบาล แต่เป็นเรื่องที่ต้องแก้ไข เมื่อถามว่า พรรคภูมิใจไทยพยายามกดดันเพื่อไม่ให้มีการปรับนายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ รมช.มหาดไทยออกจากตำแหน่ง แต่ถ้านายวิฑูรย์แสดงสปิริตออกแล้วนายบุญจงยังนิ่งเฉยจะกลายเป็นสองมาตรฐานหรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า อย่าคิดไปเร็วขนาดนั้น เพราะยังไม่มีกรณีที่นายวิฑูรย์ตัดสินใจทำอะไร หรือกรณีนายกฯตัดสินใจอะไรเกี่ยวกับนายวิฑูรย์ ดังนั้นจะบอกว่ากรณีของนายวิฑูรย์จะไปกดดันกรณีของนายบุญจงคงไม่ใช่ และยังไม่มีเรื่องที่แสดงให้เห็นว่าพรรคภูมิใจไทยมากดดันรัฐบาลเกี่ยวกับกรณีนายบุญจงแต่อย่างใด เมื่อถามว่า จะเป็นการสวนทางกับที่นายกฯที่ไปยืนยันกับต่างชาติว่าสถานการณ์ประเทศไทยกำลังไปด้วยดี แต่ภายในรัฐบาลกำลังวุ่นวาย นายสุเทพ กล่าวว่า ความจริงภายในรัฐบาลไม่มีอะไรวุ่นวาย เพียงแต่มีปัญหาที่เกิดประเด็นและเป็นที่สนใจของฝ่ายต่างๆ ซึ่งเราต้องสะสางเท่านั้นเอง เมื่อถามถึงกรณีแจกปลากระป๋องเน่า ทำไมจึงไม่มีการชี้แจงข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นได้ นายสุเทพ กล่าวว่า เป็นช่วงเวลาที่ได้ขอให้นายวิฑูรย์ไปรวบรวมหลักฐาน เอกสาร ข้อเท็จจริงต่างๆมาเสนอ เพื่อให้ผู้มีอำนาจวินิจฉัย ถือว่าไม่ล่าช้าเท่าไรนัก ภายใน 2-3 วันนี้ก็จะชัดเจน ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่กลุ่มเสื้อแดงวิจารณ์ว่านายกษิต ภิรมย์ รมว.การต่างประเทศมีประวัติมัวหมองไม่สมควรเป็นรัฐมนตรี นายสุเทพ กล่าวว่า คำว่าประวัติมัวหมอง สำหรับคนที่จะเป็นรัฐมนตรีนั้นหมายถึงความมัวหมองในการปฏิบัติราชการ ส่วนกรณีของนายกษิต ไม่มีอะไรที่เป็นความมัวหมองในการปฏิบัติราชการ หรือ การทำหน้าที่เพื่อส่วนรวม เมื่อถามว่า แต่ได้ไปร่วมชุมนุมกับกลุ่มพันธมิตรและขึ้นเวทีปราศรัยที่สนามบินสุวรรณภูมิ ซึ่งไม่เป็นที่ยอมรับของหลายฝ่าย นายสุเทพ กล่าวว่า ไม่ว่าจะขึ้นเวทีไหนก็แล้วแต่จะเป็นการพูดจากันไปตามความเชื่อ ตามความคิดของแต่ละคน พวกตนก่อนที่จะมาเป็น ส.ส.ก็ขึ้นเวทีปราศรัยกันมามากมาย เป็นเรื่องปกติ เมื่อถามว่า แสดงความรัฐบาลไม่แคร์เรื่องนี้ นายสุเทพ กล่าวว่า รัฐบาลไม่ได้เอามาเป็นประเด็นสำคัญในการพิจารณา ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่พบว่านายสุเทพเองเคยไปช่วย อบจ.สุราษฎร์ธานีหาเสียง นายสุเทพ กล่าวว่า ตนยืนยันว่าตนไม่ได้มีเรื่องเพราะไปช่วยหาเสียง เพราะตนไม่ได้ไปช่วยหาเสียง แต่ตนไปงานสงกรานต์ ไปทำบุญ ตักบาตร รดน้ำดำหัวผู้ใหญ่ตามประเพณี และหากเห็นว่าการที่ตนไปทำอย่างนั้นมีผลต่อการเลือกตั้งท้องถิ่นเขาจึงให้ใบเหลืองนายกฯอบจ.ซึ่งต้องไปพิสูจน์กันที่ศาลว่าการที่ตนไปทำกิจกรรมตามประเพณีนั้นเป็นเรื่องที่เข้าข่ายกฎหมายกำหนด หรือไม่ แต่ตนมองว่ากฎหมายกำหนดเอาไว้ว่า ห้ามมิให้กระทำการใดที่ผิดกฎหมาย เช่น ซื้อเสียง แจกเงิน หรือกระทำทุจริต แต่ตนไม่ได้กระทำใดที่ทุจริตแต่อย่างใด เมื่อถามว่า ขณะนี้มีความพยายามเอาผิดคนในรัฐบาลด้วยกฎหมายเลือกตั้งมาตรา 266 มองว่าเป็นเรื่องผิดปกติหรือมีกระบวนการใดหรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า ตนไม่มองอะไรมาก เป็นคนไม่คิดมาก หากมีกรณีคงต้องพิสูจน์กันเพราะเรามีกระบวนการยุติธรรม เราต้องเชื่อในกระบวนการยุติธรรม เมื่อถามว่าน่าสงสัยหรือไม่ว่าเรื่อง อบจ.สุราษฎร์ถูกตั้งข้อสังเกตโดยคนใน กกต.จะมีการสอบถามเรื่องดังกล่าวหรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า ไม่สอบถาม ไม่คุย หน้าที่ของ กกต.ท่านก็ทำหน้าที่ไป หากคิดว่าทำถูกต้องเหมาะสมแล้วก็ทำไป เมื่อถามว่า คิดว่าจะตายน้ำตื้นหรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า หากศาลวินิจฉัยว่าผิดตนก็ต้องรับผิด เมื่อถามว่า คิดว่าจะเชื่อมโยงถึงการยุบพรรคประชาธิปัตย์ได้หรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า กรณีนี้ไม่มีเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการโยงไปถึงการยุบพรรคได้ เพราะกฎหมายไม่ได้บัญญัติไว้อย่างนั้น แต่กฎหมายบัญญัติเฉพาะกรณีการเลือกตั้งส.ส. เมื่อถามว่า หากเห็นว่ามาตรา 266 มีปัญหาจะต้องแก้ไขรัฐธรรมนูญหรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า เรื่องนี้ตนยังไม่มีความเห็น ตนจะไปแก้รัฐธรรมนูญ เพราะเห็นว่ากฎหมายมีผลกับชีวิตตนมันคงเกินไป ต้องว่ากันไปตามมาตรฐานทั่วไป ซึ่งมีกรรมการพิจารณาอยู่ว่าข้อไหนดี ไม่ดี ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่กลุ่มเสื้อแดงเรียกร้องและให้ปฏิบัติภายใน 15 วัน จะพิจารณาอย่างไร ทำได้หรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า ยังไม่ได้หารือกันในภาพรวม แต่ตนเห็นว่าบางเรื่อง อย่างกรณีดำเนินคดีกับผู้กระทำผิดกฎหมายนั้นดำเนินการอยู่แล้ว แต่เรื่องอื่นๆคงทำไม่ได้ เรื่องยุบสภานั้นก็ไม่มีทาง เพราะกำลังแก้ไขปัญหาบ้านเมืองอยู่แล้วจะไปทำให้สะดุดหยุดลงทำไม แต่อย่างไรก็ตามรัฐบาลไม่ได้ประมาท ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีว่ามีความกังวลต่อกรณีที่นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ส.ว.สรรหา ยื่นป.ป.ช.ตรวจสอบกรณี 3 รัฐมนตรีที่ลงมติรับร่างพ.ร.บ.งบประมาณขัดกฎหมาย หรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า นายเรืองไกรทำหน้าที่ของเขา ส่วนผู้มีหน้าที่ตีความ ตรวจสอบ วินิจฉัยก็ดำเนินการไป เพื่อจะได้เป็นบรรทัดฐาน ตนเข้าใจว่ารัฐบาลมีข้อมูลข้อเท็จจริงที่จะไปชี้แจง อย่างไรก็ตามรัฐธรรมนูญห้ามไว้ว่าคนที่เป็นรัฐมนตรี และ ส.ส.ในขณะเดียวกันจะไปยกมือในเรื่องที่เกี่ยวกับตัวเอง เช่น กรณีถูกอภิปรายไม่ไว้วางใจ อย่างนั้นรัฐธรรมนูญห้ามไม่ให้ทำ แต่การที่รัฐมนตรีทั้ง 3 คน ลงมตินั้นเป็นเรื่องของงบประมาณแผ่นดินที่จะนำมาช่วยประชาชน ไม่ได้มาช่วยรัฐมนตรี และความจริงงบฯที่ผ่านนั้นไม่ได้เกี่ยวกับกระทรวงของรัฐมนตรีที่ลงคะแนนเสียด้วยซ้ำไป ตนไม่คิดว่าจะเป็นปัญหา แต่ขออภัยหากความเห็นของตนจะไปล่วงล้ำหน้าที่ของผู้มีสิทธิตีความ