ศรัทธาสายมู

เปิดตำนาน เทศกาลกินเจ รู้จักที่มาที่ไป ก่อนเริ่มงาน 15 - 23 ตุลาคมนี้

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

เปิดตำนานความเชื่อ เทศกาลกินเจ วัฒนธรรมถือศีลกินผักของชาวจีน จุดเริ่มต้นที่มาที่ไป และเหตุผลที่กลายเป็นเทศกาล

หากกล่าวถึง เทศกาลกินเจ แล้วนั้น ผู้คนส่วนใหญ่ย่อมรู้จักกันเป็นอย่างดีโดยเฉพาะในทุกๆปีนั้นครั้นล่วงใกล้เข้าสู่วันงานมงคลนี้แล้วก็จะได้เห็นว่าบรรดาร้านค้าตลาดบ้านเรือนต่างๆมักจะมีความคึกคักเศรษฐกิจดีขึ้นเป็นพิเศษ เนื่องจากว่ามีการจับจ่ายซื้อของกิน ของใช้กันมากกว่าปกติ นอกเหนือจากเทศกาลสำคัญๆอื่นของคนไทยเชื้อสายจีนเช่นวันตรุษจีนโดย เทศกาลกินเจ นั้น หากย้อนกลับไปดูแล้วมีมาตั้งแต่โบราณกาลซึ่งชาวจีนและยึดถือปฏิบัติเป็นประเพณีอันดีงามสืบต่อกันมาอย่างช้านาน ซึ่งจะเริ่มขึ้นตั้งแต่ 1 ค่ำถึง 9 ค่ำเดือน 9 นับตามปฏิทินจีน ก็จะตรงกับเดือนตุลาคมของไทยเราในทุกปี ซึ่งถือเป็นบุญใหญ่อานิสงส์สูงหนุนดวงชะตาสุขภาพดี ร่ำรวย ตามตำนานโบราณนั้นได้เล่าเอาไว้ว่า เมื่อท่านเล่าจื๊อศาสดาแห่งลัทธิเต๋า ได้ถือพรต หรือศีลของนักบวช ของลัทธิเต๋า จึงกำเนิดการกินเจขึ้น  เมื่อก่อนนั้นการกินเจ ไม่มีการกำหนดว่าจะกินกันเมื่อไหร่ แต่ถือเอาความสะดวกของผู้กินเป็นหลัก แต่ส่วนใหญ่ผู้คนนิยมกินเจ ในช่วงไว้ทุกข์

เปิดตำนาน เทศกาลกินเจ รู้จักที่มาที่ไป ก่อนเริ่มงาน 15 - 23 ตุลาคมนี้

ทั้งนี้เพื่อเป็นการปฏิบัติตนในทางที่ดีงาม เพื่ออุทิศส่วนกุศลให้กับผู้ที่ล่วงลับไปแล้ว ครั้นต่อมา เมื่อเกิดกบฏไท้เผ้ง ซึ่งชาวจีนได้รวมตัวกันเพื่อต่อต้านและหวังกอบกู้แผ่นดินจากพวกแมนจู ผู้ก่อการกบฏถูกจับประหารชีวิตหลายคน ยังความเศร้าโศกเสียใจให้กับผู้คนจำนวนมาก ชาวจีนจึงร่วมการปฏิบัติธรรมโดยการกินเจ และถือศีล เพื่ออุทิศส่วนกุศลให้กับผู้ถูกประหารเหล่านั้น ด้วยเหตุนี้เอง การกินเจจึงถูกกำหนดให้เป็นเทศกาลตั้งแต่นั้นมา

เมื่อถึงเทศกาลกินเจ ชาวจีนจะรวมกันถือวัตรปฏิบัติดังนี้ คือ นุ่งขาวห่มขาวเพื่อแสดงถึงการตัดกิเลสจากโลกภายนอก งดเว้นการบริโภคเนื้อสัตว์ ไม่เบียดเบียนชีวิตสัตว์ในทุกกรณี รวมทั้งน้ำนมและน้ำมันที่ทำจากสัตว์ด้วย ตลอดจนงดเว้นผักที่มีกลิ่นแรงต่างๆเช่น ผักชี กระเทียม หัวหอม ต้นหอม กุยช่าย เพราะผักเหล่านี้ เป็นผักที่มีรสหนัก กลิ่นรุนแรง นอกจากนี้ยังให้โทษทำลายพลังธาตุในร่างกาย เป็นเหตุให้อวัยวะหลักสำคัญภายในทั้ง 5 ทำงานไม่ปกติ การถือศีลอย่างเคร่งครัด การทำบุญให้ทานในรูปแบบต่างๆ โดยมีกำหนดถึง 9 วัน อีกทั้งยังมีงานกุศลต่างๆ ที่มีการจัดขึ้นในช่วงเทศกาลนี้ด้วย เช่น การทิ้งกระจาด การลอยกระทง

เมื่อกล่าวถึงตำนานเทศกาลกินเจ ในเบื้องต้นแล้วแน่นอนว่า เรื่องหนึ่งซึ่งไม่อาจพลาดนั่นก็คือต้นกำเนิดเทศกาลกินเจของไทยเรา ซึ่งมีคนไทยเชื้อสายจีนจำนวนมาก ตามเมืองต่างๆ การย่างเข้าสู่เดือน 9 ของทุกปีจะเห็นได้ว่าร้านอาหารทั่วไป มักจะมีการปรับธงสีเหลืองเต็มไปหมดซึ่งธง เจ นั้นมีอักษรสีแดงอยู่บนพื้นเหลืองเขียนข้อความสั้นๆว่า โจหรือเจ มีความหมายว่าข องไม่มีคาว อันสีแดงนั้นสื่อความหมายเพื่อเป็นตัวแทนความเป็นสิริมงคลในชีวิต ส่วนสีเหลืองสื่อถึงสีของพระพุทธศาสนา หรือ ผู้ทรงศีล 

ธงเจนอกจากจะเป็นสัญลักษณ์ของอาหารเจแล้ว ยังเป็นเครื่องเตือนใจให้พุทธศาสนิกชนที่ปฏิบัติตนถือศีลกินเจ ได้ตระหนักถึงการไม่เบียดเบียนชีวิตสัตว์และการตั้งอยู่ในศีลตลอดช่วงระยะเวลา 9 วัน 9 คืนซึ่งนี่คือสัญลักษณ์แห่งการเข้าสู่เทศกาลกินเจของคนจีนที่ปวารณาตนตั้งจิตมุ่งมั่นที่จะงดอาหารที่มีเนื้อสัตว์พร้อมทั้งถือศีลทำบุญให้ทานเป็นระยะเวลานานต่อเนื่องถึง 9 วันเพื่อเป็นการชำระร่างกายและจิตใจให้บริสุทธิ์ โดยประเพณีการกินเจในพระพุทธศาสนาฝ่ายมหายาน ที่ปฏิบัติสืบต่อกันมาของชาวจีนในประเทศไทยนั้น เชื่อว่าเป็นการประกอบพิธีกรรมเพื่อสักการะบูชาพระพุทธเจ้าในอดีตกาล 7 พระองค์และพระมหาโพธิสัตว์อีก 2 พระองค์ รวมเป็น 9 พระองค์ด้วยกันหรืออีกนัยหนึ่งเรียกว่าดาวนพเคราะห์ทั้ง 9 โดยผู้คนได้ถวายพระนามแห่งการกินเจทั้ง 9 พระองค์ว่า กิ้วอ๊วงฮุนข้า 

ซึ่งในพิธีกรรมสักการะบูชานั้นผู้คนต่างร่วมกัน สละเวลาจากกิจทางโลก มาบำเพ็ญเพียรบารมี รักษาศีลกินเจ ซึ่งในช่วงโอกาสอันเป็นมงคลผู้คนต่างเชื่อกันว่า ถ้าใครได้ตั้งมั่นถือศีลกินเจ พร้อมตั้งจิตอธิษฐานขอพรอันใดไว้ ก็จะประสบผลสมหวังดังที่ใจปรารถนาเอาไว้ และนอกจากนี้คนที่กินเจยังนิยมไปไหว้เจ้าตามศาลเจ้าต่างๆ เพื่อขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์ให้ท่านได้ปกป้องรักษาคุ้มครองตนเอง และครอบครัว ให้อยู่ดีมีความสุขสงบร่มเย็น มีความเจริญก้าวหน้า ในชีวิต หน้าที่การงาน
 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ