ศรัทธาสายมู

เปิด 8 ทริค การไหว้สักการะ ศาลพระภูมิ อย่างไรให้ปัง

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

เปิดข้อมูล 8 ทริค ที่สายมู ควรรู้ไว้ ในการไหว้ขอพรสักการะบูชา ศาลพระภูมิ ให้ได้ผลและถูกต้องตามหลัก ตามธรรมเนียม

หนึ่งในความเชื่อความศรัทธา ตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบัน ก่รตั้งศาลพระภูมิเป็นหนึ่งในสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ที่จะตั้งบูชาเพื่อปกป้องคุ้มครองบ้านเรือนสถานที่ เพื่อความสงบ ร่มเย็น ภายในบ้าน นอกจากนี้ยังเชื่อว่าสามารถช่วยในเรื่องโชคลาภ บารมี ความรัก และการงาน 

แฟนเพจ แซกี-เจ่าอุ่ง เสริมดวง สวนหินโป๊ยเซียน อ.ด่านช้าง จ.สุพรรณบุรี ได้แนะนำข้อมูล 8 ข้อ เกี่ยวกับการตั้งศาลพระภูมิให้เหมาะสม มีอะไรบ้าง 

เปิด 8 ทริค การไหว้สักการะ ศาลพระภูมิ อย่างไรให้ปัง
1. การตั้งศาล

การตั้งศาลพระภูมิอย่างถูกต้องนั้นมีหลากหลายปัจจัยเข้ามาเกี่ยวข้อง การตั้งในแต่ละครั้งจึงจำเป็นต้องศึกษาข้อมูลให้ดีพร้อม เพื่อให้ได้สิ่งดี ๆ เข้ามาภายในบ้านและเกิดมงคลกับตัวเจ้าของบ้านเอง แต่หากตั้งผิดก็จะส่งผลเสียต่อผู้อยู่อาศัยได้ และการปรับปรุงแก้ใหม่อาจเป็นเรื่องยากและเสียเงินมาก โดยการตั้งศาลจะแบ่งออกได้ 2 ส่วนด้วยกันดังนี้
จุดที่ตั้ง ควรตั้งบนพื้นดิน แต่ต้องสูงกว่าตัวบ้าน หรือสร้างพื้นยกที่ตั้งศาลขึ้นมา 1 คืบ (0.25 เมตร) และทิ้งระยะห่างระหว่างศาลพระภูมิกับกำแพงบ้านอย่างน้อย 1 เมตร อย่าตั้งศาลในจุดอับ มีเงาจากตัวบ้านมาบดบัง ในกรณีบ้านที่มีพื้นที่น้อยก็สามารถนำไปตั้งไว้บนชั้นดาดฟ้าได้ สามารถตั้งศาลพระภูมิคู่กับศาลเจ้าที่หรือศาลอื่นได้

ทิศทาง อาจารย์สุรัฐพงษ์ สุวรรณรัตน์ อดีตนายกสมาคมโหรแห่งประเทศไทยในพระบรมราชินูปถัมน์ ได้กล่าวไว้ว่า 

ทิศทางหรือชัยภูมินั้นต้องดูทุกหน้าของศาลให้ดี อย่าให้มี ตึก วัด เสาไฟ หรืออะไรมากั้น หรือให้ดูว่ามีแม่น้ำหรือบ่อน้ำอยู่ด้านไหนให้หันไปยังด้านนั้น 

เพื่อช่วยให้เกิดโชคลาภ ในส่วนทิศทางตามหลักฮวงจุ้ยจะมีการเปลี่ยนแปลงทิศของศาลในทุก 20 ปี โดยตอนนี้ทิศตะวันออกเฉียงเหนือที่ 120 องศา และทิศตะวันออกเฉียงเหนือ 300 องศาจะดีที่สุด ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือและตะวันตกเฉียงใต้รองลงมา หากทำไม่ได้ให้ยึดทิศเหนือ ใต้ ออก และตกก็ได้ สำหรับศาลพระภูมิที่ตั้งมาก่อนนานแล้ว และยังส่งผลดีอยู่ก็ไม่ต้องปรับเปลี่ยนอะไรเพิ่ม

เปิด 8 ทริค การไหว้สักการะ ศาลพระภูมิ อย่างไรให้ปัง
2. ไหว้ศาลพระภูมิใช้ธูปกี่ดอก
     การไหว้ศาลพระภูมิหรือพระชัยมงคลนั้น นิยมสักการะทุกเช้าก่อนเดินทางออกจากบ้าน เพื่อขอพรและเป็นสิริมงคลให้กับตนเอง อีกทั้งขอท่านช่วยปกป้องรักษาบ้านเรือน โดยการไหว้ศาลพระภูมิใช้ธูปบูชาทั้งหมด 5 ดอก (สามารถใช้ธูป 3, 5 หรือ 9 ดอกก็ได้ตามที่เจ้าบ้านนับถือ) เทียน ดอกไม้สดหรือพวงมาลัยสด และถวายน้ำเปล่า หลังจากสวดมนต์เสร็จสิ้นเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ให้ถวายอาหารคาว และอาหารหวาน หรือผลไม้ สามารถถวายผลัดเปลี่ยนกันได้ทุกสัปดาห์ หากไม่สะดวกก็สามารถทำเดือนละ 2 ครั้งได้เช่นกัน หลังจากเสร็จพิธีให้ทำความสะอาดบริเวณศาลพระภูมิและบริเวณโดยรอบ เพื่อให้พื้นที่น่ามอง เป็นสิริมงคลต่อตนเอง

เปิด 8 ทริค การไหว้สักการะ ศาลพระภูมิ อย่างไรให้ปัง
3. ของคาว
การถวายของคาวนั้น นิยมถวายเนื้อสัตว์ อาทิ หัวหมู ไก่ เป็ด ปลานึ่ง กุ้ง และปู เป็นต้น โดยสามารถได้เป็นทั้งตัวหรือบางชิ้นตามงบประมาณของเจ้าบ้าน ก่อรถวายให้ทำการล้างทำความสะอาดเหมือนเตรียมวัตถุดิบไว้ทำอาหารบนจาน และจัดวางให้สวยงาม นอกจากนี้ยังสามารถวางเครื่องดื่มอย่างอื่นเพิ่มเติม ได้แก่ เหล้า น้ำชา น้ำอัดลม และน้ำเปล่า 
 

อย่างไรก็ตาม พระมหาสมชาย ฐานวุฑโฒ ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย ด้านการศึกษาและการเผยแผ่ กล่าวไว้ว่า เครื่องเซ่นไหว้ศาล พระภูมิเจ้าที่ หมู เห็ด เป็ด ไก่ จริง ๆ คนที่ได้รับก็คือ ผีเร่ร่อนแถวนั้น โดยมากินโอชะที่เป็นของละเอียด เหลือเพียงส่วนของหยาบที่เป็นวัตถุดิบตรงหน้า วิธีส่งให้ทางนั้นได้รับจริง คือการสร้างบุญแล้วนึกอุทิศส่วนกุศลไปให้ท่าน

เปิด 8 ทริค การไหว้สักการะ ศาลพระภูมิ อย่างไรให้ปัง
4. ของหวาน
ของหวานมักใช้เป็นเครื่องเคียงของคาว ดั่งในอดีตการทานคาวแล้วต้องจบด้วยการทานหวานเพื่อกลบกลิ่น หรืออีกในหนึ่งเป็นการบอกถึงฐานะที่ดี ขนมเหล่านี้มักมีการตกแต่งสวยงาม ให้ความหมายดี และสามารถใช้เป็นสังเวยมังสวิรัติแทนของคาวได้ในบางกรณี ได้แก่ ทองหยิบ ที่สื่อถึงความรุ่งเรือง, ทองหยอด ให้ร่ำรวยเงิน, ฝอยทอง เสริมความรักที่ยาวนาน, ขนมเม็ดขนุน และขนมชั้น ช่วยทางด้านการงานหรือเรื่องการใช้ชีวิต, และขนมถ้วยฟู ให้มีความเจริญรุ่งเรือง เฟื่องฟู รุ่งโรจน์ มีความเจริญก้าวหน้า นอกจากนี้ยังถวาย ขนมเสน่ห์จันทน์ ขนมจ่ามงกุฎ และขนมทองเอก ได้อีกด้วย
5. ผลไม้มงคล
การถวายผลไม้ให้ศาล นิยมเลือกผลไม้ที่มีความหมายอันดี โดยมักตีความมาจากลักษณะการกำเนิด เติบโต และผลที่ได้ออกมา หรือยึดหลักตามความเชื่อต่าง ๆ สำหรับผลไม้ที่นิยมนำมาไหว้ศาลพระภูมิมักเป็นลูกขนาดเล็ก หาซื้อง่าย ได้แก่ ส้ม มีความหมายเรื่องความร่ำรวยเงิน, สาลี่ ที่ช่วยให้เงินทองไหลมาไม่ขาดมือ, ทับทิม จะทำให้ครอบครัวอยู่ด้วยกันอย่างมีความสุข, แอปเปิล ช่วยไล่โรคร้ายออกไป ให้สุขภาพดี, องุ่น เสริมเจริญก้าวหน้าเรื่องการงาน, กล้วยหอม ให้มีลูกมีหลาน, สับปะรด มองการณ์ไกล, แก้วมังกร, และลิ้นจี่ ส่วนจำนวนที่เหมาะสมคือ 5 ลูก หรืออาจน้อยกว่านั้นตามความสะดวกของผู้ถวายเอง
6. ของที่ไม่ควรนำมาไหว้

มีหลักการง่าย ๆ คล้ายกับการนำของไปเยี่ยม หรือฝากในงานมงคลต่าง ๆ เช่น งานแต่งงาน งานบุญ หรืองานบวช โดยของเหล่านั้นต้องมีคุณภาพ สวยงาม มีความหมายดี และที่สำคัญสามารถนำมารับประทานได้ ด้วยเหตุนี้มักเป็นผลไม้ที่เป็นปัญหาบ่อยครั้ง และทำให้ส่งผลเสียต่อผู้ให้ คือ ละมุด เชื่อว่าทำอะไรมักไม่โดดเด่น, มังคุด ทำอะไรไม่ดีเท่าที่ควร, พุทรา ทำอะไรแค่ประเดี๋ยวประด๋าว มะเฟือง มักฝืดเคือง, น้อยหน่า มักมีปัญหาอุปสรรค, น้อยโหน่ง ทำแล้วไม่สมบูรณ์ หรือผลไม้อื่นๆ เช่น มะตูม ลูกท้อ ระกำ กระท้อน เป็นต้น
7. คําไหว้ศาลพระภูมิหรือคาถาไหว้ศาลพระภูมิ
     จากพิธีพราหมณ์ระบุการบูชาศาลพระภูมิให้เริ่มจาก จุดธูป 9 ดอก แล้วตั้งสมาธิจึงพนมมือ และสวดมนต์นำด้วยบทนะโม เพื่อระลึกถึงพระพุทธ พระธรรม และพระสงฆ์ ตามด้วยบทสักการะศาลพระภูมิ และจบด้วยคำแปล โดยมีบทสวดว่า นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุท ธัสสะ (3 ครั้ง) ภูมมัสมิง ทิสาภาเค สันติภูมมา มหิทธิกา เตปิตุมเห อนุรักขันตุ อาโรคเยนะ สุเขนะจะ (3 จบ) สิโรเม ขอเดชะพระภูมิเทวารักษาที่  รับพระพรจากเจ้ากรุงพาลี ให้วัฒนาถาวรสิ่งสุขแด่ข้าพเจ้า ขอให้ข้าพเจ้า (……….ทำการอธิษฐาน……) มั่งมีเงินทองและทรัพย์พัสดุข้าวของเนืองนอง  โสตถิ ชัยยะ ภะวันตุ เม

8. การไหว้สักการะองค์พระชัยมงคลเจ้าหรือศาลพระภูมิ

ควรทำทุกวันพระ วันอังคาร วันเสาร์ หรือวันสำคัญต่าง ๆ เช่น วันเกิดของตน วันนักขัตฤกษ์ ทั้งนี้ศาลพระภูมิหรือองค์พระชัยมงคลเจ้า ท่านมีทหารเอก 3 นาย นามว่า นายหลวง นายขุน และนายหมื่น เวลานำสิ่งของไปถวายให้องค์พระชัยมงคลเจ้า ควรบอกนามนายทหารเอก 3 นามให้ช่วยยกไปถวายท่านด้วย

logoline