ไพศาล พืชมงคล แนะวิธี ส่องพระเครื่อง " พระสมเด็จ " ของแท้ หรือ ของปลอม

นายไพศาล พืชมงคล กรรมการผู้ช่วยรองนายกรัฐมนตรี(พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ) อุปนายกและเลขาธิการสมาคมวัฒนธรรมและเศรษฐกิจไทย-จีน ได้โพสต์ในแฟนเพจส่วนตัว แนะนำการส่อง พระสมเด็จ รวมทั้งวิธีการตรวจสอบ เพื่อให้รู้ว่า องค์ไหน ของแท้ หรือ ของปลอม โดยเนื้อหาระบุว่า 

การตรวจสอบพระสมเด็จ

1. ในวงการพุทธพาณิชย์ปัจจุบันมีบริการตรวจสอบพระสมเด็จว่าแท้หรือเทียมประการใด โดยคิดค่าบริการการตรวจและมีการออกใบรับรองให้ด้วย
นอกจากนั้นในวงการเซียนพระ ก็จะมีการตรวจดูพระสมเด็จว่าแท้หรือไม่แท้ แล้วตัดสินไปตามความเห็นของผู้ตรวจ
ผู้ตรวจทั้งหมดนั้นเป็นผู้ที่เกิดไม่ทันยุคสมัยของเจ้าประคุณสมเด็จทั้งสิ้น จึงมีฐานะเป็นเพียงความเห็นของคนรุ่นหลัง
วิธีการตรวจในปัจจุบันนี้มี3วิธีคือ ตรวจจากรูปแบบพระ ตรวจจากมวลสาร และอ้างว่าตรวจจากพุทธคุณในองค์พระ
ผลจากการตรวจสอบนั้น ก็ก่อให้เกิดปัญหาวิวาท และความเสียหาย ตลอดจนข้อพิพาทมากมายหลายกรณีอย่างต่อเนื่อง
จึงสมควรทำความเข้าใจเรื่องนี้สักครั้ง!!!!

2. การตรวจสอบรูปแบบ เกือบทั้งหมดเป็นการตรวจสอบพระสมเด็จแบบงานราษฎร์ ว่าเป็นรูปแบบเดียวกับพระสมเด็จที่เจ้าประคุณสมเด็จเคยสร้างและถือจากแบบที่เชื่อว่าเป็นของแท้
โดยรวมก็คือเป็นรูปแบบทรงระฆัง เป็นพระฐาน 3 ชั้น 5 ชั้น 7 ชั้นหรือ 9 ชั้น รูปลักษณะเป็นแบบพระประธานวัดระฆังหรือแบบอื่นที่เคยสร้าง

การตรวจสอบโดยรูปแบบนี้ก็จะออกความเห็นว่าเป็นแบบที่ใช่หรือไม่ ซึ่งก็เป็นความเห็นเท่านั้น
ในปัจจุบันนี้สามารถใช้ระบบคอมพิวเตอร์ในการออกแบบหรือทำแบบให้เหมือนอะไรอย่างไรก็ได้

ดังนั้นการใช้คอมพิวเตอร์ออกแบบหรือทำแบบพระสมเด็จวัดระฆังจึงง่ายดายยิ่งนัก และไม่มีทางที่จะตรวจสอบได้ว่าไม่เหมือน
3. การตรวจสอบมวลสาร
มีทั้งการตรวจสอบด้วยสายตาและระบบเทคโนโลยี ซึ่งจะตรวจสอบ 2 ประการคือ
~มีมวลสารแบบเดียวกันกับพระสมเด็จที่ถือว่าเป็นของแท้หรือไม่ และ
~มีมวลสารที่มีอายุในช่วงเวลาเดียวกันกับที่เจ้าประคุณสมเด็จสร้างพระหรือไม่ แล้วออกความเห็นว่าเป็นของแท้ใช่หรือไม่
การตรวจสอบด้วยสายตาเพื่อออกความเห็นนั้น ใคร่เล่าจะประกันได้ว่าถูกต้องเที่ยงแท้เสมอไป ยิ่งถ้าหากมีเถยจิตเป็นเชิงพาณิชย์ด้วยแล้ว อาจเบี่ยงเบนไปจากความเป็นจริงได้ง่าย หรือตามอำเภอใจ
ส่วนการตรวจสอบด้วยระบบคอมพิวเตอร์หรือเครื่องมือด้วยเทคโนโลยีนั้น ก็เพื่อทราบว่ามีมวลสารแบบเดียวกันว่าเป็นของแท้หรือไม่ และอายุของมวลสารนั้นเป็นช่วงเวลาเดียวกับที่เจ้าประคุณทำพระสมเด็จหรือไม่ ถ้าสอดคล้องกันจะออกผลว่าเป็นของแท้
ในปัจจุบันนี้เป็นเรื่องง่ายมากที่จะทำให้มวลสารมีลักษณะอย่างเดียวกันกับพระสมเด็จที่เป็นของแท้ เพราะสามารถใช้เครื่องมือสังเคราะห์ได้ว่ามีมวลสารอะไรบ้างและสามารถหามวลสารที่มีอายุเวลาช่วงเดียวกันกับช่วงเวลาที่ทำพระสมเด็จได้ ถึงขนาดมีการซื้อหาพระสมเด็จของแท้ที่แตกหักชำรุดแล้วเอามาบดทำขึ้นใหม่ก็ยังมี และมีการทำแบบนี้กันจำนวนมาก
ทำแล้วก็ไปตีพิมพ์เป็นหนังสือเผยแพร่อ้างว่าเป็นของแท้ ผู้ที่หลงเชื่อก็ไปแสวงหาว่าใครหนอเป็นผู้ครอบครองก็จะหาเช่าในราคาแพงลิบลิ่ว
3. การตรวจสอบพระพุทธคุณ
ขณะนี้มีการอ้างกันมากว่าพระสมเด็จองค์นี้มีพุทธคุณ องค์นั้นไม่มีพุทธคุณ

ซึ่งอาจสังเกตได้ว่า ถ้าเป็นพระของเซียนพระ ก็จะอ้างว่ามีพระพุทธคุณ ถ้าเป็นของคนอื่นก็บอกว่าไม่มีพุทธคุณ ซึ่งต้องพิจารณาว่าใครเป็นผู้ตรวจพุทธคุณและตรวจพุทธคุณด้วยวิธีใด

ในเรื่องนี้ต้องทำความเข้าใจก่อนว่าพิธีการปลุกเสกพระสมเด็จ ซึ่งมีพระคาถาชินบัญชรเป็นหลักนั้นเป็นพิธีกรรมอย่างหนึ่งซึ่งมี 2 แบบแผนวิธี คือ~การปลุกเสกโดยใช้ "วิชาฤทธิ์" ซึ่งเป็นฤทธิ์อย่างหนึ่งที่มีคำรับรองไว้ในหลายพระสูตร นั้นคือต้องทำพิธีกรรมตามแบบแผนก็จะสำเร็จเป็นวิชาฤทธิ์ ที่สำคัญคือมีการสวดปลุกเสกพระด้วยพระคาถาชินบัญชร สวดธรรมจักรกัปปวัตนสูตร มงคลสูตร ขันธปริตสูตร อาฎาณาติยสูตร อังคุลีมาลสูตร เป็นต้น หลังจากนั้นก็จะมีการสวดญัตติจตุตถกรรม ซึ่งเป็นการสวดญัติ ซึ่งเป็นการสวดลักษณะเดียวกับการสวดอุปสมบทของพระภิกษุแบบญัตติจตุตถะกรรม จากนั้นจะเป็นการสวดตรึง ก็จะสำเร็จเป็นฤทธิ์ ประเภทวิชาฤทธิ์

3.2 การปลุกเสกโดยใช้ "อิทธิฤทธิ์" ซึ่งเป็นฤทธิ์สำคัญอย่างหนึ่งซึ่งพระพุทธองค์ตรัสรับรองไว้ในหลายพระสูตร การใช้อิทธิฤทธิ์จะกระทำได้โดยผู้สำเร็จแล้วถึง"จตุตถณาน" เป็นขั้นต่ำและเป็นการกระทำโดยอาศัย"อุปจารสมาธิ"และอาศัยกำลัง"อิทธิบาท" ไม่ใช่ว่าใครๆจะกระทำได้ การปลุกเสกพระสมเด็จโดยเจ้าประคุณสมเด็จเองจะปลุกเสกโดยใช้อิทธิฤทธิ์ ยกเว้นการปลุกเสกพระสมเด็จรุ่นสองแผ่นดินของวังหน้าที่เรียกว่าพิธีมหาพุทธาพิเศกนั้น ได้กระทำ 2 พิธีกรรม คือทั้งอิทธิ์ฤทธิ์และวิชาฤทธิ์
การปลุกเสกโดย 2 วิธีนี้ จะบังเกิดเป็นพุทธคุณในองค์พระที่แผ่ไปโดยหาประมาณไม่ได้ การตรวจสอบพระพุทธคุณดังกล่าวจึงต้องตรวจสอบด้วยพลังอำนาจแห่งจิต ซึ่งผู้ตรวจสอบจะต้องบรรลุถึง "ทุติยณาน" เป็นขั้นต่ำ
ดังนั้นถ้าผู้ตรวจสอบไม่มีธรรมถึงขั้นนี้ ผลการตรวจสอบนั้นเป็นเพียงความนึกคิดหลงเอาเอง

มีหลายกรณีอ้างว่าตรวจสอบพุทธคุณโดยใช้วิธีเสี่ยงเซียมซี ทอดเบี้ย ทอดเต่า วัดคืบ ใช้ลูกตุ้มแกว่ง หรือวิธีอื่นในลักษณะเดียวกัน โดยอ้างว่ามีจิตวิณญาณจากภายนอก ดลบันดาลบอกกล่าว ซึ่งสำหรับผู้รู้แล้วไม่สรรเสริญและไม่ยอมรับการตรวจสอบลักษณะนี้ เพราะไม่ใช่วิธีที่จะตรวจสอบพระพุทธคุณของพระได้เลย
ดังนั้น ท่านผู้มีพระสมเด็จที่ประกอบสมบูรณ์แล้วเป็นองค์พระ ก็อย่ายึดมั่นถือมั่น ตามคำคนอื่นเลย พึ่งน้อมใจเคารพว่าเป็นพระสมเด็จ แล้วปลุกเสกพระคาถาชินบัญชรไปเถิด ก็จะสัมฤทธิ์ความศักดิ์สิทธิ์ตามที่เจ้าประคุณสมเด็จเคยถวายพระพรต่อพระเจ้าอยู่หัวในรัชกาลที่ 4 นั้น

เพื่อไม่พลาด ข่าวสารต่างๆ คมชัดลึก ไปที่
Website -  www.komchadluek.net
Facebook - https://www.facebook.com/komchadluek