กะเทย-บัณเฑาะก์

              กรณีนายสรวีย์ นัดที หรือ แจ๊ส อายุ ๒๔ ปี มิสทิฟฟานี่ ยูนิเวิร์ส ๒๐๐๙ ตัดสินใจหันหลังให้วงการมายาของชาวสีม่วง  เพื่อเริ่มต้นชีวิตใหม่ใต้ร่มกาสาวพัสตร์ โดยเข้าอุปสมบทที่บ้านเกิด อ.เมือง จ.สงขลา เมื่อวันที่ ๑๒ พฤษภาคม ๒๕๕๖ ที่ผ่านมานั้น
 
              นายนพรัตน์ เบญจวัฒนานันท์ ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ชี้แจงข้อสงสัยที่ว่า คนเพศที่สามสามารถเข้ารับการอุปสมบทได้หรือไม่ว่า  พระธรรมวินัยระบุไว้ชัดเจนว่าการเป็นบัณเฑาะก์หรือกะเทยอย่างชัดเจน ไม่สามารถบวชได้ หากบวชแล้วก็ต้องสึก แต่หากผู้อุปสมบทมีร่างกายและจิตใจเหมือนชายปกติ อย่างกรณีพระแจ๊ส เมื่อนำซิลิโคนหรือสิ่งแปลกปลอมที่เป็นของเพศหญิงออกจากร่างกายจนมีสภาพเป็นผู้ชายปกติ ไม่มีจิตใจเป็นผู้หญิงแล้ว สามารถอุปสมบทได้ ขึ้นอยู่กับดุลพินิจของเจ้าอาวาส

              กะเทย ตรงกับคำบาลีว่า ’อุภโตพยัญชนก’ หมายถึง ’คนมีอวัยวะ ทั้งสองเพศคือเพศชายและหญิง’ (อุภโต=2, พยัญชนะ=ลักษณะ) เพราะมี ’เครื่องหมาย เพศ’ ของชายและหญิงอยู่ในคนคนเดียว  ในที่นี้หมายถึงทั้งทอม, ทั้งดี้, ทั้งเกย์ (เกย์คิงและเกย์ควีน), เสือใบ ฯลฯ ทั้งหลาย พึงทราบว่า

              การเกิดมาเป็นกะเทยนั้นไม่ใช่จำกัดเฉพาะมนุษย์เท่านั้น พระไตรปิฎกหลายเล่มเช่น พระไตรปิฎกเล่ม ๑ วิ.มหา.๑/๓๘/๕๒ จำแนกไว้ว่ากะเทยมี ๓ ประเภทใหญ่ๆ คือ กะเทยที่เป็นมนุษย์, กะเทยที่เป็น สัตว์เดรัจฉาน และกะเทยที่เป็นอมนุษย์

              ส่วนอีกคำคือ บัณเฑาะก์ (บัน-เดาะ) ตรงกับคำบาลี ว่า "ปณฺฑก"  ทั้งนี้พระธรรมกิตติวงศ์ (ทองดี สุรเตโช ป.ธ.๙) ราชบัณฑิต และเจ้าอาวาสวัดราชโอรสาราม ได้ให้ความหมายไว้ว่า "บัณเฑาะก์" ได้แก่ คน ๓ ประเภท

              ๑.ชายผู้ประพฤตินอกรีตในทาเสพกาม (ผู้มีราคาะจัด)

              ๒.ชายผู้ถูกตอน หรือ ขันที

              ๓.กะเทยโดยกำเนิด (ผู้ไม่ปรากฏว่าชายหรือหญิง (วินัยมุขเล่ม ๓)
  
              บัณเฑาะก์ ในทางพุทธศาสนาถือว่าเป็นอภัพบุคคล คือ บุคคลที่ไม่สมควรบวชเป็นพระภิกษุ ผู้ห้ามบวช แะห้ามพระอุปัชฌาย์บวชเด็ดขาด ถ้าพระอุปัชฌาย์ฝ่าฝืนมีความผิดให้ถอดถอนจากตำแหน่งพระอุปัชฌาย์ ตามกฎหมายว่าด้วยคณะสงฆ์