'หลวงพ่อสาย'เกจิดังแปดริ้วละสังขาร
สิ้นเกจิดังเมืองแปดริ้ว 4 แผ่นดิน 'หลวงพ่อสาย ยสชาโต' แห่งวัดชำป่างาม พระนักพัฒนาและอนุรักษ์ผืนป่าแหล่งรวมสมุนไพร
เมื่อเวลา 16.00 น. วันที่ 25 กุมภาพันธ์ ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจากศิษยานุศิษย์จากวัดชำป่างาม เขตพื้นที่ ม.8 ต.ท่ากระดาน อ.สนามชัยเขต จ.ฉะเชิงเทราว่า หลวงพ่อสาย ยสชาโต หรือพระครูสุนทรสีลาภิรัต (สาย ศรีเมือง) เจ้าอาวาสวัดชำป่างาม และอดีตเจ้าคณะตำบลชั้นเอก ต.ท่ากระดาน ได้ละสังขารแล้ว ตั้งแต่เมื่อวันที่ 22 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ด้วยวัย 96 ปี 11 เดือน พรรษา 75 ที่โรงพยาบาลเปาโล ในกรุงเทพมหานคร หลังจากได้ป่วยด้วยโรคชรา ซึ่งได้มีพิธีพระราชทานน้ำหลวงอาบศพไปแล้ว เมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 24 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา
บรรดาเหล่าศิษยานุศิษย์ที่มีทั้งชาวบ้านสามัญไปจนถึงข้าราชการระดับสูงต่างตกลงร่วมกันว่า จะตั้งพิธีบำเพ็ญกุศลสวดพระอภิธรรมที่บริเวณศาลาการเปรียญหลังใหญ่ของวัด รวมเป็นเวลา 9 คืนนับจากวันที่ 23 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมาไปจนถึงวันที่ 3 มีนาคม หลังจากนั้นจะทำการบรรจุสังขารไว้ยังที่ศาลาการเปรียญเป็นเวลา 100 วัน เพื่อจะดำเนินการขอพระราชทานเพลิงศพ และเพื่อให้บรรดาเหล่าศิษยานุศิษย์ที่ยังไม่ทราบข่าว และอยู่ห่างไกลได้เข้ามาสักการะสังขารของท่านอย่างทั่วถึงกัน
ขณะเดียวกันก่อนหน้านี้ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา หลวงพ่อสายได้มีอาการป่วยด้วยโรคชราเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจติดขัด สาเหตุจากมีพังผืดที่ปอด จนถูกบรรดาเหล่าศิษย์ฯได้พยายามนำส่งเข้าไปทำการรักษาอาการยัง รพ.ดังกล่าวมาอย่างต่อเนื่อง ในที่สุดได้มรณภาพละทิ้งสังขารลง
สำรับประวัติของหลวงพ่อสายนั้น ถือเป็นเกจิชื่อดังในภาคตะวันออก ทางด้านเมตตามหานิยม ความคงกระพันชาตรี โดยเฉพาะน้ำพระพุทธมนต์ด้านพุทธคุณที่สามารถล้างสิ่งชั่วร้ายสิ่งที่ไม่ดีต่างๆให้ออกไป แก่ผู้ที่ถูกกระทำเกี่ยวกับทางไสยศาสตร์และมนต์ดำ อีกทั้งยังเป็นศิริมงคลเสริมบารมีให้แก่ผู้ที่ได้มาอาบน้ำพระพุทธมนต์ของท่าน ในประสบความสำเร็จในหน้าที่การงาน
หลวงพ่อสายนั้นถือเป็นศิษย์รุ่นสุดท้ายของหลวงพ่อคง สุวัณโณ แห่งวัดท้าวอุไท ต.ท่ากระดาน ก่อนที่ท่านจะย้ายมาเป็นเจ้าอาวาสวัดแห่งเดียวกันนี้ ที่ได้สืบทอดวิชาความรู้ต่างๆ ต่อเนื่องกันมา โดยที่ในอดีตหลวงพ่อคงนั้น เป็นพระสงฆ์ที่มีวิชาอาคมแกร่งกล้า เดินธุดงค์มาจากประเทศเขมร มาปัดเป่าช่วยเหลือชาวบ้านจนเป็นที่เลื่อมใสศรัทธา ในด้านความขลังของวิชาอาคมโดยเฉพาะยันต์กันภัย "ยันต์เกาะเพชรสี่ทิศ" ที่เชื่อกันว่าทำให้หนังเหนียวเหมาะแก่ข้าราชการทหารตำรวจ จะนำติดตัวไปใช้ในการปฏิบัติหน้าที่ นเป็นที่เลื่องลือมาจนถึงทุกวันนี้
นอกจากหลวงพ่อสายนับเป็นที่พึ่งทางจิตใจของชาวบ้านในพื้นที่ห่างไกลแล้ว ท่านยังได้ทำคุณประโยชน์ต่อสังคม สนับสนุนทางด้านการศึกษาให้แก่ชุมชนหมู่บ้าน ด้วยการสร้างโรงเรียนวัดชำป่างาม "สายรัฐประชาสรรค์" พร้อมคอยสนับสนุนปรับปรุง บำรุง ซ่อมแซมโรงเรียนมาให้โดยตลอด นับแต่ปี พ.ศ.2485 เป็นต้นมา ด้วยเงินทุนของตัวท่านเองที่ได้มาจากการบริจาคทำบุญ อีกทั้งยังเป็นนักอนุรักษ์สร้างป่าชุมชน ลูกพืชสมุนไพรไทยไว้ให้ชาวบ้านเก็บใช้รักษาโรคยามป่วยไข้ในหมู่บ้าน ซึ่งในสมัยอดีตเป็นพื้นที่ห่างไกล ไม่มีสถานพยาบาลอยู่ใกล้เคียง จนเป็นที่เลื่อมใสศรัทธาต่อชาวบ้าน และบรรดาเหล่าข้าราชการระดับสูงทั่วไป
ขณะเดียวกันหลังจากที่หลวงพ่อสายได้ละสังขารลงไป จึงทำให้บรรดาศิษยานุศิษย์ รวมถึงผู้คนทั่วไปที่ทราบข่าว ได้พยายามที่จะเข้ามาสอบถามเกี่ยวกับวัตถุมงคล และเครื่องลางของขลัง ของท่านเพื่อที่จะนำไปเก็บไว้เป็นที่ระลึก บูชา และสะสมไว้ โดยล่าสุดนั้นก่อนที่ท่านจะละสังขารไป ท่านได้ร่วมนั่งเป็นประธานในพิธีพุทธาภิเสก สร้างเหรียญหลวงพ่อคงย้อนยุค 178 ปี และเหรียญหลวงพ่อสายรุ่นเสาร์ 555 ครบแปดรอบ 96 ปี เมื่อวันที่ 22 ธันวาคม 2555 ที่ผ่านมา ซึ่งถือว่าวัตถุมงคลดังกล่าวเป็นรุ่นสุดท้ายที่ท่านได้ร่วมเข้าพิธีปลุกเสกสร้างไว้ โดยวัตถุมงคลรุ่นดังกล่าวที่สร้างขึ้นนี้ ประกอบด้วยเหรียญหลวงพ่อคงทรงอาร์ม รวม 3 เนื้อ คือ เหรียญเงิน เหรียญทองแดงลงยา และเหรียญนวโลหะ ขณะที่เหรียญหลวงพ่อสายสร้างเป็นเหรียญรูปไข่ เนื้อเงิน เนื้อทองแดงลงยา และเนื้อนวโลหะ เช่นเดียวกัน