“สนช.”รับหลักการพ.ร.บ.ปิโตรเลียม-พ.ร.บ.ภาษีเงินได้ปิโตรเลียม

 

 ที่รัฐสภา มีการประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) เพื่อพิจารณาร่างพ.ร.บ.ปิโตรเลียม ฉบับที่... พ.ศ....และร่างพ.ร.บ.ภาษีเงินได้ปิโตรเลียม ฉบับที่... พ.ศ.... มีนายพีระศักดิ์ พอจิต รองประธานสนช.คนที่2 เป็นประธานการประชุม โดยพล.อ.อนันตพร กาญจนรัตน์ รมว.พลังงาน กล่าวชี้แจงว่า สาระสำคัญของร่างพ.ร.บ.ปิโตรเลียม คือ การกำหนดเพิ่มจากเดิมที่การสำรวจหรือผลิตปิโตรเลียมต้องได้รับสัมปทาน สัญญาแบ่งผลผลิต หรือได้รับสัญญาจ้างสำรวจและผลผลิต รวมทั้งให้กำหนดให้ที่ใดสมควรที่จะดำเนินการสำรวจหรือผลิตปิโตรเลียมในรูปแบบใดเป็นไปตามที่คณะกรรมการประกาศกำหนดโดยความเห็นชอบของครม. ส่วนสาระสำคัญของร่างพ.ร.บ.ภาษีเงินได้ปิโตรเลียม เพื่อแก้ไขเพิ่มเติมพ.ร.บ.ปิโตรเลียม พ.ศ. 2514 เพื่อเพิ่มระบบสัญญาแบ่งปันผลผลิตเป็นอีกระบบในการแสวงหาประโยชน์การสำรวจและผลิตปิโตรเลียม นอกเหนือจากระบบการให้สัมปทาน สมควรกำหนดอัตราและหลักเกณฑ์ในการคำนวณภาษีเงินได้ปิโตรเลียมให้สอดคล้องกับลักษณะการดำเนินการของระบบสัญญาแบ่งปันผลผลิต การแก้ไขพ.ร.บ.ทั้งสองฉบับนี้ เพื่อให้การบริหารจัดการปิโตรเลียมมีความรัดกุมรอบคอบมากขึ้น

     จากนั้นมีสมาชิกลุกขึ้นอภิปรายอย่างกว้างขวาง และที่ประชุมได้ลงมติเห็นชอบร่างพ.ร.บ. ปิโตรเลียมในวาระแรก 152 ต่อ 5 เสียง และมีมติเห็นชอบ พ.ร.บ. ภาษีเงินได้ปิโตรเลียม 154 ต่อ 2 เสียง พร้อมตั้งกรรมาธิการวิสามัญขึ้นมาพิจารณารายละเอียดในวาระ2-3 ต่อไป

     ต่อมาเวลา 13.30 น. พล.อ.อนันตพร กาญจนรัตน์ รมว.พลังงาน แถลงภายหลังการประชุมว่า ยืนยันว่าเราไม่ละเลยความเห็นทั้งจากภาคประชาชนและสนช.จะนำมาดูเพื่อแก้ไขร่างพ.ร.บ.ทั้งหมด ในชั้นแปรญัตติ คิดว่าจะปรับปรุงมากพอสมควร 

     เมื่อถามว่าเครือข่ายประชาชนปฏิรูปพลังงานไทย ขู่ว่าจะไม่รับร่างรัฐธรรมนูญหากสนช.รับหลักการ 2 กฎหมายดังกล่าว พล.อ.อนันตพร กล่าวว่า ตนคิดว่าภาคประชาชนก็ต้องรอฟังด้วย ที่ระบุว่าไม่รับร่างรัฐธรรมนูญ อาจเพราะเขาเกิดความไม่สบายใจว่าร่างกฎหมายที่เข้ามา แก้ตามที่เขาต้องการหรือไม่ ตนเชื่อว่าหลังจากที่ได้ชี้แจงไปแล้วภาคประชาชนจะเข้าใจ ว่าเราแก้กฎหมายในส่วนที่จำเป็นไปก่อน สนช.เขาก็ฟังเสียงประชาชน และภาคประชาชนก็ต้องฟังเสียงเราด้วย หากร่างกฎหมายดังกล่าวเสร็จจะสร้างความมั่นใจให้นักลงทุนมากขึ้น เราทำตามหน้าที่ และคำนึงให้มีการใช้พลังงานอย่างต่อเนื่องโดยสร้างความเป็นธรรมให้ทุกฝ่ายเข้าถึงความเสมอภาค ไม่เอื้อประโยชน์ให้ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งและตอบคำถามสังคมได้ว่าสิ่งที่กระทรวงทำ ประเทศไทยและประชาชนได้ประโยชน์อย่างไร 

     ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากกลุ่มเครือข่ายปฏิรูปพลังงานประเทศไทย (คพป.) กว่า 100 คน ที่มาชุมนุนมบริเวณหน้าอาคารัฐสภา รับทราบผลมติการประชุมของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.)มีมติ รับหลักการร่างพ.ร.บ.ปิโตรเลียม (ฉบับที่..) พ.ศ... และร่างพ.ร.บ.ภาษีเงินได้ปิโตรเลียม (ฉบับที่...) พ.ศ นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ แกนนำเครือข่ายฯ ได้ แถลงการณ์ ว่า การอภิปรายของรมว.พลังงานพาดพิงภาคประชาชนอย่างไม่ถูกต้อง ขัดแย้งกันเอง ไม่มีเหตุผลประกอบชัดเจนว่าจะบริหารและขายปิโตรเลียมอย่างไร เพราะในกฎหมายภาษีปิโตรเลียมที่ต้องมีการแก้ไข15 ประเด็น แต่มีเพียง2ประเด็นที่ได้รับการแก้ไข และอีก 2 ประเด็นอ้างว่าไปแก้ไขในอนาคต เราผิดหวังสนช.ที่ลงมติแบบนี้ โดยไม่ฟังเสียงที่แท้จริงของประชาชน ทั้งยังไม่อยู่บนเหตุผลและฐานผลการศึกษาที่ตนเองเคยรับรองไว้ กลับมารับรองกฎหมายที่ขัดแย้งกับสิ่งที่ตนเองศึกษา ต้องตอบคำถามประชาชนว่า การกลืนน้ำลายตนเอง ถ่มน้ำลายรดฟ้านั้น พวกท่านยังมีความละอายตัวเองหรือไม่ การที่ประชาชนยอมให้รัฐบาลนี้เข้ามานั่งในสภาหรือในครม. ก็เพราะหวังให้โอกาสมาปฏิรูปประเทศ ไม่ใช่เปลี่ยนคณะมาผลัดกันชมสมบัติชาติ การรับหลักการครั้งนี้จะเป็นตราบาปในประวัติศาสตร์ พวกเราทั้งหมดจะลงรายมือ ลงรูป ของคนที่รับหลักการวันนี้ว่าเป็นใครบ้าง แต่พวกเราจะยืนหยัดสิ่งนี้ต่อไป โดยขอให้ร่วมกันล่ารายชื่อเพื่อเสนอกฎหมายพรบ.ของภาคประชาชน โดยโหลดจากเว็ปไซต์โดยเร็วที่สุด เมื่อวานในได้รายชื่อแล้ว 5 พันคนแล้ว ยังขาดอีก 5 พันคน จึงขอให้ช่วยกันรวบรวมให้เร็วและมากที่สุด