“ไทม์” ช่วงเวลาแห่งความอร่อย

          ในหนึ่งวันที่มีเวลายี่สิบสี่ชั่วโมง เป็นไปไม่ได้ว่า ทุกคนจะมีช่วงเวลาดีๆ ได้ตลอดทั้งวัน...ส่วนจะเป็นช่วงไหนบ้างนั้น คงต้องปล่อยให้เป็นเรื่องของแต่ละบุคคล สำหรับมนุษย์ออฟฟิศอย่างเราอย่างท่าน เชื่อเหลือเกินว่า แค่เพียงได้นั่งทอดหุ่ยในสถานที่สบายๆ ได้กินอาหารรสชาติถูกปากกับเพื่อน คนรัก หรือสมาชิกในครอบครัว หลังผ่านการลุยงานหนักมาทั้งวัน น่าจะเป็นหนึ่งในช่วงเวลาดีๆ ไม่จำเป็นต้องทำบ่อยๆ แค่นานครั้งก็ถือว่าโอเคละ...

 
           

           บนถนนนางลิ้นจี่-ช่องนนทรี มีร้านอาหารเพิ่งเปิดให้บริการได้สักครึ่งปีที่ผ่านมาชื่อว่า “THYME Eatry & Bar : ไทม์ อีทเทอร์รี่ แอน บาร์” ด้วยคำว่า “THYME” มีความหมายว่า “สมุนไพร” และพ้องเสียงกับคำว่า “TIME แปลว่า เวลา” ภาษาอังกฤษ ทำให้นักธุรกิจหนุ่มและเจ้าของร้าน “ณัย” ประณัย พรประภา ผู้ชื่นชอบการลิ้มรสอาหารอร่อยต่างๆ จากทั่วทุกมุมโลก ปิ๋งไอเดียเลือกใช้ชื่อนี้ เพราะต้องการให้สอดคล้องกับคอนเซ็ปต์การบริการแบบ “ออล-เดย์ ไดนิ่ง” ไม่ว่าจะเป็นมื้อเช้า มื้อสาย มื้อกลางวัน และมื้อค่ำ โดยได้แรงบันดาลใจในการรังสรรเมนูจากอาหารประเภทยุโรปและสเปนในรูปแบบ “โมเดิร์นยูโรเปี้ยน” จากฝีมือเชฟหนุ่มอิมพอร์ตมาจากดินแดนกระทิงดุโดยตรง ซึ่งมีรายการอาหารให้เลือกทั้งแบบจานทานเล่น จานเรียกน้ำย่อย จานหลัก จานเส้น เพื่อให้ลูกค้ารู้สึกผ่อนคลายและสนุกสนานไปกับอาหารที่ถูกดีไซน์เพื่อให้ลูกค้าได้แชร์ซึ่งกันและกัน ส่วนการตกแต่งร้าน ก็ยังคงยึดหลักสไตล์โมเดิร์นอินดัสเทรียลตามแบบฉบับของยุโรปเพื่อให้บรรยากาศสอดคล้องกับอาหารที่เสิร์ฟอีกเช่นกัน โดยแบ่งพื้นที่ออกเป็นชั้นบนชั้นล่างรวม 80 ที่นั่ง และห้องส่วนตัวอีก 1 ห้องรองรับได้ 12 ที่นั่ง

             มาถึงอาหารจานแรกที่เชฟหนุ่มเครางาม “Mario Rodriyuez Gago” บรรจงรังสรรมาเรียกน้ำย่อยคือ “ทูน่าทาทา” เป็นรายการกินเล่นน้องใหม่ที่ พินดาว ทรวงชัย ผู้จัดการร้านเล่าให้ฟังว่าเพิ่งจะบรรจุลงในเมนูอาหารหมาดๆ รสชาติจัดจ้านกว่าร้านอาหารยุโรปทั่วๆ ไป เพราะเชฟต้องการเอาใจคนไทยที่ชื่นชอบทูน่าสดและรักสุขภาพในคราวเดียวกันด้วยการโรยงาขาวงาดำ เสิร์ฟคู่กับมะเขือเทศสดสับละเอียดเพิ่มความสดชื่น

             ในส่วนของรายการอาหารว่าง หรือ ทาปาส ในภาษาสเปนที่อยากจะเล่าใหัฟังมีอยู่ 2 จาน ได้แก่ “Roast Beef Toast : ขนมปังหน้าเนื้อ” เรียกชื่ออาจจะนึกหน้าตาไม่ออก ขออธิบายคร่าวๆ ให้เข้าใจง่ายว่า ขนมปังอบกรอบถูกวางทับด้วยเนื้อวัวโดยใช้เนื้อจากซี่โครงตุ๋นจนนุ่มวางทับด้วยชีสและท็อปปิ้งหอมผัดกับเครื่องเทศจนมีลักษณะคล้ายแยม คำแรกที่กัดสัมผัสได้ถึงความกรอบจากขนมปังความนุ่มจากเนื้อความเค็มจากชีสและกลิ่นหอมจากเครื่องเทศ และเพื่อเพิ่มอรรถรสในการกินมีเคล็ดลับอยู่นิดเดียวคือนำเข้าเตาอบก่อนเสิร์ฟ ถัดมาอีกจาน “Garlic Prawns Garlic &Chill oil : กุ้งกระเทียมผัดในน้ำมันมะกอก” สำหรับจานนี้น่าจะถูกปากนักชิมที่ไม่ค่อยถนัดรสชาติเข้มข้นสักเท่าไหร่ แต่เพราะเชฟเน้นวัตถุดิบสดใหม่โดยเฉพาะรสหวานจากเนื้อกุ้งเป็นตัวชูโรง และที่ลืมไม่ได้เวลากินต้องไม่ลืมเอาขนมปังจุ่มในน้ำมันด้วย

            หนึ่งในไฮไลท์ของจานเด่น “Black Ink : ข้าวผัดหมึกดำ” คือ 1 ใน 6 เมนู “ข้าวผัดสเปน” เพราะเชฟเป็นชาวสเปนเลยพร้อมนำเสนออาหารจานนี้ โดยความพิเศษอยู่ที่การนำเอาข้าวสารเคี่ยวกับน้ำสต๊อกซีฟู้ดด้วยไฟอ่อนๆ จนเกือบสุกได้ที่ จากนั้นจึงใส่กุ้งและเครื่องเทศลงไปผัดจนแห้งเป็นเนื้อเดียวกัน โดยบนข้าวนั้นจะท็อปปิ้งด้วยออคโตปุส สลับกับหมึกกล้วยและเลมอน จากหน้าตารูปลักษ์ที่เห็นภายนอกไม่สามารถบอกได้เลยว่ารสชาติจะเป็นเช่นไรจนกว่าจะได้ลองตักใส่ปากจึงจะรู้...ทั้งความกลมกล่อมของตัวข้าวผัด และความหวานจากหมึกยักษ์นำเข้าจากกาลิเซียซึ่งได้ชื่อว่าเป็นแหล่งที่ออคโทปุสดังมากๆ ด้วยความกรอบนอกนุ่มใน ยิ่งได้รสเปรี้ยวและกินหอมจากเลมอนช่วยขับความเข้มข้นให้เพิ่มยิ่งทำให้จานนี้มีความสมบูรณ์พร้อมกับคำว่า อร่อย

           เพิ่มดีกรีความจัดจ้านขึ้นอีกนิดกับ “สปาเก็ตตี้ต้มยำกุ้งแม่น้ำ” จานนี้เกิดขึ้นเพราะความหลงใหลในรสต้มยำของเชฟหนุ่มชาวสเปนหลังจากมาอยู่เมืองไทยนานเกือบปี เจ้าตัวจึงรังสรรค์ขึ้นโดยปรับด้วยการนำเอาอาหารยุโรปอย่างเส้นสปาเก็ตตี้มาผัดกับซอสซึ่งอิงกับวัตถุดิบไทยๆ อย่างเครื่องปรุงต้มยำผัดจนเข้าเนื้อขลุกขลิกเมื่อบวกกับความหวานจากเนื้อกุ้งแม่น้ำขนาดตัวละ 250 กรัม จึงออกมาเป็นอาหารหน้าตาฝรั่งแต่รสชาติไทยแท้...ถูกปากทั้งลูกค้าชาวไทยและชาวต่างชาติไปถ้วนหน้า

           ถึงแม้ว่าร้านไทม์ จะไม่เน้นรายการของหวานหลากหลาย แต่ก็ยังพอมีทีเด็ดไว้มัดใจนักชิมนิยมหวานอยู่บ้าง “Torrija : โทรริก้า” เป็นอาหารประจำชาติสเปนอีกหนึ่งจาน โดยใช้ขนมปังโทสต์ จุ่มในซอสที่เชฟปรุงเอาไว้จากนั้นจึงนำมาทอดให้ด้านนอกมีความกรุบกรอบเหมือนเคลือบด้วยคาราเมล แต่พอกัดเข้าไปจะรับรสสัมผัสได้ถึงนุ่มชุ่มฉ่ำไปด้วยซอสที่ซ่อนตัวอยู่ด้านใน จานนี้เสิร์ฟคู่กับไอศกรีมวนิลาโฮมเมดโรยด้วยเบอร์รี่อบแห้ง และเพราะเป็นจานที่ต้องปรุงสดใหม่ทุกครั้ง เรียกว่า ออเดอร์ บาย ออเดอร์ จึงต้องทำใจถ้าจะต้องใช้เวลารอนานสักหน่อย

           และที่ขาดไม่ได้เครื่องดื่มก็เหมือนๆ ร้านอาหารทั่วไปมีทั้งดับกระหายคลายร้อนทั้งแบบนันแอลกอฮอล์และแบบมีแอลกอฮอล์ไล่เรียงแต่ๆ ละมุนลิ้นไปจนถึงเข้มหนักมาก แต่ที่เก๋ไม่เหมือนใครอย่างในรายการค็อกเทล “เดอร์ตี้สวิส” และมอคเทล “ไทม์พั้นช์” ทางร้านจะเน้นผสมน้ำหวานรสลิ้นจี่และประดับด้วยลิ้นจี่สดทั้งลูก เหตุง่ายๆ ไม่ซับซ้อนเพราะร้านตั้งอยู่บนถนนนางลิ้นจี่...ดูไม่ค่อยเกี่ยวแต่แสดงให้เห็นถึงความใส่ใจแม้เพียงนิดๆ หน่อยๆ ก็ไม่มองข้าม

           ไทม์ อีทเทอร์รี่ แอน บาร์ เปิดให้บริการทุกวันตั้งแต่เวลา 11.30-23.30 น. ถ้าต้องการพื้นที่สำหรับปาร์ตี้สังสรรค์วันพิเศษสามารถโทร.จองได้ที่ 0-2678-133