จับเอเย่นต์ค้ายาเสพติดยึดยาบ้า-ไอซ์มูลค่า250ล.

          วันที่ 22 มิถุนายน 2559 เมื่อเวลา 10.30 น.  พล.ต.ต.อาชวันต์ โชติกเสถียร รอง ผบช.ปส. พล.ต.ต.ทนัย อภิชาตเสนีย์ ผบก.สกส.บช.ปส. พล.ต.ต ทนงศักดิ์ ทั่งทอง ผบก.ปส.1 พล.ต.ต ไชยยา รุจจนเวท ผบก.ปส.2  ร่วมกันแถลงผลการจับกุมคดีเกี่ยวกับยาเสพติด จำนวน 2 คดี ได้ผู้ต้องหาจำนวน 4 คน พร้อมของกลางยาบ้า 814,000 เม็ด ไอซ์ 5 กิโลกรัม โทรศัพท์มือถือ 6 เครื่องมูลค่ารวมกว่า 250 ล้านบาท 
        
          คดีแรก - พล.ต.ต.ทนัย อภิชาตเสนีย์ ผบก.สกส.บช.ปส.พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.สกัดกั้นการลำเลียงยาเสพติด (สกส.บช.ปส.) ได้ทำการจับกุมตัว นายมงคล เกษมจิตร์ อายุ 45 ปี ที่อยู่ 332/1 หมู่ 1 ต.กำแพงแสน อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม พร้อมด้วยของกลางยาบ้าประมาณ 600,000 เม็ดไอซ์ประมาณ 5 กิโลกรัม รถยนต์เก๋ง ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นวีออส สีดำ หมายเลขทะเบียน 2 กร 5684 กรุงเทพมหานคร จำนวน 1 คัน โทรศัพท์มือถือ 2 เครื่อง  โดยสามารถจับกุมตัวได้บริเวณในซอยเข้าบ้านเลขที่ 332/1ม.1 ต.กำแพงแสน อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 21 มิถุนายน  ที่ผ่านมา
        
          พล.ต.ต.อาชวันต์ เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้รับแจ้งจากสายลับว่าจะมี นายมงคล ซึ่งเป็นผู้ต้องโทษในคดียาเสพติด แต่ยังคงมีพฤติการณ์ลักลอบจำหน่ายยาเสพติดอยู่ในพื้นที่ จ.นครปฐม และพื้นที่ใกล้เคียง เจ้าหน้าที่จึงเฝ้าติดตามพฤติการณ์ จนกระทั้งเมื่อเวลา 10.00 น.  วันที่ 21 มิถุนายน พบนายมงคล ขับรถยนต์ ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นวีออส สีดำ หมายเลขทะเบียน 2 กร 5684 กรุงเทพมหานคร ออกมาจากบ้านพักโดยพบท่าทางมีพิรุธ พอมาถึงบริเวณหน้าปากซอยเจ้าหน้าที่จึงแสดงตัวเพื่อขอตรวจค้น ระหว่างนั้นผู้ต้องหากลับเร่งเครื่องยนต์เพื่อหวังจะหลบหนี ทางเจ้าหน้าที่เห็นท่าไม่ดีจึงขับรถยนต์ขวางเอาไว้ได้ จากการตรวจค้นภายในรถพบของกลางซุกซ่อนอยู่กระโปรงท้ายรถ จึงตรวจยึดของกลางไว้พร้อมทั้งนำตัวมาสอบสวนเพิ่มเติม
         
          นายมงคล ให้การรับสารภาพว่า ก่อนหน้านี้เมื่อปี 51 ที่ผ่านมา ตนเคยต้องโทษคดียาเสพติดอยู่ที่เรือนจำสุราษฎร์ธานี เป็นระยะเวลา 1 ปี 6 เดือน ในข้อหาจำหน่ายยาไอซ์ จำนวน 20 กรัม เมื่อพ้นโทษมาเมื่อปี 53 ได้สักระยะก็ถูกทางเจ้าหน้าที่ สภ.เคียนซา จ.สุราษฎร์ธานี ล่อซื้อยาบ้า จำนวน 100 เม็ด แต่ครั้งนั้นตนสู้คดีจนหลุดออกมาได้ ส่วนในครั้งนี้ตนกำลังจะลำเลียงยาเสพติดทั้งหมดไปส่งมอบให้กับลูกค้า ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 2 โดยทุกครั้งจะรับยาบ้ามาจากชายแดน จ.พะเยา ก่อนลำเลียงส่งลูกค้าใน อ.ปากท่อ จ.ราชบุรี และสุราษฎร์ธานี และแต่มาถูกจับกุมได้เสียก่อน 
              
          เบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งข้อหา “มียาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1( ยาบ้าและไอซ์) ไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย” ก่อนนำตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน บก.ปส.1  ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
                  
          คดีที่สอง - พ.ต.อ.ชยพจน์ หาสุณหะ รอง ผบก.ปส.2 พร้อมด้วย พ.ต.อ.ชัยโรจน์ ชัยยะ พ.ต.อ.พรศักดิ์ สุรสิทธิ์ รอง ผบก.ปส.2 พ.ต.อ.วันชัย อิทธิฤทธิ์ ผกก.2 บก.ปส.2 พ.ต.อ.เอกพัศ พานุรักษ์ ผกก.3 บก.ปส.2 ร่วมกันจับกุมตัว นายตั้ม (นามสมมุติ) เยาวชน อายุ 17 ปี อ.บ้านลาด จ.เพชรบุรี นายพีรภาส นุชเจริญ อายุ 24 ปี อยู่บ้านเลขที่ 39 ม.5 ต.สมอพลือ อ.บ้านลาด จ.เพชรบุรี และนายสุวินัย บุญเอี่ยม อายุ 23 ปี อยู่บ้านเลขที่ 6 ม.8 ต.ทุ่งอรุณ อ.โชคชัย จ.นครราชสีมา พร้อมของกลางยาบ้าจำนวน ประมาณ 214,000 เม็ด รถยนต์กะบะอิซูซุ รุ่นดีแม็ค 4 ประตู สีขาว หมายเลขทะเบียน 3กต 4428 กรุงเทพมหานคร รถยนต์กะบะ ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นวีโก้ สีบรอนซ์ทอง หมายเลขทะเบียน ผก 6630 นครราชสีมา โทรศัพท์มือถือ 4 เครื่อง โดยสามารถจับกุมตัวได้บริเวณด่านตรวจยานพาหนะสีคิ้ว ต.ลาดบัวขาว อ.สีคิ้ว จ.นครราชสีมา ต่อเนื่องถนนหมายเลข 304 หลัก กม.ที่ 282-285 ต.ปักธงชัยเหนือ อ.ปักธงชัย จ.นครราชสีมา และสวนสัตว์นครราชสีมา เมื่อเวลา 12.00 น.วันที่ 21 มิถุนายน ที่ผ่านมา 
        
          พล.ต.ต.อาชวันต์ เปิดเผยว่า การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจาก เจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งจากสายลับว่า จะมีกลุ่มบุคคลที่มีพฤติการณ์ลักลอบขนยาเสพติด เดินทางมารวมตัวกันที่ จ.สกลนคร และจะเข้าพักที่โรงแรม เอ็น เอ เค จ.สกลนคร ชุดจับกุมจึงได้เฝ้าติดตาม จนทราบว่ามีรถยนต์ต้องสงสัย คือ รถยนต์กระบะยี่ห้ออีซูซุ และรถยนต์กระบะยี่ห้อโตโยต้า ของกลาง จนกระทั่งกลุ่มบุคคลดังกล่าวได้ขับรถยนต์ออกจากโรงแรมที่พักพร้อมกันทั้ง 2 คัน ขับมุ่งหน้าไปทาง จ.นครพนม โดยมีรถกระบะโตโยต้า ขับนำหน้ารถยนต์กระบะยี่ห้ออีซูซุ ขับตาม จนกระทั่งรถยนต์ทั้ง 2 คันได้แวะเข้าพักที่ เค ซี เพลส บ้านไผ่ 
              
          พล.ต.ต.อาชวันต์ กล่าวต่อไปว่า หลังจากนั้นรถยนต์ทั้ง 2 คันได้ขับรถออกจากโรงแรมที่พักใช้ถนนมิตรภาพมุ่งหน้า จ.นครราชสีมา ชุดติดตามจึงได้ประสานไปยังด่านตรวจยานพาหนะสีคิ้วให้เจ้าหน้าที่ตำรวจตั้งด่านตรวจค้นรถ จนกระทั่งพบรถยนต์โต้โยต้า หมายเลขทะเบียน ผก6630 นครราชสีมา ที่ขับนำหน้า ขับเข้าด่านตรวจ ส่วนรถยนต์กระบะอีซูซุ ที่ขับตามได้ขับหลบด่านมุ่งไปยัง อ.โชคชัย จ.นครราชสีมา จนถึงถนน หมายเลข304 จนถึงหลัก กม.ที่ 282-285 ถนนสาย 304 ต.ปักธงชัยเหนือ อ.ปักธงชัย จ.นครราชสีมา มุ่งหน้าตัวเมืองนครราชสีมา บุคคลในรถได้ทิ้งสิ่งของต้องสงสัยเป็นกระเป๋าจำนวน 2 ใบลงข้างทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้จอดรถเพื่อตรวจสอบ จนทราบว่าเป็นยาบ้าจำนวน 104 มัด ประมาณ 208,000 เม็ด จึงได้ทำการตรวจยึดไว้ ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่อีกส่วนหนึ่งได้ขับรถติดตามเข้าไปในสวนสัตว์นครราชสีมา พบนายสุวินัยกำลังจะหลบหนี จึงได้เข้าทำการควบคุมตัวและตรวจค้นภายในรถยนต์ของกลางพบยาบ้าของกลางรวมจำนวน 3 มัด ประมาณ 6,000 เม็ด วางอยู่บนเบาะหลังรถ 
        
         จากการสอบสวนผู้ต้องหาทั้งหมดให้การรับสารภาพตรงกันว่าได้รับจ้างจากนายทุนให้นำยาบ้า จากจ.สกล ลงมายังภาคกลางแต่ยังไม่ทราบว่าให้ไปส่งที่ใด ซึ่งทางนายทุนจะโทรมาบอกที่หมายอีกที ซึ่งทำมาแล้ว 2 ครั้งได้ค่าจ้างครั้งละ 5 หมื่นเมื่อได้เงินมาก็จะเอามาแบ่งกัน อย่างไรก็ตามจะควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้งหมดมาสอบสวน เพื่อจะได้สืบสวนขยายผลการจับกุมบุคคลในเครือข่ายและยึดทรัพย์ต่อไป
        
          เบื้อต้นเจ้าหน้าที่แจ้งข้อหา “ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1(ยาบ้า) ไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย” ก่อนนำตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน บก.ปส.2 ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป